ภิกษุใช้สมาร์ทโฟน อ่านหนังสือพิมพ์ ชมรายการโทรทัศน์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นโทษเป็นความผิดเป็นอาบัติหรือไม่ประการใดบ้าง กรณีที่ ภิกษุ
1. ใช้สมาร์ทโฟน
2. อ่านหนังสือพิมพ์
3. ชมรายการทีวี
ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำหรับพระภิกษุ ที่เป็นเพศบรรพชิต เป็นเพศที่สละหมดทุกอย่าง แตกต่างจากเพศคฤหัสถ์ราวฟ้ากับดิน คือ ไม่สามารถจะใช้ชีวิตดังเช่นคฤหัสถ์ได้อย่างเดิมเพราะ จุดประสงค์ของการบวช คือ การดับกิเลสจนหมดสิ้นเท่านั้น ซึ่งการจะดับกิเลสจนหมดสิ้น ก็ด้วยการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งปัญญาจะเจริญได้ ก็ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเท่านั้น ปัญญาจึงเกิดจากการศึกษาพระพุทธพจน์ พระพุทธวัจนะ ไม่ใช่เกิดจากหนังสืออื่นๆ ที่ไม่ใช่พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรอ่านหนังสือทางโลก และ แม้แต่การศึกษาวิชาการทางโลก ดังเช่น คฤหัสถ์อีก เพราะก็ไม่ต่างกับเพศคฤหัสถ์ และไม่ได้ขัดเกลากิเลส และ ย่อมเป็นที่ติเตียนของประชุมชน เมื่อเห็นพระภิกษุ ศึกษาทางโลก ดังเช่น คฤหัสถ์ และ เป็นการผิดพระวินัย ต้องอาบัติ อันจะเป็นโทษกับพระภิกษุ ครับ
โดยนัยเดียวกับการมีมือถือ ใช้สมาทโฟน ก็ไม่ต่างจากคฤหัสถ์ เพราะเพศบรรพชิต คือ สละแล้วจากความเป็นคฤหัสถ์ทั้งปวง ด้วยมุ่งคือการดับทุกข์ สิ้นกิเลส และ เช่นเดียวกับการดูทีวี ดูหนัง ดูละคร ก็ล่วงศีล เช่นเดียวกัน ครับ ขออนุโมทนา
เรื่องเรียนคัมภีร์โลกายตะ
สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์เรียนคัมภีร์โลกายตะ ชาวบ้านจึงเพ่งโทษ ติเตียนโพนทะนาว่า เหมือนคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ภิกษุทั้งหลายได้ยินชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส
ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่เห็นคัมภีร์โลกายตะว่ามีสาระ จะพึงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้หรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ไม่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อันผู้ที่เห็นธรรมวินัยนี้ว่ามีสาระ จะพึงเล่าเรียนคัมภีร์โลกายตะหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า. ไม่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเรียนคัมภีร์โลกายตะ รูปใดเรียนต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์สอนคัมภีร์โลกายตะ ชาวบ้านจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า...เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม. ..ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ การกระทำของเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส...
ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสอนคัมภีร์โลกายตะ รูปใดสอน ต้องอาบัติทุกกฏ. เรื่องเรียนดิรัจฉานวิชา (วิชาที่ขัดกับทางดำเนินไปพระนิพพาน)
สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์เรียนดิรัจฉานวิชา ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเรียนดิรัจฉานวิชา รูปใดเรียน ต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์สอนดิรัจฉานวิชา ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียนโพนทะนาว่า เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม…ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสอนดิรัจฉานวิชา รูปใดสอน ต้องอาบัติทุกกฏ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ต้องตั้งต้นจริงๆ ว่า พระภิกษุ คือ ใคร ถ้ากระทำในสิ่งที่กล่าวถึงในประเด็นคำถาม คือ ความประพฤติของคฤหัสถ์ ทั้งหมด ไม่ใช่บรรพชิต โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม การอ่านหนังสือพิมพ์ก็เป็นเรื่องของคฤหัสถ์ (ทำไมท่านไม่อ่านพระไตรปิฎก) การชมรายโทรทัศน์ ละคร กีฬา เป็นต้น ก็เป็นเรื่องของคฤหัสถ์ เป็นความไม่สงบ ไม่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิต พระภิกษุจะชีวิต มีความประพฤติเหมือนอย่างคฤหัสถ์ ไม่ได้ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...