ภิกษุนำเงินติดตัวมาตั้งแต่ก่อนบวช

 
thilda
วันที่  5 ต.ค. 2559
หมายเลข  28257
อ่าน  1,383

ขอเรียนถามอาจารย์ค่ะ กรณีที่พระภิกษุในระหว่างที่บวชไม่มีการรับเงินทอง แต่ว่ามีเงินที่นำติดตัวมาด้วยตั้งแต่ก่อนบวชแล้ว จะเป็นอาบัติหรือไม่ อย่างไรคะ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาที่ให้ความรู้ความเข้าใจถูกค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 ต.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แม้ไม่รับในขณะที่เป็นพระภิกษุ แต่ มีเงินติดตัวมาด้วย ก่อนบวช ก็ชื่อว่ามีแล้ว และ ไม่ได้สละ นั่นก็ชื่อว่าต้องอาบัติ เพราะยังยินดีในเงินที่มีอยู่นั้น ไม่สละ สิ่งที่ไม่ควร คือ เงินและทอง พระภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง

พระภิกษุ คือ ใคร? พระภิกษุ คือ ผู้ที่เห็นโทษเห็นภัยของกิเลส สละอาคารบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสในเพศที่สูงยิ่ง คือ เพศบรรพชิต ที่จะต้องมีชีวิตที่เหมาะควรแก่เพศของตน จะมาทำอะไร มีอะไรต่างๆ เหมือนอย่างคฤหัสถ์ ไม่ได้เลย อย่างเช่น บุคคลในสมัยพุทธกาล เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้วเห็นประโยชน์ของการขัดเกลากิเลสเพราะท่านสะสมมาที่จะเห็นโทษของอกุศล และมีปัญญารู้ว่า กุศลย่อมดีกว่าอกุศลและรู้ว่าปัญญาเท่านั้นที่จะดับอกุศลได้ เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว ผู้ที่จะอุปสมบท (บวช) เป็นพระภิกษุ ย่อมเป็นผู้ที่จริงใจที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตซึ่งสูงกว่าเพศคฤหัสถ์เพราะว่าก่อนจะบวชก็มีกิเลส คฤหัสถ์ก็มีกิเลส และคนที่จะบวชก็จะต้องเห็นโทษกิเลสเป็นสิ่งที่ละยากในเพศคฤหัสถ์ และสะสมอัธยาศัยใหญ่ที่จะสละ ละทุกอย่างที่เคยติดข้อง เพื่อเข้าใกล้ความสงบจากกิเลส นี้คือจุดประสงค์ของการเป็นพระภิกษุ ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์อื่นใดทั้งสิ้น และที่สำคัญ พระภิกษุทุกรูปในสมัยพุทธกาล ทั้งหมดและทุกยุคทุกสมัยด้วย ต้องเคารพในพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ซึ่งจะต้องศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ น้อมประพฤติในสิ่งที่ถูกต้อง ละเว้นในสิ่งที่ผิดที่ขัดต่อความประพฤติเป็นไปของพระภิกษุอันเป็นเพศที่สูงยิ่ง

ความเป็นบรรพชิต ถ้ารักษาเป็นอย่างดี ไม่ล่วงละเมิดสิกขาบท พร้อมทั้งมีความจริงใจที่จะฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง คุณประโยชน์ก็จะเกิดมีกับผู้นั้น เป็นผู้ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงจากการบวชเป็นบรรพชิต แต่ถ้ารักษาไม่ดี ย่อหย่อนในพระธรรมวินัยเที่ยวย่ำยีสิกขาบท เป็นผู้ประมาท ไม่เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ไม่เห็นคุณของความเป็นบรรพชิตจริงๆ คือ ความเป็นผู้เว้นทั่ว เว้นจากบาปธรรม เว้นจากเครื่องติดข้องอย่างที่คฤหัสถ์มี โทษก็ย่อมเกิดแก่ผู้นั้น สามารถทำให้เกิดในอบายภูมิได้ จากเพศที่สูงยิ่งกลับนำดิ่งให้ตัวเองตกลงไปสู่ที่ต่ำ คือ อบายภูมิ น่ากลัวเป็นอย่างมาก ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 ต.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระภิกษุในพระธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงิน รับเงินไม่ได้ ใช้จ่ายเงินก็ไม่ได้ ไม่มีกิจใดๆ ที่พระภิกษุจะต้องยุ่งเกี่ยวกับเงินเลยแม้แต่น้อย เพราะจะต้องสละแล้วก่อนบวช ดังนั้น เมื่อบวชแล้ว จะมารับเงิน ไม่ได้ จะมีเงินติดตัวไม่ได้ เพราะเงิน เป็นเรื่องของคฤหัสถ์ ไม่ใช่เรื่องของพระภิกษุ ถ้าพระภิกษุรับเงิน มีเงิน ใช้จ่ายเงิน ก็ไม่ต่างอะไรกับคฤหัสถ์ ผิด ก็คือ ผิด แม้จะบอกว่าเป็นเงินติดตัวมาก่อนบวช ย่อมแสดงถึงความยินดีในเงิน นั้น ก็เป็นอาบัติอยู่นั่นเอง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 6 ต.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
thilda
วันที่ 6 ต.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 9 ต.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 20 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ