ไม่มีใครสามารถบังคับให้ตนเองเป็นคนดีได้เพราะเป็นอนัตตาใช่ไหมครับ

 
apiwit
วันที่  5 มิ.ย. 2559
หมายเลข  27857
อ่าน  2,301

เมื่อได้ยินว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา คือ ไม่สามารถบังคับบัญชาได้หรือไม่มีใครที่จะไปพากเพียรทำอะไรทั้งสิ้น คนที่มีอุปนิสัยที่จะทำความชั่วก็ยกเรื่องความเป็นอนัตตามาอ้าง เช่น คนที่ชอบไปกลั่นแกล้งผู้อื่น เขาก็สามารถอ้างได้ว่า ก็เป็นอนัตตาที่เขาจะทำอย่างนั้น ไม่มีใครห้ามเขาได้เพราะมันเป็นอนัตตา อย่างนี้เป็นต้น กระผมจึงอยากขอความเข้าใจจากท่านอาจารย์ในประเด็นที่ว่า เมื่อธรรมทุกอย่างเป็นอนัตตา ก็ไม่มีใครสามารถบังคับให้ตนเองเป็นคนดีได้ อย่างนี้ใช่ไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เมื่อกล่าวว่าอนัตตา ก็คือ บังคับบัญชาไม่ได้ มีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้น ทั้งสภาพธรรมที่ดี หรือ ไม่ดี ตามการสะสมมา ไม่มีใคร หรือ ตัวตนที่จะปล่อย หรือ ไม่ปลอย ให้ อกุศลเกิด ไม่เกิด เพราะฉะนั้นปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมไม่รู้ความจริงว่า มากไปด้วยอกุศล มากไปด้วยกิเลสที่เกิดขึ้น แทบจะตลอดเวลา ในวันๆ หนึ่ง เพียงเห็น ลืมตา ขึ้น อกุศลก็เกิดขึ้น ติดข้องแล้วโดยไม่รู้ตัว นั่นแสดงให้เห็นว่า ธรรมเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยากให้มีอกุศลเกิด แต่ กิเลสเกิดแล้ว มาก เป็นปกติ ดังนั้น คนดี คือ ขณะที่กุศลธรรมเกิดขณะนั้นเป็นคนดี ซึ่งก็ต้องเป็นผู้ตรงว่า เป็นคนดีมากหรือน้อยในวันๆ หนึ่งๆ ที่มากไปด้วยอกุศลและกิเลส

การเข้าใจว่าเป็นอนัตตาจริงๆ จึงไม่ใช่เป็นข้ออ้าง แต่เป็นความเข้าใจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ที่เข้าใจว่ามีแต่ธรรมไม่ใช่เรา เมื่อเข้าใจเช่นนี้ ก็จะไม่ไปพยายามจะไปทำ จะไปละ ด้วยความเป็นตัวตน แต่ อบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไป โดยเข้าใจเบื้องต้นว่ามีแต่ธรรม เพราะหนทางละอกุศล ละกิเลส มีอยู่หนทางเดียว คือ เข้าใจ ไม่ใช่เพียงใช้คำว่าเข้าใจลอยๆ แต่ไม่รู้ว่าเข้าใจอะไร แต่ ความเข้าใจ คือ เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เข้าใจความจริงในขณะนี้ จึงเป็นความเข้าใจที่เป็นทางดับกิเลส ครับ นี่แสดงให้เห็นถึงความยาก และ ความเหนียวแน่น ที่คิดว่าทำได้ จะเป็นคนดีได้ จะเป็นคนชั่วได้ แท้ที่จริงก็มีแต่ธรรมเป็นไป ไม่ใช่เรา ดังนั้น ดีขึ้นด้วยปัญญา ที่เข้าใจว่าแม้อกุศล กุศล เป็นธรรมไม่ใช่เรา แต่ ความดี ความชั่วเกิดแล้ว ไม่เข้าใจว่าไม่ใช่เรา ดีขึ้นไม่ได้เลย เพราะเป็นเราที่ดี เป็นเราที่ชั่ว ครับ ขออนุโมทนา

เชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ที่นี่ครับ

จะหลอกตัวเองหรือจะยอมรับความจริง

จารุพรรณ มีผู้บ่นว่า พอฟังแล้ว อันนั้นก็เป็นโลภะ อันนี้ก็เป็นโทสะ รู้สึกว่าเป็นอกุศลทั้งวัน ชักจะท้อแล้ว เหมือนกับหมดกำลังใจ เกิดวิตกกังวล

สุ. สู้หลอกตัวเองว่าไม่มีไม่ได้ ใช่ไหมคะ อยากจะหลอกตัวเองต่อไป หรืออยากจะรู้ความจริง รู้จักตัวเองขึ้นให้ถูกต้อง วันนี้ตักตวงวัดอกุศลไม่ได้เลยว่า มากสักเท่าไร เพราะมากจริงๆ ชั่วขณะที่ฟังธรรมเป็นกุศล และขณะอื่นเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต สำหรับคนที่สะสมกุศลมามาก วันหนึ่งกุศลมีโอกาสเกิดได้บ่อย แต่ไม่ได้หมายความว่ามากเท่าอกุศล เพราะเหตุว่าทันทีที่ลืมตาก็โลภะแล้ว แล้วจะให้บอกว่าอย่างไร ถ้าเป็นพระอรหันต์ซิคะ ลืมตาแล้วไม่มีหรอกโลภะ แต่เมื่อยังไม่เป็นพระอรหันต์ ก็ต้องยอมรับตามความเป็นจริง การที่จะรักษาโรค ก็ต้องรู้สมุฏฐานของโรค ถ้าไม่รู้สมุฏฐานแล้วจะละอย่างไร คนที่ไม่มีปัญญารู้ความจริง ไม่มีทางที่จะดับทุกข์หรือดับกิเลสได้เลย เมื่อมีกิเลสแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเป็นกิเลส แล้วจะละกิเลสได้อย่างไร เมื่อไม่รู้ว่าเป็นกิเลส แต่ว่าผู้ที่รู้จักกิเลส สามารถละกิเลสได้ เพราะรู้ว่า กิเลสเป็นอย่างไร

ถ้ารู้ตัวเองว่าเป็นคนไม่ดี แล้วจะได้ทำดี กับคิดว่าตัวเองดีแล้ว พอแล้ว ก็ต่างกัน ใช่ไหมคะ ถ้าใครเขาบอกเราว่าไม่ดี เราจะรับไหมคะว่า จริงค่ะ ถูกค่ะ ไม่ดีจริงๆ เพราะตั้งแต่ลืมตาก็เป็นอกุศลมามากมายแล้ว

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
apiwit
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

กราบขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรม เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ความจริงนี้ ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ความจริงเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น แต่ละบุคคลก็มีความประพฤติเป็นไปตามเหตุปัจจัย ดี บ้าง ไม่บ้าง เป็นธรรมนั่นเองที่เกิดขึ้น ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ อกุศล ก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นไป เกิดขึ้นมากกว่าที่คิดไว้มาก จะบอกว่า อกุศล ดี ไม่ได้เลยทีเดียว อกุศล เป็นสิ่งที่จะประมาทไม่ได้เลย การสะสมกุศล ความดี เท่านั้นที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลาอกุศล ได้

เป็นที่น่าพิจารณาว่า เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ควรที่จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ให้มากที่สุด ด้วยการสะสมกุศล ขวนขวายในความดีทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา น้อมไปในทางที่เป็นกุศลยิ่งขึ้น กล่าวโดยสรุป คือ “เป็นคนดี และฟังพระธรรมให้เข้าใจ” การฟังพระธรรม เป็นเหตุให้ความเข้าใจถูก เห็นถูก คือ ปัญญาเจริญขึ้น เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ก็จะเป็นเครื่องเกื้อกูลให้มีความประพฤติที่ดีงามยิ่งขึ้นทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ตามระดับขั้นของปัญญา สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไป ครับ.

ขอเชิญคลิกชมวีดีโอประเด็นที่จะเกื้อกูลให้เป็นคนดีได้ที่นี่ครับ

บ้านธัมมะ ๐๘๘_ดี ด้วยพระธรรม

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
thilda
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 8 มิ.ย. 2559

ทุกอย่างเป็นอนัตตา แม้ความดี หรือ ความชั่ว ก็เป็นอนัตตาด้วย สำคัญคือเข้าใจว่าความดีก็ไม่ใช่เราดี แต่เป็นธรรมะฝ่ายดี คือจิตกับเจตสิกที่สะสมมาดีค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
mild
วันที่ 8 มิ.ย. 2559

แม้เพียงเห็นแต่ละขณะก็เกิดด้วยเหตุปัจจัยเพียงถ้าไม่มีจิต เห็นก็เกิดไม่ได้ เพียงไม่มีตา เห็นก็เกิดไม่ได้ แม้คนที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่น ก็เป็นอนัตตาแล้ว เพราะสะสมสิ่งนั้นไว้แล้วกายวาจาจึงเป็นไปเช่นนั้น คนที่ไม่ได้สะสมการชอบกลั่นแกล้งเบียดเบียนผู้อื่นมา ก็เบียดเบียนกลั่นแกล้งผู้อื่นไม่เป็น เป็นปกติแล้ว เป็นอนัตตาแล้ว แท้จริงทุกขณะนี้แหละเป็นการสะสมแล้ว เป็นปกติแล้ว เป็นอนัตตาแล้ว แต่ยังไม่รู้เท่านั้นเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
วิริยะ
วันที่ 9 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Lastseason
วันที่ 10 มิ.ย. 2559

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
พันศิริ
วันที่ 27 มิ.ย. 2559

ธัมมะเป็นอนัตตา แต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย คนที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่น ก็เพราะสะสมเป็นอุปนิสัยมา และยังประกอบด้วยความไม่เชื่อกรรมและผลของของกรรม ไม่ละอายเกรงกลัวบาป ไม่เข้าใจในความเป็นธาตุ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ก็จะยังประกอบกรรมไม่ดี คือ กลั่นแกล้งผู้อื่นต่อไป

แต่ผู้ที่แม้สะสมอุปนิสัยไม่ดีมา แต่ได้ฟังพระธรรม เกิดความเห็นโทษของกรรมเลว เชื่อกรรมและผลของกรรม ก็จะบ่ายหน้าไปสู่ทางดี เริ่มสะสมอุปนิสัยใหม่ที่ดี

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kukeart
วันที่ 28 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Tommy9
วันที่ 9 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
wirat.k
วันที่ 17 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ