ขอความกรุณาชี้แนะปัญหาด้วยครับ
ผมฟังธรรมะทางวิทยุมาระยะหนึ่งครับ เกิดคำถามที่เกี่ยวกับตัวเองจึงขอความอนุเคราะห์ชี้แนะความกระจ่างด้วยครับ
ผมดูแลพ่อที่ชราและเป็นโรคหลายโรคซึ่งการรับหน้าที่ดูแลนี้ในบรรดาพี่น้องก็มิได้มีใครรับอาสาครับ พ่อเป็นคนระบุให้ผมเป็นคนมาดูแล ผ่านมาสองปีกว่าที่ออกมาดูแลก็บอกได้เลยว่าอกุศลมาก แต่พี่น้องที่กลับมาเยี่ยมเห็นเขายิ้มแย้มแจ่มใสดูแลเอาใจพ่อผมเป็นอย่างดี (ผมเห็นแล้วยิ่งอกุศลครับเพราะรู้สึกว่าเขาสบายกว่า) พ่อผมก็แสดงอาการยินดีกับการมาเยี่ยมเยียนเหมือนรอการมาเยี่ยม
ผมจึงสงสัยว่าการดูแลพ่อแม่เป็นบุญเป็นกุศลแต่ผมรู้สึกผมจะอกุศลมากกว่า คิดอีกว่าพี่น้องคนอื่นไม่ต้องลาออกจากงาน มีเวลาส่วนตัว ว่างๆ ผันเปลี่ยนมาเยี่ยมพ่อดูจะเป็นกุศลมากกว่าครับ ผมคิดผิดประการใดโปรดชี้แนะด้วยครับ
สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่มาอ่านและชี้แนะปัญหามาไว้ ฌ โอกาสนี้เลยนะครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมไม่เปลี่ยนลักษณะและเป็นเรื่องที่ตรง กุศลก็เป็นกุศล อกุศลก็เป็นอกุศล ขณะที่มีจิตคิดช่วยเหลือและทำการช่วยเหลือบิดามารดา กาย ดี จิตดี ก็ต้องเป็นกุศลกรรม เป็นสิ่งที่ดีในขณะนั้น และ ขณะที่มีจิตที่ไม่ดี เป็นอกุศล ก็ต้องเป็นอกุศล ก็ไม่ใช่ความดีในขณะนั้น
หากเข้าใจถูกในความเป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา บังคับไม่ได้ เป็นธรรมดาที่มากด้วยอกุศลจิตที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่ เป็นโอกาสที่ดีแล้ว ที่ได้มีโอกาสดูแลบิดามารดา ในขณะที่เป็นกุศลจิต และทำดี ต่อท่าน ซึ่งก็เป็นการตอบแทนในส่วนหนึ่งของชีวิตบุตรที่ควรกระทำ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นโอกาสที่ดีมากแล้วที่ได้ดูแลผู้มีพระคุณ เป็นการทำกิจที่ควรทำ ความประพฤติเป็นไปของบุคคลอื่น ก็เป็นของบุคคลอื่น ขาดทุนแล้วที่เป็นอกุศลกับพฤติกรรมของบุคคลอื่น ไม่ควรเลยที่จะเป็นอย่างนั้น ก็ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และ ไม่ขาดการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมต่อไป ซึ่งจะทำให้เข้าใจความจริง มั่นคงในความเป็นจริงของธรรม คือ สิ่งที่มีจริงที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาในการดูแลบุพการีผู้เป็นผู้มีพระคุณ
กุศลหรืออกุศลของบุคคลอื่นเราก็ไปก้าวก่ายไม่ได้
เมื่อเกิดคิดเป็นอกุศลก็ห้ามไม่ได้ เมื่อมีโอกาสได้ฟังพระธรรม
ก็จะค่อยๆ ทำให้มีความเข้าใจถูกเพิ่มขึ้นด้วย
ขอเป็นกำลังใจให้ดูแลบิดาต่อไปนะครับ
บุคคลที่หาได้ยากมี 2 ประเภท คือ 1. บุพการี 2. กตัญญู เพราะฉะนั้นท่านมีพระคุณกับเรามาก การบำรุงมารดา บิดา เป็นมงคลหนึ่งในมงคล 38 คุณมีบุญที่ได้ดูแลคุณพ่อ และในอดีตพระโพธิสัตว์ก็ได้บำรุงมารดาบิดาค่ะ
ขอแสดงความยินดี ดีใจ และอนุโมทนา ในบุญอันยิ่งใหญ่ โอกาสเช่นนี้หายากมาก แต่เมื่อจิตเป็นอกุศลก็เป็นอกุศล ระลึกสภาพอกุศล ว่าไม่ใช่ตัวตนเราเขา
โอกาสของการทำกุศลไม่ได้มีง่ายๆ หรือมีอยู่ตลอด เมื่อมีโอกาสควรยินดี แล้วรีบกระทำ ด้วยใจอันเป็นกุศล
ลองเปรียบกับการให้ทานนะค่ะ บางครั้งมีบุคคลที่ควรแก่การให้ แต่ไม่มีสิ่งของที่เหมาะที่จะให้ และบางครั้งก็มีของ แต่ไม่มีบุคคลที่ควรแก่การรับ ในทำนองเดียวกัน เมื่อบิดามาดายังมีชีวิตอยู่ กำลังในการที่จะดูแลท่านยังมีอยู่ ก็ควรที่จะยินดีที่จะดูแลท่าน เรื่องของบุคคลอื่นก็ไม่เรื่องของเขา ไม่ควรจะต้องเก็บมาคิดให้ยุ่งยาก
อยากบอกว่า มีหลายคนที่อยากจะดูแลพ่อแม่เหลือเกิน แต่ไม่มีพ่อแม่แล้ว หรือไม่ก็ไม่มีกำลังที่จะดูแลท่าน ดังนั้นขอให้รักษาโอกาสที่จะทำกุศลให้ดี อย่าให้เสียไปค่ะ
การดูแล บิดา มารดายามท่านชรา เป็นโอกาสดีในการ เจริญเมตตา และความอดทน
ขณะนี้ดิฉันก็ดูแลคุณแม่อยู่เช่นกัน ท่านมิได้ระบุให้ดิฉันดูแล แต่ท่านไม่มีความสุขที่อยู่กับลูกๆ คนอื่น ดิฉันจึงรับท่านมาดูแล นานแล้วค่ะ ก็ยอมรับว่าอกุศลเกิดจริงๆ ขณะที่ท่านรอลูกๆ ให้มาเยี่ยมบ่อยๆ แต่ก่อนดิฉันก็คิดว่าคนอื่นสบายกันจัง แค่มาเยี่ยม ไม่ได้ปรนนิบัติ เป็นเวลานานเชียวกว่าจะคิดได้ว่า คุณแม่อยู่กับเรา เราไม่ต้องลำบากไปเยี่ยมท่านที่อื่น เราเป็นลูกท่าน ยังไงๆ ก็เป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้วที่ต้องเลี้ยงดูบิดา มารดายามแก่ชรา ขณะที่ปรนนิบัติท่าน เราก็ได้สะสมความมีเมตตาที่ท่านชราแล้วทำอะไรก็ไม่สะดวกเราก็ช่วยเหลือทุกอย่างให้ท่านสบายกาย และสะสมความอดทนในการที่จะรับทุกสิ่งที่มากระทบแล้วเกิดความไม่พอใจ ก็เพื่อให้ท่านสบายใจ ที่คิดได้นี่ก็เพราะ ฟังพระธรรมบ่อยๆ
ขออนุโมทนาด้วยนะคะ ที่ทำหน้าที่ของลูกที่ดี และอนุโมทนาอาจารย์ทุกท่านที่เข้ามาให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ