บวชขาดทุนมากหรือน้อยรู้ได้ไงครับ
เราจะรู้ได้ไงครับว่าบวชมาแล้วขาดทุนจนหมด บวชแล้วบาป จะออกพรรษาแล้วครับรู้สึกว่าบวชมาแล้วขาดทุนครับ จะแก้ไขยังไงดีครับกับเวลาที่เหลืออยู่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บวชแล้วไม่เข้าใจพระธรรมวินัย ไม่ศึกษาพระวินัยบัญญติ ย่อมไม่รู้ในสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำในเพศพระภิกษุ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน บรรพชิต หรือ คฤหัสถ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ การศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ดีแล้ว เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ก็คือ ผ่านไปแล้ว เมื่อสึกออกมาเป็นเพศคฤหัสถ์ จึงควรที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไป ในชีวิตที่เหลืออยู่ อีกไม่นานเลย ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระภิกษุทุกรูป ทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่สมัยพุทธกาล จนถึงสมัยนี้ ต้องศึกษาพระธรรมและน้อมประพฤติตามพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ ถ้าหากมีการล่วงละเมิดพระวินัยแม้จะเป็นเพียงอาบัติเล็กน้อย แม้ว่าจะพึ่งบวช ก็ต้องอาบัติ มีโทษตามพระวินัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอย่างยิ่ง สำหรับเพศที่สูงยิ่งคือเพศบรรพชิต ถ้าทำอะไรผิดในเพศที่สูงยิ่ง มีโทษมาก จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย จะเห็นได้ว่าในสมัยพุทธกาล ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีความเข้าใจถูกเห็นถูก เห็นว่าการอยู่ครองเรือน เป็นที่หลั่งไหลมาของอกุศล ธรรมทั้งหลาย เห็นว่าเพศที่ปลอดโปร่งคือเพศบรรพชิต จึงสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สมบัติ อาคารบ้านเรือน วงศาคณาญาติ สละความเป็นคฤหัสถ์ทุกอย่าง มุ่งสู่เพศที่สูงยิ่งเพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง แต่การศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สะสมความดี ไม่ได้จำกัดที่เพศบรรพชิต แม้คฤหัสถ์ก็สามารถศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สะสมความดีได้ เพราะไม่ได้มีอัธยาศัยเหมือนผู้ที่สละอาคารบ้านเรือน ซึ่งก็ต้องไม่ลืมจริงๆ ว่า การเป็นคฤหัสถ์ที่ดี ยังยาก ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...