สิ่งที่ไม่งาม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
สิ่งที่ไม่งาม หมายถึงอะไรบ้าง เช่นที่ว่า เห็นสิ่งที่ไม่งามว่างาม เห็นสิ่งที่ไม่งามว่าไม่งาม (คงจะไม่มี เห็นสิ่งที่งามว่าไม่งาม เห็นสิ่งที่งามว่างาม หรือว่า ความงามนั้นไม่มี เลย) อะไร อย่างไร จึงชื่อว่างาม (ดอกไม้งาม หญิงงาม มรรยาทงาม รูปร่างงาม น้ำใจงาม) ใช้เกณฑ์อย่างไรวัดว่า งามหรือไม่วาม)
ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-สิ่งที่ไม่งาม หมายถึงอะไรบ้าง เช่นที่ว่า เห็นสิ่งที่ไม่งามว่างาม เห็นสิ่งที่ไม่งามว่าไม่งามในที่นี้ สิ่งที่ไม่งาม มุ่งหมายถึง อารมณ์ที่เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี เช่น อสุภะนิมิต เป็นต้น หรือ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ที่บุคคลสำคัญว่างาม แต่ แท้ที่จริง ปฏิกูล ไม่งาม ผู้มีปัญญาเห็นตามความเป็นจริง เห็นในสิ่งที่ไม่งาม ว่าไม่งาม โดยความเป็นปฏฺกูลด้วยปัญญา ครับ
ส่วน ความงาม โดยนัยที่เป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม มีดังนี้ ครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 602
๘. กัลยาณสูตร
ว่าด้วยศีลงาม ธรรมงาม ปัญญางาม
[๒๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีศีล มีธรรมงาม มีปัญญางาม เรากล่าวว่า เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นบุรุษผู้ สูงสุดในธรรมวินัยนี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีศีลงามอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วด้วยความสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระ และโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบท ทั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีศีลงามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีล งามด้วยประการดังนี้.
ภิกษุเป็นผู้มีธรรมงามอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ประกอบ ด้วยความเพียรในการเจริญโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการเนืองๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีธรรมงามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม ด้วยประการดังนี้.
ภิกษุเป็นผู้มีปัญญางามอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กระทำให้แจ้ง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มี ปัญญางามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม มีปัญญางาม ด้วยประการนี้ เรากล่าวว่า เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นบุรุษสูงสุดในธรรมวินัยนี้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก ความเป็นจริงของธรรม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น สภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวันนั้น ไม่พ้นไปจากนามธรรม กับ รูปธรรม นามธรรม ก็ได้แก่จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย ส่วนรูป เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร เกิดขึ้นตามสมุฏฐานต่างๆ แล้วก็ดับไป ทั้งหมด ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน
เมื่อกล่าว ถึง งาม กับ ไม่งาม ก็ควรที่จะได้พิจารณาจริงๆ เป็นเบื้องต้นว่า อะไรที่งาม เมื่อพูดทั่วไป สิ่งที่ประณีต สวย ก็เรียกว่า งาม อย่างพระรูปกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า งาม โดยไม่มีสิ่งใดเปรียบได้ ความเป็นจริงก็ต้องเป็นอย่างนี้ เป็นต้น สภาพจิตที่เป็นกุศล ก็เป็นสภาพธรรมที่งาม ดีงามเกิดกับใคร ก็เป็นผู้งาม ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ตาม งามด้วยคุณความดี เพราะเป็นสภาพธรรมที่ไม่นำมาซึ่งทุกข์โทษภัยใดๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เมื่อเป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้ว ไม่งาม เพราะเกิดแล้วดับ ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน แต่ที่เห็นว่างาม จะด้วยความติดข้องต้องการก็ได้ ด้วยความเห็นผิดที่เห็นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงก็ได้ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...