การอุทิศบุญ การโอนบุญ การเบิกบุญ

 
showtana
วันที่  14 ก.พ. 2550
หมายเลข  2834
อ่าน  6,472

ขอเรียนถามว่า..

ถ้าเราทำบุญแล้ว ..มีการอุทิศบุญให้กับ ..ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว..ให้กับเทพ..เทวดา..กับพรหม และอมนุษย์ทั้งหลายไม่วาจะอยู่ในภพภูมิใด..

ถามว่าผู้รับบุญท่านเหล่านั้นจะได้รับผลบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ค่ะ? ..จะทราบได้อย่างไรว่าได้รับหรือไม่ได้รับ? และการโอนบุญให้ผู้อื่น ..รวมทั้งการขอเบิกบุญที่เคยได้บุญมาแล้ว นำบุญนั้นมาโอนต่อให้ผู้อื่นก่อน....จะทำได้หรือไม่คะ?

ขอบคุณมากค่ะ..


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 16 ก.พ. 2550

ตามหลักธรรมของพระพุทธองค์ทรงแนะนำให้สาวกเจริญกุศลทุกประการ การอุทิศส่วนบุญให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว และสรรพสัตว์ที่ล่วงรู้ในกุศล เป็นสิ่งที่ควรกระทำ ส่วนญาติ และสรรพสัตว์จะรู้หรือจะอนุโมทนาหรือไม่ ไม่ใช่วิสัยของเรา และปัญหาที่ ว่า การโอนบุญ หรือขอเบิกบุญ คำนี้ไม่มีแสดงในพระไตรปิฎกและอรรถกถา เมื่อเข้า ใจว่าบุญ คือ สภาพจิตที่ดีงาม จะมีการโอนหรือขอเบิกบุญได้อย่างไร เพราะบุญเป็น นามธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pornchai.s
วันที่ 16 ก.พ. 2550

ผู้ที่กล่าวถึง การโอนบุญ เบิกบุญ เป็นผู้ที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรม จึงเข้าใจว่าบุญ เหมือนเงิน ซึ่งมีการเบิก มีการโอนกันได้ แต่ บุญ - บาป กุศล - อกุศล เป็นนามธรรม เป็น จิต เจตสิก และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ดับไปทันที จึงไม่มีการโอน การเบิก ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 16 ก.พ. 2550

การอุทิศส่วนกุศลให้กับคนที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นหนึ่งในบุญญกิริยาวัตถุ 10 เป็นกุศลที่ควรเจริญ แต่ท่านจะได้รับหรือไม่ เราไม่สามารถจะรู้ได้ ส่วนการโอนบุญนี้ไม่มี ค่ะ มีแต่เราทำบุญแล้วบอกญาติ มิตร ให้เขารู้ว่าเราได้ทำกุศลอะไรบ้าง เขารู้และ ยินดีกับกุศลที่เราทำ จิตเขาก็เป็นกุศลเป็นบุญค่ะ เบิกบุญไม่ได้เช่นกัน เพราะสัตว์ โลกเป็นไปตามกรรมที่ทำไว้ นี้เป็นสัจจธรรมหนีไม่พ้นใครทำดีคนนั้นได้ดี ใครทำชั่ว คนนั้นได้ชั่ว ไม่สามารถรับกรรมแทนกันได้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 16 ก.พ. 2550

คุ้นๆ นะคะ ดิฉันเคยได้รับแจกสำเนาเอกสารเรื่องการอุทิศบุญ โอนบุญ และเบิกบุญไปใช้ในเรื่องต่างๆ อ่านแล้วมีลักษณะคล้ายการขอหรือบนบาน แทนที่จะได้บุญ เพิ่มเติมกลับมาจากการอุทิศบุญด้วยจิตที่เป็นกุศล น่าจะกลายเป็นว่าสะสมโลภมูลจิต จากความหวังว่าจะได้ เมื่อไม่ได้ตามที่ขอ หรือหวังไว้ โทสมูลจิตก็จะตามมา และ โมหมูลจิตก็จะสะสมพอกพูนขึ้นโดยลำดับขั้นบุญของใครก็คือของคนนั้นเป็นผู้สร้างผู้ กระทำสั่งสมขึ้นเอง ไม่มีใครทำแทนใครได้ทั้งกุศลและอกุศล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วการกระทำของใครก็เป็นของคนนั้น จะเบิกถอนโยกย้ายถ่ายโอนไปให้ใครไม่ได้หรอกค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
unknown
วันที่ 17 ก.พ. 2550

สรุปก็คือ อุทิศให้แล้วก็จบกัน เพียงแต่ขณะที่อุทิศให้นั้นสติเกิดขึ้นระลึก ในสภาพธรรมหรือไม่ ว่าไม่ใช่เรา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
son
วันที่ 7 ธ.ค. 2552

บุญใครทำคนนั้นได้ บาปใครทำคนนั้นได้ ผลของบุญผลของบาปจะโอน ย้าย ถ่ายเท เปลี่ยน ซื้อ ขาย กันไม่ได้ ถ้าโอนได้จริงก็จะหักล้างกับคำสอนของพระพุทธศาสนา และไปสอดคล้องของคำสอนศาสนาพราหมณ์ เช่น การล้างบาป ลอยเคราะห์ลอยบาป คนที่สอนเรื่องการโอนบุญหรือมีส่วนร่วมในการเผยแผ่การโอนบุญ เท่ากับทำลายพระสัจธรรมของพระพุทธองค์ กล่าวตู่พุทธพจน์ ถ้าโอนบุญได้จริง พระพุทธเจ้าก็โอนบุญบารมีของท่าน ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ก็โอนให้ใครต่อใครได้มรรคผลบรรลุกันโดยที่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ทำกุศลด้วยตนเองกันเลย ทำไมพระ-พุทธเจ้าไม่โอนบุญให้พระเทวฑัตพ้นจากขุมนรกได้เล่า พระพุทธเจ้ายังโอนบุญให้ใครต่อใครบรรลุกันไม่ได้ พระองค์เองหนีผลบาปกรรมของพระองค์ก็ยังไม่ได้เลย จะโอนบาปให้ใครเล่า การโอนบุญโอนบาปเหมือนของศาสนาพราหมณ์ที่มีการอาปน้ำล้างบาป หรือโอนบาปให้สัตว์ด้วยการฆ่าสัตว์บูชายันต์ พระเกษม ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กล้ามากที่บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยการตั้งคำศัพท์ " การโอนบุญ " นี้ บาปนั้นมากเหลือเกิน สงสารคนที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรมตามแนวพระไตรปิฎกที่ถูกต้องที่หลงเชื่อและเผยแผ่คำสอนผิดเพี้ยนต่อๆ กันไป ก็มีโทษเช่นกัน

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ