อนุโลมปาณาติบาต

 
Chaowat
วันที่  29 ส.ค. 2559
หมายเลข  28144
อ่าน  5,575

อนุโลมปาณาติบาต เช่น การทำร้ายร่างกาย การทำให้เสียโฉม การทำให้พิการ แต่ไม่ถึงตายนั้น ถ้าหากกระทำ ก็จะเป็นการล่วงศีลข้อที่ 1 ด้วยใช่มั้ยครับ เพราะอ่านเจอจากเว็บไซต์ //www.xn--12c9b1aha5ai6e7a.com/2013/05/to-abstain-from-killing.html ขอความกรุณาอาจารย์อธิบายให้เข้าใจในธรรม และเห็นถูกด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปาณาติบาต มุ่งหมายถึง เจตนาที่ฆ่า ไม่ใช่เจตนาที่เบียดเบียน คือ เจตนาฆ่าสัตว์อื่นที่มีชีวิต เพราะฉะนั้น หากมีเจตนาเพียงทารุณ เบียดเบียน ไม่เป็นปาณาติบาต แม้สัตว์นั้นจะตายก็ตาม แต่เป็นอกุศลกรรมทางกายที่เรียกว่ากายทุจริตนั่นเอง ซึ่งมีโทษคือ ทำให้เกิดวิบากที่ไม่ดีได้ ผลของวิบาก คือ ทำให้ผู้นั้นอ่อนแอ เป็นโรคได้ง่าย เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ครับ ขออนุโมทนา

พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 287

องค์ของปาณาติบาตนั้น มี ๕ อย่าง คือ

๑.ปาโณ สัตว์มีชีวิต

๒.ปาณสัญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต

๓.วธกจิตตัง มีจิตคิดฆ่า

๔.อุปักกโม มีความพยายาม

๕.เตนมรณัง สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น

--------------------------

และสัตว์นั้นต้องตาย จากเจตนาฆ่านั้น หาก ไม่ตาย ก็ไม่สำเร็จครบองค์เป็นปาณาติบาต ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าเป็นการเบียดเบียน ขณะนั้นเป็นอกุศลกรรมบถที่ไม่ครบองค์ แต่ก็มีโทษ แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นล่วงศีลข้อที่ ๑ เพราะขึ้นชื่อว่าการเบียดเบียน การประทุษร้ายกันเป็นโทษโดยส่วนเดียว ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย และการเบียดเบียนที่เกิดขึ้นเป็นไปนั้น สามารถให้ผลเป็นผลที่ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจหลังจากปฏิสนธิกาล (หลังจากที่เกิดแล้ว) ได้

เพราะฉะนั้น ในเมื่อตนเองรักสุขเกลียดทุกข์ ฉันใด คนอื่น หรือสัตว์อื่น ก็เป็นเช่นนั้น จึงไม่ควรเบียดเบียนกัน ควรมีเมตตา ความหวังดี ปรารถนาดี ต่อกัน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 31 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Woranan
วันที่ 6 ก.ย. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ