พุทธทำนายกล่าวถึงเรื่องอะไรบ้างคะ
คำทำนายของพระพุทธองค์ที่กล่าวถึงอนาคต มีมากมายในพระไตรปิฎก มีทั้งเรื่องราวของความเป็นไปของพระศาสนาว่า คำสอนของพระองค์จะดำรงอยู่นาน แค่ไหน ความประพฤติของภิกษุในอนาคตเป็นอย่างไร และในอนาคตจะมีพระ-พุทธเจ้า พระนามว่าศรีอริยเมตตรัยมาตรัสรู้ เป็นต้น ทรงแสดงความเป็นไปของ โลกทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ทรงแสดงเหตุเกิดของโลก ความดับโลก และ หนทางเพื่อการหลุดพ้นจากโลก ฯลฯ
ในพุทธทำนายที่ใช้เรื่องราวที่พระเจ้าประเสนธิโกศลทรงสุบิน คืนเดียว 16 เรื่อง แล้วเข้าไปกราบทูลถามพระศาสดา แล้วท่านก็ทรงโปรดทำนายให้ แต่ไม่ได้บอกว่า จะเกิดอย่างนั้นจริงๆ อย่างแน่นอนไม่ใช่หรือครับ หรือว่าผมเข้าใจผิดไป ช่วยขยาย ด้วย
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตหลังพุทธกาล คือในยุคนี้ก็มีให้เห็นตามที่พระพุทธองค์ ทรงพยากรณ์
พุทธทำนาย ไม่ใช่พุทธพยากรณ์ ดังนั้นไม่น่าจะต้องเกิดขึ้นจริง ถ้าจะเกิดขึ้นจริงเหตุใดจึงต้องรอให้พระเจ้าประเสนธิโกศลสุบิน แล้วเอาไปถามเล่าครับ คำก็บอก ชัดเจนว่าเป็นการทำนาย เป็นการทำนายฝันเท่านั้น ในพระคัมภีร์ก็มีบอกว่าหากยังมี การศึกษาและปฏิบัติอยู่เรื่อยไป โลกก็จะไม่ว่างเว้นพระอรหันต์ แล้วทุกวันนี้เวลาผ่าน มากว่า 2500 ปี แล้ว แต่พระคัมภีร์ยังอยู่ครบถ้วน และมีบุคคลสนใจปฏิบัติมาก มาย อาจจะมากกว่าสมัยนู้นด้วยซ้ำไป พระพุทธองค์ตรัสเสมอว่า ไม่มีอะไรแน่นอน เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แล้วทำไมเรายังพากันยึดมั่น อะไรกันอยู่หล่ะครับ ก็เพราะปัญญาเราน้อยไงเรื่องยึดตามคำทำนาย นี่เห็นชัดเจน เลยครับ
ไม่มีคำไหนที่พระผู้มีพระภาคฯ ตรัสไว้แล้วไม่จริง พุทธประสงค์ของการตรัสรู้ และ เผยแพร่พระธรรม เพื่อสงเคราะห์สัตว์ทั้งหลาย ที่วนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ ให้มีปัญญสามารถตรัสรู้ตาม เรื่องการพยากรณ์หรือทำนายเหตุการณ์ในอนาคต จึงไม่ใช่ พุทธประสงค์ที่แท้จริง แต่เมื่อมีผู้ทูลถามพระองค์ก็ทรงอนุเคราะห์ ด้วยพระมหากรุณาค่ะ
หากยังมี การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม โลกย่อมไม่ว่างจากพระอรหันต์แน่ นอนค่ะ แต่ปัจจุบันนี้เราเป็นเช่นนั้นกันหรือเปล่า? แม้แต่ความเข้าใจในพระธรรมก็ยังไม่ถูกต้อง เมื่อไม่มีเหตุ การบรรลุผลย่อมมีไม่ได้ใช่มั้ยค่ะ
เวลาผ่านมากว่า 2500 ปี แล้ว แต่พระคัมภีร์ยังอยู่ครบถ้วน และมีบุคคลสนใจปฏิบัติมากมาย อาจจะมากกว่าสมัยนู้นด้วยซ้ำไป
อันนี้ คุณบลูเบเกอร์ มองที่จำนวนคนปฏิบัติ ไม่ได้พิจารณาว่า ที่สนใจปฏิบัติมาก มายนั้น เขาปฏิบัติอย่างไร ปฏิบัติถูก หรือ ผิด
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน สำหรับผู้ไม่รู้ ครับ แต่ สำหรับ พุทธพจน์เป็นสิ่งที่ จริงแท้ แน่นอน เป็น หนึ่ง ไม่เป็น สอง ถ้าทรง ตรัสว่า ใช่ ก็คือ ใช่ ถ้าทรง ตรัสว่า ถูกต้อง ก็คือ ถูกต้อง ไม่มีอะไรที่พระองค์ไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้ เหมือนใบไม้ ทั้งป่า สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง เหมือน ใบไม้เพียงกำมือเดียว แต่ถ้ากล่าวถึงพระธรรมคำสอน ที่ทำให้พ้นทุกข์ (สติปัฏฐาน) พระองค์ได้ทรงแสดงไว้หมดสิ้นแล้ว ไม่มีำกำมือของอาจารย์ (คือไม่มีส่วนที่เก็บงำไว้อีก)
พุทธทำนาย หรือ พุทธพยากรณ์ ก็คือ พุทธพจน์
ไม่ใช่ คำทำนาย หรือ คำพยากรณ์ ของ หมอดู หรือ โหราศาสตร์ ที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง คุณ บลูเบเกอร์ คงต้อง ศึกษาพระธรรม และพิจารณาพระธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งให้มากกว่านี้ เพื่อ เป็นการปลูกฝัง ตถาคตโพธิศรัทธา หรือ ความศรัทธาในคำ สอน ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะเพิ่มขึ้น ตามความเข้าใจพระธรรมที่ เพิ่ม ขึ้นครับ
พระพุทธเจ้ามีสัพพญญตญาณ รู้ทุกอย่างทั้งอดีตปัจจุบันอนาคต พระดำรัสของพระพุทธเจ้า ตรัสแต่ คำจริง คำแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ รู้จักกาล ข้อความจาก อรรถกถาขุททกกาย พุทธวงศ์ แสดงว่า พระดำรัสของพระพุทธเจ้าจริงแท้ อธิบาย ดังนี้ เพราะเหตุที่พระชินพุทธเจ้า ตรัสแต่คำจริง ทรงประกาศธรรมที่แท้จริง และพระดำรัสของพระองค์ก็เป็นคำจริง ฉะนั้น พระพุทธเจ้า จึงชื่อว่าตถาคต อุปมา พระดำรัสของพระพุทธเจ้า เหมือนดั่งว่า คนที่แบกของหนัก ต้องวางของหนักแน่ นอน และก้อนหินที่ขว้างไปข้างบน ก้อนหินย่อมตกลงมาแน่นอน ฉันใด แม้พระดำรัส ของพระพุทธเจ้าย่อมจริงแท้อย่างนั้น
ทำไมคุณบลูเบเกอร์จึงกล่าวว่า พุทธทำนาย ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง ล่ะครับ เพราะเป็นพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงถึงเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นจริงอย่าง แน่นอน ในสมัยนี้ ก็พอจะเห็นได้แล้วว่าเป็นจริงตามที่พระองค์ทรงแสดง เป็นข้อ พิสูจน์ได้แล้ว ไม่น่าจะต้องสงสัยเลย
ในพระไตรปิฎกนั้น แม้ว่า จะเป็นคำกล่าวของ พระเถระ พระเถรี หรือ อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งเป็นธรรม เป็นวินัย ก็นับเป็น พุทธพจน์ เหมือนกัน เปรียบเหมือน ข้าวเปลือก กองใหญ่ ที่ทางสี่แพร่งผู้ใดมากอบเอาไป ด้วย กำมือบ้าง ตะกร้าบ้าง กระบุงบ้าง ก็นับว่ามาจากข้าวเปลือก กองเดียวกัน จะเป็นคำพูดของผู้ใดก็ตาม ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย นับเป็น พุทธพจน์ทั้งสิ้น ครับ