หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๙ สัมภาษณ์อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
[วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 39 ฉบับที่ 14000 มติชนรายวัน]
อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
สนทนาธรรมนอกรอบกับคำถามไร้คำตอบ (สำเร็จรูป)
โดย พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร
______________
"ปรมัตถธรรมสังเขป จิตตสังเขป และภาคผนวก,เมตตา-อิสสา, ปัญญาจะขั้นไหนจะสมบูรณ์ก็อยู่ที่เหตุ,เจ้ากรรมนายเวร" เปล่า! ชื่อหนังสือและบทความเหล่านี้ไม่ได้ถูกรจนาขึ้นโดยเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่หรือภิกษุผู้จบเปรียญธรรม หากแต่เป็นผลงานการเรียบเรียงของสตรีซึ่งอยู่ในขวบปีที่ 90 ของชีวิต นามว่าสุจินต์ บริหารวนเขตต์ผู้ซึ่งหลายคนได้ยินเสียงผ่านคลื่นวิทยุที่ออกอากาศรายการสนทนาธรรมทั่วประเทศรายการ "บ้านธัมมะ" ทางโทรทัศน์หลายช่องรวมถึงเว็บไซต์ //www.dhammahome.com ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระด้านพุทธศาสนา
อีกทั้งการสนทนาธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาย่านดาวคะนอง ทุกเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00-16.00 น.
นับแต่ครั้งแรกของการบรรยายธรรมเมื่อปี 2499 มาถึงวันนี้ เป็นเวลา 60 ปี
ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกประโยค และถ้อยคำอันลึกซึ้ง บุคลิกที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา คำถามจากผู้ฟังซึ่งมักถูกตั้งคำถามกลับเพื่อนำไปสู่การหาคำตอบด้วยตนเอง เพื่อความเข้าใจอย่างจริงแท้
อาจารย์สุจินต์เกิดเมื่อ 13 มกราคม 2469 ที่อุบลราชธานี เป็นบุตรีของหลวงบริหารวนเขตต์ (ฉัตร ชูเกียรติ) และนางบริหารวนเขตต์ (เจริญ ปุณสันถาร)
เรียนชั้นประถมและมัธยมที่โรงเรียนเซนต์แมรี่ ถนนสาทรใต้
มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
เข้าศึกษาที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เคยเป็นครูโรงเรียนดาราวิทยาลัย เชียงใหม่ สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติที่โรงเรียนมิชชันนารี และโรงเรียนไทยศึกษาสัมพันธ์ของตนเอง
ศึกษาพระอภิธรรมที่พุทธสมาคมตั้งแต่ปี 2496
เพียง 3 ปีต่อมา ได้บรรยายธรรมที่สภาวัฒนธรรมแห่งชาติและทัณฑสถานหญิงคลองเปรม นับแต่นั้นได้บรรยายธรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ มหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร ชมรมพุทธศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เช่น จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มศว ม.เกษตรศาสตร์ และหน่วยงานราชการมากมาย ทั้งยังเดินทางไปสนทนาธรรมในต่างแดน ไม่ว่าจะเป็นศรีลังกา กัมพูชา ภูฏาน สหรัฐ ล่าสุดมีกำหนดการเดินทางไปเวียดนามตุลาคมนี้
ได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่ทำคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนา เมื่อปี 2528
รางวัลสตรีดีเด่นในพุทธศาสนา เนื่องในวันสตรีสากลของสหประชาชาติ ปี 2550
รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาพุทธศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เมื่อปี 2551
รับโล่และประกาศเกียรติคุณรางวัลพุทธคุณูปการระดับกาญจนเกียรติคุณ เมื่อปี 2552
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
และต่อไปนี้คือ การสนทนานอกรอบ ที่ทุกคำถามล้วนแต่มี "คำถาม" ย้อนกลับมาให้ขบคิดอย่างเข้มข้น
- เหตุการณ์ที่ทำให้หันมาสนใจธรรมะอย่างจริงจัง?
พอคุณได้ยินคำว่าสอนธรรมะ รู้สึกอย่างไร สนใจไหม อย่างคนชอบเลี้ยงสัตว์ พอเห็นสัตว์ก็ชอบ เพราะฉะนั้น พอดิฉันได้ยินคำว่ามีการสอนพระอภิธรรมครั้งแรกจากหนังสือพิมพ์บางกอกเวิลด์ ก็สนใจ เท่านั้นเองค่ะ
- ประสบการณ์การเป็นอาจารย์ มีส่วนช่วยถ่ายทอดความรู้มากน้อยแค่ไหน?
ดิฉันเข้าใจธรรมะแล้วสนทนาให้คนอื่นเข้าใจด้วยเท่านั้น ไม่มีคำว่าอาจารย์หรือวิทยากร เพราะมุ่งให้คนเข้าใจธรรมะ เป็นอะไรก็ไม่ต่างกัน
- ทำไมบรรยายใช้คำศัพท์ภาษาบาลีค่อนข้างเยอะ?
เราต้องให้คนเข้าใจถูกต้อง ไม่ใช่เผินๆ เหมือนมาฟังธรรมะแต่ก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจอะไร ทุกคำต้องละเอียดลึกซึ้ง เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เราจะไปรู้ตามท่านง่ายๆ อย่างนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ต้องฟังด้วยความเคารพและจริงใจที่จะเข้าใจคำนั้น เช่น คำว่าอารมณ์ คุณคิดว่าอารมณ์เป็นอะไร อารมณ์ดีไหม บางวันก็อารมณ์ไม่ดีใช่ไหมคะ เพราะอะไร เพราะสิ่งที่มากระทบ เพราะฉะนั้นอารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้ จิตเป็นสภาพรู้ พระธรรม ไม่ว่าภาษาอะไรก็ลึกซึ้ง ไม่ใช่ยากที่คำ แต่ยากที่ลักษณะของสภาพธรรมนั้น
- เมื่อคนฟังตั้งคำถาม ทำไมไม่ตอบ แต่มักถามกลับ?
เพื่อให้คนที่ถูกถามคิดไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเข้าใจของตัวเอง ไม่ใช่ไปจำเขามา ตราบใดที่ยังไม่คิดไตร่ตรองจะเป็นความเข้าใจไม่ได้ คำถามของดิฉันมีประโยชน์สำหรับคนถาม ถ้าต้องการคำตอบ จะรู้ได้อย่างไรว่าคำตอบนั้นถูกหรือผิด เพื่อให้เขาคิด คิดที่จะตอบด้วยตัวเอง
- หมายความว่าต้องเข้าใจด้วยตัวเอง?
แน่นอน นี่เป็นเหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม เพื่อแต่ละคนจะได้มีปัญญาเกิดขึ้น รู้ความจริงซึ่งรู้เองไม่ได้ พระธรรมที่ทรงแสดงเป็นหนึ่งไม่เป็นสอง เปลี่ยนสภาพธรรมะที่ตรัสรู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทรงแสดงธรรมะด้วยการตรัสรู้ความจริงของทุกสิ่ง หลังจากที่ตรัสรู้แล้วก็ให้คนอื่นได้รู้ตาม
- เวลาถามกลับ แล้วมีคนมาถามกลับอีกทอดหนึ่งรู้สึกอย่างไร?
เชิญเลยค่ะ ไม่หงุดหงิดเลย ไม่ว่าคำถามนั้นจะถามเรื่องอะไร เพราะเขาไม่รู้แล้วเขาอยากรู้ใช่ไหม หรือถึงแม้ว่าเขาแกล้งถามก็เพราะว่าเขาแกล้งถาม แต่คำตอบก็จะให้ความจริงกับเขา
- จุดประสงค์ที่สอนทุกวันนี้เพื่ออะไร?
ไม่ได้ต้องการอะไรทั้งสิ้น แต่เพื่อให้คนเข้าใจอย่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เราเกิดมาเราเข้าใจอะไร ต้องอาศัยผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ไม่ใช่อาจารย์ แต่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
- กาลามสูตรระบุว่า อย่าเชื่อเพียงเพราะครูบาอาจารย์บอก แล้วอาจารย์บอกให้เชื่อพระพุทธเจ้า จะเชื่อได้อย่างไร?
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำที่ตรัสเป็นจริง ตรัสแต่สิ่งที่มีจริงทั้งนั้น พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทุกอย่างทุกสิ่งในโลกตามความเป็นจริง เมื่อศึกษาแล้วจะรู้จักพระองค์มากขึ้น ความจริงนั้นใครก็รู้ไม่ได้ ถ้าไม่ศึกษาพระธรรม ทุกอย่างมีจริงๆ แต่ไม่รู้ความจริง และจะรู้ได้ต่อเมื่อฟังพระธรรม ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นวาจาสัจจะ ทำให้คนที่ฟังเข้าใจจากการที่ไม่รู้อะไรเลยตั้งแต่เกิด
- มีผู้ฟังบอกไหมว่าค่อนข้างยากที่จะเข้าใจ?
ต้องยากที่สุด ไม่ว่าใครจะเรียนวิชาใดๆ ในโลกจะเก่งสักแค่ไหนก็ตาม พอมาเจอธรรมะ ทุกคนเอ่ยปากว่าไม่มีอะไรจะยากอย่างนี้ ถ้าใครบอกว่าง่ายนะคะ รู้เลยว่าเขาไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมของพระองค์จะง่ายหรือ แต่ใครก็ไม่รู้ จนกว่าพระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ตรัสรู้สิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มี
- ความยากจะทำให้คนถอยห่างจากพุทธศาสนาหรือไม่?
เขาต้องการเข้าใจหรือเปล่าล่ะ ถ้าถอยห่าง แสดงว่าเขาไม่ต้องการเข้าใจ
- หากคำพูดของพระพุทธเจ้าคือ"ที่สุด"แล้วศาสนาอื่น?
ศาสนาคืออะไร คือคำสอน คำสอนหลากหลายมากจึงมีศาสนาต่างๆ เพราะฉะนั้น คำใดก็ตามที่ทำให้กระจ่าง ไม่ต้องเรียกว่าพุทธศาสนาก็ได้ เรียกอะไรก็ตาม แต่พุทธะคือความรู้ ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก จะใช้ชื่ออะไรสำหรับศาสนานี้ ก็ต้องใช้คำว่าพุทธศาสนา เพราะว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ เพราะฉะนั้น ให้คนอื่นได้รู้ตามด้วยพระมหากรุณาว่า ถ้าเขาฟังเขาได้ประโยชน์แน่ แต่ถ้าเขาไม่ฟัง พระองค์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คำสอนของพุทธศาสนาเป็นคำสอนที่พูดถึงสิ่งที่มีจริง และความจริงถึงที่สุดของสิ่งที่มีจริง ทรงแสดงความจริงถึงที่สุดทุกอย่าง
- ลึกซึ้งมากเลย?
ต้องเข้าใจและต้องคิดค่ะ ไม่งั้นเหมือนว่าเรารู้จักพระพุทธศาสนาแต่เผินๆ
- ทำให้ง่ายได้ไหม คนจะได้เข้าถึง?
ทำให้ง่ายผิดทั้งนั้นค่ะ จำไว้เลยนะคะ ใครก็ตามที่ต้องการทำให้สิ่งที่ลึกซึ้งง่าย นั่นต้องผิด เพราะลึกซึ้งแล้วจะง่ายได้อย่างไร พระพุทธศาสนาลึกซึ้งแล้วใครจะสามารถทำให้ง่าย
- ถ้ายากมาก จะเป็นที่พึ่งของคนได้จริงหรือ?
ที่พึ่งของคนที่เข้าใจและเห็นคุณค่าของพระรัตนตรัย ซึ่งประเสริฐที่สุดที่ไม่มีใครเทียบได้เลย ยิ่งยากแสดงว่าควรศึกษาอย่างยิ่ง
- มักกล่าวกันว่าการมีความทุกข์ที่ไม่สามารถก้าวออกจากมันได้ เพราะวนเวียนย้ำคิด?
ไม่ใช่ค่ะ เพราะทุกข์มีจริง แต่ไม่รู้ว่าทุกข์คืออะไร เพราะฉะนั้น หมดทุกข์ไม่ได้ ความจริงแล้วทุกข์เกิดแล้วดับเร็วมาก เพียงแค่ปรากฏในขณะนั้น ทันทีที่ปรากฏก็ดับแล้ว
- ถ้าในหลักการ รู้ว่าทุกข์เกิดจากอะไร แต่หยุดทุกข์ไม่ได้ เช่น ปัญหาอมตะอย่างรักเขา แต่เขาไม่รักเราแล้ว?
วันนี้และวันหน้าเราไม่รักเขาได้ไหม
- แต่วันนี้ยังรักอยู่?
ถูกต้อง แต่วันหน้ามี พรุ่งนี้ก็ไม่ใช่วันนี้แล้ว ต้องเข้าใจธรรมะจริงๆ ถึงความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอน ความเปลี่ยนแปลง
- มองหนังสือเรียนวิชาพุทธศาสนาอย่างไร เน้นให้ท่องจำอย่างเดียวหรือไม่?
ไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นการเอาคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งสูงลึกซึ้งมาเป็นของง่าย ซึ่งผิด ไม่ได้มีคำอธิบายอะไรเลย แต่จะพูดถึงสมาธิ พูดถึงปัญญา โดยที่ไม่มีคำอธิบายว่าคืออะไร
- พุทธศาสนาควรปรับตัวเข้ากับสังคมปัจจุบันไหม?
คำถามนี้ไม่ถูกนะคะ ใครควรปรับ สังคมควรปรับหรือพระพุทธศาสนาควรปรับ อย่างผู้ถ่ายทอดคำสอน เช่น พระภิกษุ ปรับไม่ได้เพราะต้องพูดตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ
- ต้องยึดตามพระไตรปิฎกทุกอย่างเลยหรือ?
เข้าใจคำว่ายึดหรือเปล่า แล้วเราจะพูดว่าเราจะยึดตามพระไตรปิฎกได้ยังไงคะถ้าไม่เข้าใจ ต้องเข้าใจ ไม่ใช่ไปยึดโดยไม่รู้เรื่อง
- แต่สังคมปัจจุบันแตกต่างจาก 2,500 ปีที่แล้ว?
เหมือนกันหมดค่ะ 2,500 ปีนี้ มีเห็นใช่ไหม มีได้ยินใช่ไหม มีคิดไหม มีโกรธไหม มีชอบไหม แล้วต่างกันอย่างไร
- พระไตรปิฎกได้รับการสังคายนาหลายครั้ง แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าคำกล่าวทั้งหมดเป็นคำของพระพุทธเจ้าจริงๆ ?
ศึกษาสิคะ ดูว่าแต่ละคำถูกต้องตามทุกยุคทุกสมัยหรือเปล่า ไม่เปลี่ยน เปลี่ยนไม่ได้ รู้ไหมคะว่าเดี๋ยวนี้เห็นเป็นอะไร เห็นคือเห็น เห็นเกิดหรือเปล่า เห็นดับหรือเปล่า นี่คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเริ่มเห็นคุณ สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้ สิ่งที่คนอื่นไม่รู้
- อาจารย์บอกว่า "ภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินทอง" ถ้ามีผู้ถวาย ปฏิเสธได้หรือ?
พระภิกษุจะอยู่ได้ด้วยปัจจัยไม่ใช่เงินนะคะ ปัจจัยคือสิ่งที่อาศัยให้ชีวิตดำเนินไป ได้แก่ อาหาร เสื้อผ้า คือจีวร ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค อยู่ได้แล้ว ไม่ต้องมีเงิน ตามพระวินัยว่า พระรับเงินรับทองไม่ได้ ถ้าเงินของภิกษุทั้งประเทศเป็นเงินกองกลาง เป็นศาสนสมบัติ พระก็เบาสบาย ไม่ต้องมีเงินทอง แต่มีชีวิตอยู่ มีอาหาร
- ถ้ามีคนถวายเงินสร้างถาวรวัตถุ พระภิกษุไม่ต้องรับ?
ต้องละเอียดลออว่า พระรับอะไรได้ เพื่ออะไร ไม่ใช่ว่าคิดว่าเราจะทำอะไรก็ได้ในวัด วัดเป็นของเรา และวัดก็ไม่ใช่ของภิกษุบุคคลด้วย เป็นของส่วนรวม ถ้าท่านคิดว่าวัดเป็นของท่าน แล้วท่านทำอะไร? ทราบไหมว่าทำไมคนถึงบวชเป็นพระภิกษุ ก่อนอื่นเลยต้องเริ่มต้นว่าพระภิกษุคือใคร แล้วถึงจะรู้ว่าทำไมจึงมีพระวินัยบัญญัติมากมายสำหรับพระภิกษุ ซึ่งต่างจากชีวิตของคฤหัสถ์ พระภิกษุคือใคร ภิกษุคือผู้สละ สละหมดไหม ถ้าสละไม่หมดก็ไม่ใช่ภิกษุ ภิกษุต้องบวชตามที่ได้ทรงบัญญัติไว้ แล้วบวชทำไม? เพราะเป็นคฤหัสถ์ก็ฟังธรรมได้ ศึกษาธรรมได้ รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
- ถ้าไม่ได้มีตามที่อาจารย์พูดแล้วไปบวชผิดไหม?
จะบวชทำไม ในเมื่อดำรงชีวิตเหมือนเดิม การบวชต้องสละเพศด้วยความจริงใจที่จะดำเนินชีวิตในเพศบรรพชิตเพื่อที่จะเป็นพระภิกษุ เพื่อขัดเกลากิเลส นั่นคือภิกษุในธรรมวินัย ต้องเป็นจุดประสงค์นี้ประการเดียว ถ้าไม่สามารถเป็นภิกษุได้ ก็เป็นคฤหัสถ์ฟังธรรมะ รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ แล้วสามารถที่จะทำดีได้มากด้วย พ่อแม่เจ็บไข้ก็รักษาพยาบาลได้ ถ้าเป็นภิกษุต้องละวงศาคณาญาติ ทรัพย์สินเงินทองทุกอย่าง เพื่อที่จะขัดเกลากิเลส
- เคยคิดออกบวชไหม?
บวชคืออะไร พุทธบริษัทมี 4 นะคะ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จะให้บวชเป็นอะไร แม่ชีไม่ต้องบวช เป็นคฤหัสถ์ธรรมดา ส่วนภิกษุณี ไม่มีทาง บวชไม่ได้ เพราะเหตุว่าตามพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระมหาปชาบดีโคตมีบวช เพราะผู้หญิงในยุคนั้นสามารถถึงความเป็นพระอรหันต์ได้ พระพุทธเจ้าทรงวางระเบียบวินัยที่จะให้ภิกษุณีค่อยๆ หมดสิ้นไป เพราะฉะนั้น ไม่มีพระภิกษุณีนานมาแล้ว
- ไม่เห็นด้วยกับการบัญญัติพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ?
ถ้าชาวพุทธไม่เข้าใจธรรมะ แต่บอกว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติก็ไม่มีประโยชน์
- คิดอย่างไรกับกลุ่มปกป้องศาสนา เพราะกลัวพุทธศาสนาเสื่อม?
ตราบใดที่ยังมีคนเข้าใจ พระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่ ไม่ต้องเสียเวลาไปคิดเรื่องปกป้อง
- อายุ 90 แล้ว ยังแข็งแรงมาก ดูแลตัวเองอย่างไร?
เหมือนคนอื่นทั่วๆ ไปนะคะ ออกกำลังกาย แต่ไม่มากมาย แค่ยืดแขนยืดขาบนเตียงเวลาตื่น ชอบอะไรที่ตามสมควร ก็ถ้าเมื่อยก็ยืด ตื่นก็ยืด เพราะมีประโยชน์ที่จะทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว อาหารก็กินได้ทุกอย่าง เว้นที่ไม่ชอบจริงๆ อย่างลูกเนียง ขมสุดฝาดสุดที่จะประมาณได้ (ยิ้ม)
- มองสถานการณ์ของผู้นับถือพุทธศาสนาในไทยอย่างไร ปัญหาใดน่าห่วงที่สุด?
เขาเข้าใจธรรมะหรือเปล่า ถ้าทุกคนไม่เข้าใจธรรมะแล้ว พุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องห่วงนั้น ถามว่าห่วงอะไรคะ ถ้าพูดถึงพุทธศาสนา ควรศึกษาไหม แล้วห่วงไหม บังคับคนอื่นได้ไหม เข้าใจความจริงแล้วห่วงทำไม
- วางแผนบรรยายถึงเมื่อไหร่?
ตลอดชีวิต
- วางตัวผู้สานต่อไว้หรือเปล่า?
วางได้ไหม ธรรมะเป็นธรรมะ ใครจะไปวางอะไรได้ ทุกคนเป็นเอง ตามการสะสม ทุกคนตายตามกันไป ก็อยู่กันไปเรื่อยๆ คนที่อยู่ก็อยู่ไป
- เชื่อเรื่องชาติภพ การเวียนว่ายตายเกิดไหม?
ถ้าถามให้ตอบ ดิฉันไม่ตอบหรอกค่ะ นอกจากให้เข้าใจว่าภพคืออะไร ชาติคืออะไร สิ่งที่ไม่รู้ก็พูดกันไป แล้วจะมีประโยชน์อะไร
- คนที่จะเข้าใจธรรมะ ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเลยไหม?
ถ้าเห็นประโยชน์นะคะ จะมีชีวิตอยู่ทำไม ถ้าไม่เข้าใจอะไรเลยตั้งแต่เกิดจนตาย
- ปัจจุบันมีแนวโน้มที่คนจะระบุว่า "ไม่มีศาสนา" มากขึ้นเรื่อยๆ ?
เป็นเรื่องของเขา ทุกคนมีสิทธิจะคิดอะไรก็ได้
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
กราบบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพอย่างยิ่งค่ะขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบบูชาพระคุณ ของท่านอาจารย์ ทราบซึ้งทุกคำ ทุกครั้ง ที่ได้อ่านได้ฟัง ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
เป็นคำถามและคำตอบที่ดีมากๆ ครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่งครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณหนังสือพิมพ์ที่นำคำสัมภาษณ์ท่านอาจารย์ลงเผยแพร่
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
ท่านอาจารย์ตอบได้ดีมากๆ ค่ะ กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างสูงยิ่ง และขออนุโมทนาสาธุบุญกับกุศลจิตของท่านอาจารย์ค่ะ
คำตอบของท่านอาจารย์ เป็นคำสอนที่ดีมากๆ ค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างยิ่งครับ
ท่านตอบคำถามเพื่อประโยชน์แก่ผู้ฟังอย่างแท้จริง ตรงไปตรงมา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอกราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์สุจินต์ค่ะ และขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างยิ่งที่ท่านอาจารย์ได้ช่วยทำความกระจ่างในธรรมะค่ะ ได้ติดตามรับฟังอาจารย์มากว่าสิบปี่แล้วค่ะ ได้รับความกระจ่างเข้าใจธรรมตามการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่ฟัง และยังช่วยเตือนสติไม่ให้หลงทางเพื่อพัฒนาเข้าสู่อริยมรรคต่อไปค่ะ
สาธุ ใช่ครับ ท่าน อจ ถ้าไม่เข้าใจธรรม ไม่ได้ชื่อว่าชาวพุทธ
พระธรรมลึกซึ้งยิ่ง ต้องสะสมเข้าใจตามเหตุปัจจัย ตลอดชีวิต
- หากคำพูดของพระพุทธเจ้าคือ"ที่สุด"แล้วศาสนาอื่น?
ศาสนาคืออะไร คือคำสอน คำสอนหลากหลายมากจึงมีศาสนาต่างๆ เพราะฉะนั้น คำใดก็ตามที่ทำให้กระจ่าง ไม่ต้องเรียกว่าพุทธศาสนาก็ได้ เรียกอะไรก็ตาม แต่พุทธะคือความรู้ ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก จะใช้ชื่ออะไรสำหรับศาสนานี้ ก็ต้องใช้คำว่าพุทธศาสนา เพราะว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ เพราะฉะนั้น ให้คนอื่นได้รู้ตามด้วยพระมหากรุณาว่า ถ้าเขาฟังเขาได้ประโยชน์แน่ แต่ถ้าเขาไม่ฟัง พระองค์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คำสอนของพุทธศาสนาเป็นคำสอนที่พูดถึงสิ่งที่มีจริง และความจริงถึงที่สุดของสิ่งที่มีจริง ทรงแสดงความจริงถึงที่สุดทุกอย่าง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงที่สุด
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.....
ขอขอบพระคุณในกุศลจิตของท่านอ.สุจินต์ ที่ได้เสียสละทุ่มเท เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามสภาพความเป็นจริง อธิบายขยายความจากพระธรรม ให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตอันยิ่งใหญ่ด้วยครับ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพค่ะ อยากขอบพระคุณที่ให้ความกระจ่างและให้แรงบันดาลใจที่อยากศึกษาธรรมมะมากยิ่งๆ ขึ้น เห็นจริงและจะพยายามระลึกรุ้ในสัจจธรรมและคำสอนขององค์พระศาสดา นับว่าเป็นบุญเป็นกุศลนักที่ได้ฟังธรรมมะจากท่านอาจารย์ค่ะ เพิ่งเริ่มเรียนพระอภิธรรมด้วยความรู้สึกเป็นโสมนัสและได้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นจากหนังสือปรมัตถธรรมของอาจารย์ กราบอนุโมทนาค่ะ