ปุญญกิริยาวัตถุสูตร ... วันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙

 
มศพ.
วันที่  17 ก.ค. 2559
หมายเลข  27984
อ่าน  1,868

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••

... สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙

ปุญญกิริยาวัตถุสูตร

...จาก...

[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ ๓๘๖


[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ ๓๘๖

ปุญญกิริยาวัตถุสูตร

(ว่าด้วยเรื่องทำบุญ ๓ ประการ)

[๒๓๘] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า ได้สดับมาแล้วว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน? คือ ทานมัยบุญกิริยาวัตถุ ๑ ศีลมัยบุญกิริยาวัตถุ ๑ ภาวนามัยบุญกิริยาวัตถุ ๑ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการนี้แล.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า

กุลบุตรผู้ใคร่ประโยชน์ พึงศึกษาบุญนั่นแล อันให้ผลเลิศต่อไป ซึ่งมีสุขเป็นกำไร คือ พึงเจริญทาน ๑ ความประพฤติเสมอ ๑ เมตตาจิต ๑ บัณฑิตครั้นเจริญธรรม ๓ ประการอันเป็นเหตุให้เกิดความสุขเหล่านี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกอันไม่มีความเบียดเบียน.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.

จบปุญญกิริยาวัตถุสูตรที่ ๑.

อรรถกถาปุญญกิริยาวัตถุสูตร (นำมาเพียงบางส่วน)

บทว่า ปุญฺญกิริยาวตฺถูนิ ความว่า กุศลทั้งหลาย ที่ให้เกิดผลในภพที่ควรบูชา หรือ ชำระสันดานของตน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าบุญ, บุญเหล่านั้น ด้วย ชื่อว่า เป็นกิริยา เพราะต้องทำด้วยเหตุด้วยปัจจัยทั้งหลายด้วย เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า บุญกิริยา. และ บุญกิริยานั่นเอง ชื่อว่าบุญกิริยาวัตถุ เพราะความเป็นที่ตั้งแห่งอานิสงส์นั้นๆ .

บทว่า ทานมยํ ได้แก่ เจตนาเป็นเครื่องบริจาคไทยธรรมของตน แก่ผู้อื่น ด้วยสามารถแห่งการอนุเคราะห์ หรือ ด้วยสามารถแห่งการบูชาของผู้ที่ตัดราก คือ ภพยังไม่ขาด ชื่อว่า ทาน เพราะเป็นเหตุอันเขาให้. ทานนั่นเอง ชื่อว่า ทานมัย. บทว่า สีลมยํ ได้แก่ เจตนาที่เป็นไปแล้ว แก่บุคคลผู้สมาทานศีล ๕ ศีล ๘ หรือศีล ๑๐ ด้วยสามารถแห่งการกำหนดให้เป็นนิจศีล และอุโบสถศีลเป็นต้น (หรือ) ผู้ที่คิดว่าเราจะบวชเพื่อบำเพ็ญศีลให้บริบูรณ์ แล้วไปวิหาร บวช ... เจตนานั้น จึงชื่อว่า บุญกิริยาวัตถุสำเร็จด้วยศีล

อนึ่ง เจตนาของภิกษุผู้พิจารณาเห็นแจ้งซึ่งจักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มนะ โดยความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาด้วยวิปัสสนามรรค ... ชื่อว่า บุญกิริยาวัตถุ ที่สำเร็จด้วยภาวนา

อีกอย่างหนึ่ง ในเวลาที่ผู้ให้ข้าวเป็นต้น ให้ทาน โดยคิดว่า เราจะให้ข้าวและน้ำเป็นต้นก็ดี โดยระลึกถึงทานบารมีก็ดี บุญกิริยาวัตถุเป็นทานมัย. เมื่อให้ทาน โดยดำรงอยู่ในข้อวัตรปฏิบัติ บุญกิริยาวัตถุ เป็นสีลมัย. เมื่อให้ (ทาน) โดยเริ่มตั้งการพิจารณา (นามรูป) โดยความสิ้นไป โดยความเสื่อมไป โดยกรรม บุญกิริยาวัตถุเป็นภาวนามัย. บุญกิริยาวัตถุ อย่างอื่นอีก ๗ คือ บุญกิริยาวัตถุที่สหรคต (ประกอบ) ด้วยความยำเกรง (อ่อนน้อม) ๑ ที่สหรคตด้วยการขวนขวาย ๑ การเพิ่มให้ซึ่งส่วนบุญ ๑ การพลอยอนุโมทนา ๑ สำเร็จด้วยการแสดงธรรม ๑ สำเร็จด้วยการฟังธรรม ๑ ความเห็นตรง ๑ ก็แม้การถึงพระรัตนตรัย ว่าเป็นสรณะ ย่อมสงเคราะห์เข้าด้วยการทำความเห็นให้ตรงนั่นเอง ... บรรดาบุญกิริยาวัตถุ ๗ อย่างนั้น บุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยความอ่อนน้อม พึงทราบด้วยสามารถแห่งการเห็นภิกษุผู้อาวุโสกว่า แล้วต้อนรับ รับบาตร และจีวร กราบไหว้ และหลีกทางให้เป็นต้น.

บุญกิริยาวัตถุที่สหรคตด้วยความขวนขวาย พึงทราบด้วยสามารถแห่งการทำวัตรปฏิบัติ แก่ภิกษุผู้มีอาวุโสกว่า ด้วยสามารถแห่งการที่เห็นภิกษุเข้าบ้านเพื่อบิณฑบาต รับบาตร (ของท่าน) แล้ว บรรจุภิกษาแม้ในบ้านให้เรียบร้อย นำเข้าไปถวาย และด้วยสามารถแห่งการรีบนำเอาบาตรมาให้ เป็นต้น โดยที่ได้ยิน (คำสั่ง) ว่าจงไปนำเอาบาตรของภิกษุทั้งหลายมา ดังนี้.

บุญกิริยาวัตถุ คือ การพลอยอนุโมทนา (บุญ) ก็อย่างนั้น พึงทราบด้วยสามารถแห่งการอนุโมทนาส่วนบุญที่ผู้อื่นให้แล้ว หรือบุญที่ผู้อื่นทำแล้วทั้งสิ้น ว่า สาธุ (ดีแล้ว) . ข้อที่ภิกษุไม่ปรารถนาความช่ำชองในธรรม เพื่อตน แสดงธรรมแก่ผู้อื่น ด้วยอัธยาศัยที่เต็มไปด้วยความเกื้อกูล นี้ชื่อว่าบุญกิริยา-วัตถุสำเร็จด้วยการแสดงธรรม. แต่ว่าการที่ภิกษุรูปหนึ่งตั้งความปรารถนาไว้ว่า ชนทั้งหลายจักรู้ว่า เราเป็นธรรมกถึกด้วยวิธีอย่างนี้ แล้วอาศัยลาภสักการะและการยกย่อง แสดงธรรม ไม่มีผลมากเลย. การที่คนฟังธรรม ด้วยจิตอ่อนโยน มุ่งแต่ประโยชน์เกื้อกูล มีโยนิโสมนสิการไปว่า นี้เป็นอุบายให้ได้บำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น แน่นอน นี้เป็นบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยการฟังธรรม. แต่การที่คนๆ หนึ่ง ฟังธรรม ด้วยคิดว่า ชนทั้งหลายจักรู้จักเราว่า เป็นผู้มีศรัทธา ด้วยวิธีนี้ ไม่มีผลมากเลย. การที่ทิฏฐิดำเนินไปตรงชื่อว่าความเห็นตรง (ทิฏฐิชุกรรม) คำว่าทิฏฺฐุชุคตํ นี้ เป็นชื่อของสัมมาทัสสนะอันเป็นไปแล้วโดยนัยเป็นต้นว่า ทานที่ให้แล้วมีผล. บรรดาบุญกิริยาวัตถุทั้ง ๗ อย่างนั้น ความอ่อนน้อม (อปจายนมัย) ความขวนขวาย (เวยยาวัจจมัย) สงเคราะห์เข้าในสีลมัย การเพิ่มให้ซึ่งส่วนบุญ (ปัตติทานมัย) และการพลอยอนุโมทนาส่วนบุญ (อนุโมทนามัย) สงเคราะห์เข้าในทานมัย. การแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย) และการฟังธรรม (ธัมมัสสวนนัย) สงเคราะห์เข้าในภาวนามัย. (ส่วน) ความเห็นตรง (ทิฏฐิชุกรรม) สงเคราะห์เข้าในบุญกิริยาวัตถุทั้ง ๓ อย่าง. เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุเหล่านั้น มี ๓ อย่าง ๓ อย่างเป็นไฉน? คือบุญกิริยาวัตถุสำเร็จด้วยทาน บุญกิริยาวัตถุสำเร็จด้วยศีล บุญกิริยาวัตถุสำเร็จด้วยภาวนา ดังนี้.

จบอรรถกถาปุญญกิริยาวัตถุสูตร.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 17 ก.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
©ข้อความโดยสรุป©
ปุญญกิริยาวัตถุสูตร (ว่าด้วยเรื่องทำบุญ ๓ ประการ)

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงบุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการได้แก่ บุญที่สำเร็จด้วยการให้ทานบุญที่สำเร็จด้วยศีล และบุญที่สำเร็จด้วยภาวนา

ในอรรถกถาได้อธิบายถึงความละเอียดของบุญกิริยาวัตถุแต่ละประการ และ จำแนกเป็น ๑๐ อย่าง ได้แก่

ทาน (การให้) ปัตติทาน (การให้ส่วนบุญ) และ ปัตตานุโมทนา (การอนุโมทนาในส่วนบุญของผู้อื่น) สงเคราะห์ลงในทานมัย (บุญที่สำเร็จด้วยทาน)

ศีล การขวนขวายในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน สงเคราะห์ลงในศีลมัย (บุญที่สำเร็จด้วยศีล)

การอบรมเจริญภาวนา (อบรมเจริญความสงบของจิตและอบรมเจริญปัญญา) การฟังธรรม และ การแสดงธรรม สงเคราะห์ลงในภาวนามัย (บุญที่สำเร็จด้วยภาวนา)

ส่วนทิฏฐุชุกรรม ซึ่งเป็นการกระทำความเห็นให้ตรง เป็นไปได้ในบุญญ-กิริยาวัตถุทั้งหมด.

ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

มองมุมมุ่งธรรม ๐๗ ...... บุญกิริยาวัตถุเป็นอย่างไร
บุญ บาป หรือ ไม่บุญไม่บาป
บาป - บุญ [คาถธรรมบท]
บุญ

…ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 17 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 18 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 19 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wirat.k
วันที่ 20 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ประสาน
วันที่ 21 ก.ค. 2559

สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 21 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 21 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 22 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่นด้วยค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ