เข้าใจถูกหรือ
เวลาไปซื้อพระเครื่อง ก็ห้ามกล่าวว่าซื้อ เดี๋ยวบาป ต้องบอกว่าเช่า อะไรบาป อะไรไม่บาป ขอความกระจ่างด้วยค่ะท่านอาจารย์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บาป มีได้ เพราะอาศัย จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น คือ เป็นจิตที่ไม่ดี เพราะประกอบด้วยเจตสิกที่ไม่ดี มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เพราะฉะนั้น บาปจึงมีหลายระดับ คือ ขณะที่เป็นอกุศลจิต และขณะที่ทำอกุศลกรรม ที่เป็นการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น ขณะที่เป็นบาปที่มีกำลังและสามารถทำให้ส่งผลได้รับวิบาก คือ ผลของกรรมได้ มีการเกิดในอบายภูมิ ซึ่งขณะที่คิดในใจ เป็นอกุศลจิต เป็นบาป ที่ไม่ให้ผลให้ได้รับสิ่งไม่ดี ครับ เพียงสะสมเป็นอุปนิสัยที่ไม่ดีเท่านั้น ครับ
ดังนั้น ขณะนี้ มีบาป เพียงอกุศลจิต เกิด บาปในขณะนั้น แต่บาปไม่ได้อยู่ที่ใช้คำว่า ซื้อ ไม่ใช้คำว่าเช่า เพราะ บาป คือ สภาพจิต ไม่ใช่ขึ้นอยู่ที่คำเป็นสำคัญ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อกุศลเกิด ก็บาปแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย, ประเด็นที่น่าพิจารณาต่อ คือ มีสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร? เพื่อป้องกันภัยอันตราย ให้ลาภ เป็นต้น ย่อม ไม่พ้นจากอกุศล พอกพูนความไม่รู้ ความเห็นผิด ให้มากขึ้นต่อไป เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครหรือไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะบังคับหรือดลบันดาลให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นได้เลย เหตุย่อมสมควรแก่ผล ผลที่เกิดขึ้น ย่อมมาจากเหตุ เหตุดี ย่อมนำผลที่ดีมาให้ ถ้าเป็นเหตุไม่ดี คือ อกุศลกรรมประการต่างๆ จะนำผลที่ดีมาให้ได้อย่างไร ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ ในสังคมที่พระศาสนากำลังเสื่อม เป็นไปได้ต่างๆ นานา ไม่มี ก็คิดว่ามี หมดไปแล้วก็ไม่รู้ ส่วนมากแสวงหาสุข สุขเกิดก็พอใจ ทุกข์ ก็หวั่นไหวไป วนเวียนอย่างนี้ในสังสารวัฏฏ์ สุขก็ขณะเดียว ทุกข์ก็ขณะเดียว แต่ติดสุขจึงแสวงหาของที่คิดว่ามี