การนั่งหลับตาที่บางคนเรียกว่านั่งสมาธิ

 
jbk02
วันที่  6 ก.พ. 2550
หมายเลข  2787
อ่าน  1,792

เมื่อสัปดาห์ก่อนได้เข้าฟังผู้ที่มีประสบการณ์ ในการนั่งหลับตากำหนดลมหายใจ เข้าออก เขากล่าวว่า "เขานั่งยาวนานจนถึงวันที่ ๑๐ เขาได้เห็นเทวดา" เขาบอกว่าไม่ต้องเชื่อเขา แต่นี่คือความจริงที่เขาประสบมาด้วยตนเอง เขาจบการศึกษาระดับ ดร. มีผู้เข้าฟังมากมาย ซึ่งใช้ชื่องานนี้ว่า "การแสดงธรรม" ดิฉันเคยผ่านการอบรมดังกล่าวมาแล้ว หลังจากออกมาก็รู้สึกตื่นเต้นและเป็นสุข

พยายามชักชวนญาติสนิท มิตรสหาย และบริกรรมตามที่ได้รับการอบรมมา แต่มิได้นั่งหลับตาสมาธิเองที่บ้าน แต่เมื่อเกิดความทุกข์ขึ้นมาดิฉันนึกไม่ออกจริงๆ ว่า สิ่งที่เคยอบรมมาช่วยอะไรได้บ้าง ดิฉันจึงอ่านพระไตรปิฎกบางตอนที่สามารถเปิดเจอ และใกล้เคียงกับสิ่งที่เป็นทุกข์ จึงเริ่มฟังธรรมจากเทปของท่าน อ.สุจินต์ ซึ่งมีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งแนะนำไว้ และเคยพาไปฟังที่มูลนิธินี้ด้วย ต่อมาได้สมัครสมาชิก บ้านธัมมะ ตอนนี้กลายเป็นทนฟังเรื่องการปฏิบัติธรรมดังกล่าวไม่ค่อยได้ รู้ว่าไม่ดีเลย แต่ก็พยายามรับฟังและแลกเปลี่ยนความเห็นแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ ตามที่ได้ฟังจากท่าน อ.สุจินต์ โดยเฉพาะญาติสนิทที่เคยไปปฏิบัติฯพร้อมกัน ลำบากใจมากค่ะ ท่านมีความคิดเห็นประการใดบ้างคะ..

ขอขอบพระคุณคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 6 ก.พ. 2550

ควรทราบว่าพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อการรู้แจ้งความจริง เมื่อรู้แจ้งความจริงย่อมหลุดพ้นจากวัฏฏะทุกข์ เพราะไม่รู้แจ้งความจริง จึงต้องอยู่ในวัฏฏะทุกข์นี้ เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์ทรงสอนให้สาวกทั้งหลายรู้แจ้งความจริง ไม่ใช่การนั่งสมาธิเพื่อจิตเป็นสมาธิหรือเพื่อการเห็นเทวดา เพราะเพียงจิตเป็นสมาธิ หรือการเห็นเทวดาไม่ใช่ผลสูงสุดที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า โปรดศึกษาพระธรรม คำสอนเพื่อการเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 6 ก.พ. 2550

ที่เขาเห็นเทวดา ก็ไม่ได้ทำให้เกิดปัญญาหรือกิเลสลดลงเลย กลับทำให้เขาติดผูกพันกับเทวดามากกว่า เสียเวลา และไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ ถ้าปฏิบัติผิด ไม่ปฎิบัติดีกว่า ภพชาติจะได้ไม่ยืดยาวออกไปอีก พระพุทธเจ้าตรัสว่า กัลยาณมิตร เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์คุณมีบุญที่ได้ฟังธรรมที่อาจารย์สุจินต์ บรรยายค่ะ ขอให้ ฟังต่อไปนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 6 ก.พ. 2550

จากความเห็นนี้เราจะเห็นได้ว่า ตราบใดที่ปัญญายังไม่เกิด ก็จะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าหนทางใดถูก หนทางใดผิด ปัญญาเท่านั้นที่จะทำหน้าที่แยกแยะว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด และเราก็ต้องรู้ว่เหตุใดเกิดปัญญา นั้นคืออะไร คือการคบสัปบุรุษ (พระพุทธเจ้าหรือผู้มีความรู้เข้าใจธัมมะ) และการฟังธัมมะของสัปบุรุษก็คือพระธรรมใน พระไตรปิฎกนั่นเอง ก็อยากแนะนำให้คุณฟังต่อไปและที่สำคัญอย่าประมาทธรรม เพราะเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง เพราะเราพึ่งเริ่มฟังเอง อาจจะเขวไปทางอื่นได้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
supakorn
วันที่ 7 ก.พ. 2550
อนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จิต89หรือ121
วันที่ 7 ก.พ. 2550

การนั่งสมาธิ เพื่อสุขภาพ เพื่อผลการเรียนที่ดีขึ้น เพื่อการทำงานที่ดีขึ้น ฯลฯ ก็ทำได้ ถ้าไม่เข้าใจผิด คิดว่าเป็นการปฏิบัติธรรม เพื่อละกิเลส หรือรู้แจ้งพระนิพพาน เป็นพระอริยบุคคล โดยการนั่งสมาธิ เพราะถ้ามีความเข้าใจผิดแบบนี้ ก็เป็น มิจฉา ทิฏฐิ แบบเต็มๆ ผลของมิจฉาทิฏฐิคือ การเกิดในนรก ยิ่งถ้าผู้นั้นเป็นผู้ที่เผยแพร่ ความเห็นผิด แบบนี้ ก็ยิ่งมีโทษมาก แม้เกิดมาในยุคที่ยังมีพระพุทธศาสนา ก็จะเป็น ผู้ที่ปฏิเสธคำสอนของพุทธองค์

ดังตัวอย่างในครั้งพุทธกาล เช่น พวกครูทั้ง 6 ที่มีความเห็นผิด นอกจากตนเองบาปหนา ไม่มีบุญแม้เพียงจะได้เจอพระพุทธองค์แล้ว ยังนำพาลูกศิษย์ของตน ตกนรกตามตัวเอง ไปเป็นจำนวนมาก

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
unknown
วันที่ 10 ก.พ. 2550
ควรเป็นผู้ตรงต่อสภาพธรรม
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 31 ม.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ