ขอถามเกี่ยวกับเรื่องพระสูตรหรืออรรถกถา

 
Chaowat
วันที่  22 ส.ค. 2559
หมายเลข  28110
อ่าน  908

มีพระสูตรบทไหนหรืออรรถกถาใดในพระไตรปิฎกบ้างครับ ที่กล่าวถึงการประทุษร้ายสัตว์ หรือบุคคล โดยไม่มีเจตนาฆ่า แม้สัตว์หรือบุคคลนั้นตาย ซึ่งไม่เป็นปาณาติบาตบ้างมั้ยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 22 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 1] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ 103
[พระเจ้าอโศกตรัสถามข้อสงสัยในเรื่องบาป] พระราชา ทอดพระเนตรเห็นปาฏิหาริย์นั้นแล้ว ก็ตกลงพระทัยว่าบัดนี้ พระเถระจักสามารถเพื่อจะยกย่องพระศาสนาได้ จึงตรัสถามความสงสัยของพระองค์ว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ! โยมได้ส่งอำมาตย์นายหนึ่งไปด้วยสั่งว่า เธอไปยังพระวิหารระงับอธิกรณ์แล้วนิมนต์ให้ภิกษุสงฆ์ทำอุโบสถเถิดดังนี้ เขาไปยังพระวิหารแล้ว ได้ปลงภิกษุเสียจากชีวิตจำนวนเท่านี้รูป บาปนั้นจะมีแก่ใคร? พระเถระ ทูลถามว่า ขอถวายพระพร ! ก็พระองค์มีความคิดหรือว่าอำมาตย์นี้ จงไปยังพระวิหารแล้ว ฆ่าภิกษุทั้งหลายเสีย. พระราชา. ไม่มี เจ้าข้า. พระเถระ. ขอถวายพระพร ! ถ้าพระองค์ไม่มีความคิดเห็นปานนี้ไซร้บาปไม่มีแด่พระองค์เลย.

[พระโมคคลีบุตรติสสเถระอ้างพระพุทธพจน์เล่าอดีตนิทาน] ลำดับนั้น พระเถระ (ถวายวิสัชนา) ให้พระราชาทรงเข้าพระทัยเนื้อความนี้ด้วยพระสูตรนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม บุคคลคิดแล้ว จึงกระทำกรรมด้วยกาย วาจา ใจ ๑ ดังนี้. เพื่อแสดงเนื้อความนั้นนั่นแล พระเถระจึงนำติดติรชาดกมา๒ (เป็นอุทาหรณ์) ดังต่อไปนี้. ขอถวายพระพร มหาบพิตร ! ในอดีตกาล นกกระทาชื่อ ทีปกะเรียนถามพระดาบสว่า

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ! นกเป็นอันมาก เข้าใจว่า ญาติของพวกเราจับอยู่แล้ว จึงพา กันมา นายพรานอาศัยข้าพเจ้าย่อมถูกต้องกรรม เมื่อนายพรานอาศัยข้าพเจ้าทำบาป นั้น ใจข้าพเจ้า ย่อมสงสัย ว่า (บาปนั้น จะมีแก่ข้าพเจ้า หรือหนอ?) . พระดาบส ตอบว่า ก็ท่านมีความคิด (อย่างนี้) หรือว่า ขอนกทั้งหลายเหล่านี้มา เพราะเสียง และเพราะเห็นรูปของเราแล้วจงถูกแร้ว หรือจงถูกฆ่า นกกระทา เรียนว่า ไม่มีท่านผู้เจริญ ลำดับนั้น ดาบสจึงให้นกกระทานั้นเข้าใจยินยอมว่า ถ้าท่านไม่มีความคิดไซร้ บาปก็ไม่มีแท้จริง กรรมย่อมถูกต้องบุคคลผู้คิดอยู่เท่านั้น หาถูกต้องบุคคลผู้ไม่คิดไม่ ถ้าใจของท่าน ไม่ประทุษร้าย (ในการทำความชั่ว) ไซร้ กรรมที่นายพราน อาศัยท่านกระทำ ก็ไม่ถูกต้องท่าน บาปก็ ไม่ติดเปื้อนท่าน ผู้มีความขวนขวายน้อย ผู้เจริญ (คือบริสุทธิ์) .

[เล่มที่ 40] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 31

ข้อความบางตอนจาก เรื่อง พระจักขุบาล

ในขณะนั้น มหาเมฆตั้งขึ้นแล้ว. พวกเธอคิดว่า "เดี๋ยวนี้เย็นแล้ว, และเมฆก็ตั้งขึ้นแล้ว, เราจักมาดูแต่เช้าเทียว" ดังนี้แล้วกลับไป. ฝนตกในปฐมยาม หยุดในมัชฌิมยาม. พระเถระ (พระจักขุบาล ตาบอด) เป็นผู้ (เคย) ปรารภความเพียร เดินจงกรมเป็นอาจิณ; เหตุฉะนั้น จึงลงสู่ที่จงกรมแล้วในปัจฉิมยาม. แลในกาลนั้น ตัวแมลงค่อมทอง (หรือแมลงเม่า) เป็นอันมาก ตั้งขึ้นแล้ว บนพื้นที่ฝนตกใหม่. ตัวเหล่านั้น เมื่อพระเถระจงกรมอยู่ ได้วิบัติ (ตาย) โดยมาก.

พวกอันเตวาสิก ยังไม่ทันกวาดที่จงกรมของพระเถระแต่เช้า. ฝ่ายพวกภิกษุนอกนี้ มาด้วยหวังว่า " จักดูที่อยู่ของพระเถระ" เห็นสัตว์ทั้งหลายในที่จงกรมแล้ว ถามว่า "ใครจงกรมในที่นี้." พวกอันเตวาสิกของพระเถระตอบว่า " อุปัชฌาย์ของพวกกระผมขอรับ." เธอทั้งหลายติเตียนว่า "ท่านทั้งหลายดูกรรมของสมณะเถิด ในกาลมีจักษุท่านนอนหลับเสีย ไม่ทำอะไร, ในกาลมีจักษุวิกลเดี๋ยวนี้ไว้ตัวว่า 'จงกรม' ทำสัตว์มีประมาณถึงเท่านี้ให้ตายแล้ว ท่านคิดว่า ' จักทำประโยชน์' กลับทำการหาประโยชน์มิได้."

พวกเธอไปกราบทูลพระตถาคตแล้วในขณะนั้นว่า "พระเจ้าข้า พระจักขุปาลเถระ ไว้ตัวว่า 'จงกรม' ทำสัตว์มีชีวิตเป็นอันมากให้ตายแล้ว."

พระศาสดาตรัสถามว่า "ท่านทั้งหลายเห็นเธอกำลังทำสัตว์มีชีวิตเป็นอันมากให้ตายแล้วหรือ?"

ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า "ไม่ได้เห็น พระเจ้าข้า."

ศ. ท่านทั้งหลายไม่เห็นเธอ (ทำดังนั้น) ฉันใดแล ถึงเธอก็ไม่เห็นสัตว์มีชีวิตเหล่านั้น ฉันนั้น. ภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าเจตนาเป็นเหตุให้ตาย ของพระขีณาสพทั้งหลาย (คือบุคคลผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว) มิได้มี.

ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 22 ส.ค. 2559

ฟังธรรมเพื่อรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 22 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพครับ

สำคัญที่เจตนา มีเจตนาฆ่าและทำการฆ่าสำเร็จด้วย จะโดยการฆ่าเอง หรือ สั่งให้คนอื่นฆ่าก็ตาม เมื่อผู้นั้นตาย ก็เป็นปาณาติบาต แต่ถ้าไม่มีเจตนาฆ่า ก็ไม่เป็น

ขอยกตัวอย่างจาก ๓ เหตุการณ์ ในพระวินัยปิฎกเพื่อการเทียบเคียง

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๑๖ เรื่องให้ทาน้ำมัน ๓ เรื่อง

. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายจึงเอาน้ำมันทาภิกษุนั้น ภิกษุนั้นถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจว่า พวกเราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่อง นั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?

ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มิได้มีความประสงค์จะให้ตาย พระพุทธเจ้าข้า

ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่มีความประสงค์จะให้ตาย ไม่ต้องอาบัติ

. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายมีความประสงค์จะให้ตาย จึงเอาน้ำมันทาภิกษุนั้น ภิกษุนั้นถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจว่า พวกเราต้องอาบัติปาราชิก แล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค

พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?

ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความประสงค์จะให้ตาย พระพุทธเจ้าข้า

ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว

. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายมีความประสงค์จะให้ตาย จึงได้เอาน้ำมันทาภิกษุนั้น แต่ภิกษุนั้นไม่ถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจว่า พวกเราต้อง อาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค

พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?

ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความประสงค์จะให้ตาย พระพุทธเจ้าข้า

ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 23 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ