การบวช เรื่องที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องตรงตามพระพุทธประสงค์
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การบวช : เรื่องที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องตรงตามพระพุทธประสงค์
โดย คุณจักรกฤษณ์ เจนเจษฎา
สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๗๓
เข้าใจผิด
๑. การบวชเป็นประเพณีนิยมที่สังคมยกย่องมาแต่โบราณ
เข้าใจถูก
๑. ในสมัยพุทธกาล การบวชไม่ใช่ประเพณีนิยม แต่บวชเนื่องจากผู้บวชมีความเข้าใจพระธรรมอยู่แล้วและมีอัธยาศัยที่แน่วแน่ในการสละความเป็นอยู่อย่างคฤหัสถ์ แล้วประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัดเพื่อการขัดเกลากิเลสอย่างยิ่งในเพศบรรพชิต เป็นการบวชตามอัธยาศัย ไม่ใช่ตามอำเภอใจ ตามประเพณีนิยม หรือตามเทศกาลนิยม เพราะนั้นเป็นเรื่องของพิธีกรรมที่สำเร็จเมื่อเสร็จสิ้นพิธี แต่สิ่งที่สำคัญคือการถือครองเพศบรรพชิต เพราะการเป็นภิกษุมิได้อยู่ที่จีวร แต่อยู่ที่พระธรรมวินัย
เข้าใจผิด
๒. การบวชเป็นการปฏิบัติกิจของลูกผู้ชาย
เข้าใจถูก
๒. การบวชเป็นการสละเพศคฤหัสถ์เพื่อการขัดเกลากิเลส ไม่เกี่ยวกับเพศชายหรือหญิง ในสมัยก่อนเมื่อยังมีภิกษุณี ก็ไม่มีการกล่าวเลยว่าการบวชภิกษุณีเป็นการปฏิบัติกิจของลูกผู้หญิง
เข้าใจผิด
๓. บวชเป็นการได้ทำความดีได้เจริญกุศลอย่างสูงกว่าคฤหัสถ์
เข้าใจถูก
๓. ความดีหรือกุศลในพระพุทธศาสนาขึ้นอยู่ที่จิตใจเป็นสำคัญ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับเพศ หรือขึ้นอยู่กับรูปแบบพิธีกรรม ดังนั้น แม้จะเป็นคฤหัสถ์แต่มีปัญญาที่เข้าใจพระธรรมได้ถูกต้องก็สามารถทำความดีและเจริญกุศลได้สูงยิ่งถึงในระดับพระอริยบุคคลในเพศฆราวาสก็ยังมี เช่น นางวิสาขามิคารมาตา อนาถบิณฑิกเศรษฐี หมอชีวกโกมารภัจจ์ พระเจ้าพิมพิสาร เป็นต้น ล้วนเป็นพระอริยะที่ต่างทำความดีด้วยคุณธรรมที่สูงยิ่งในเพศฆราวาสทั้งสิ้น
เข้าใจผิด
๔. บวชเพื่อใกล้ชิดพระธรรมวินัย ได้ศึกษาและประพฤติปฏิบัติพระธรรม
เข้าใจถูก
๔. แม้อยู่ในเพศคฤหัสถ์ก็ใกล้ชิดพระธรรมวินัยได้ จากการศึกษาและการฟังพระธรรมคำสอนที่เผยแพร่อยู่แล้วโดยทั่วไป ไม่จำต้องรอบวชเพื่อให้ได้ใกล้ชิดพระศาสนา แต่การรอบวชเพื่อจะได้ใกล้ชิดพระศาสนากลับจะเป็นการปิดกั้นการศึกษาพระธรรมวินัยที่สามารถศึกษาหาความรู้ได้ในทันที ในขณะที่การให้บวชเพื่อจะได้ใกล้ชิดพระพุทธศาสนา เป็นการชักจูงโดยรูปแบบ ไม่ใช่การชักจูงโดยการให้ความเข้าใจที่ถูกต้องตั้งแต่แรกถึงประโยชน์ของพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
เข้าใจผิด
๕. การบวชทำให้มีเวลาทุ่มเทในการศึกษาและปฏิบัติธรรม
เข้าใจถูก
๕. การบวชสำหรับผู้ที่เข้าใจพระธรรมวินัยดีแล้ว ย่อมสละชีวิตคฤหัสถ์เพื่อศึกษาและอบรมเจริญปัญญาเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง แต่สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจพระธรรมวินัยอย่างถ่องแท้และไม่มีอัธยาศัยสละชีวิตคฤหัสถ์ แม้จะมีเวลาศึกษาและปฏิบัติธรรม แต่ไม่สามารถดำรงตนในเพศภิกษุได้อย่างเหมาะสม และไม่มีอุปนิสัยผูกพันในการประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยบัญญัติ ย่อมทำให้ละเมิดพระวินัย กลับกลายเป็นโทษเสียมากกว่า
เข้าใจผิด
๖. บวชเพื่อสืบอายุพระศาสนา
เข้าใจถูก
๖. การสืบทอดพระศาสนาขึ้นอยู่กับการที่พุทธบริษัทสี่พร้อมเพรียงกันศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพ จนกระทั่งเกิดปัญญารู้แจ้งในสัจธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ที่บวชเป็นภิกษุ แต่หากบวชกันมากๆ แต่ต่างไม่สามารถดำรงเพศบรรพชิตตามพระธรรมวินัยแล้ว แทนที่จะเป็นการสืบทอดพระศาสนา กลับเป็นการทำลายพระศาสนาเสียมากกว่า
เข้าใจผิด
๗. บวชเพื่อทำให้บิดามารดาญาติมิตรปลาบปลื้มที่บุตรได้แสวงหาอริยทรัพย์
เข้าใจถูก
๗. บิดามารดาญาติมิตรย่อมปลาบปลื้มในความดีทุกประการของบุตร แม้จะทำความดีในเพศฆราวาสก็ตาม การบวชเพียงชั่วคราว เป็นเพียงพิธีกรรม ย่อมเป็นการปลาบปลื้มในสิ่งที่มีผลน้อยมาก แต่เนื่องจากเป็นความเชื่อที่ไม่ได้พิจารณาเหตุและผล คิดไปว่าได้ปลาบปลื้มในบุญกุศลมากไปกว่าความดีอื่นๆ
เข้าใจผิด
๘. บวชเพื่อตอบแทนพระคุณโดยการชักนำบิดามารดาญาติมิตรให้เข้าใกล้ชิดพระพุทธศาสนา เป็นการตอบแทนด้วยอริยทรัพย์
เข้าใจถูก
๘. จริงอยู่ว่าการตอบแทนพระคุณบิดามารดาญาติมิตรให้ได้เข้าใกล้พระพุทธศาสนาเป็นการตอบแทนที่สำคัญ แต่บุตรสามารถกระทำได้ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใด ไม่จำต้องรอให้บวชเสียก่อน และที่สำคัญคือบุตรชักนำให้ใกล้ชิดพระพุทธศาสนาเพียงขณะที่บวชเท่านั้น ย่อมไม่ใช่การตอบแทนที่แท้จริง แต่การตอบแทนที่แท้จริงคือ การชักนำให้บิดามารดาตั้งมั่นในศีล ในธรรม มีความเข้าใจพระธรรมได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องกระทำต่อเนื่องไปตลอดชีวิต
เข้าใจผิด
๙. บวชเพื่อประกันตนเองว่าสามารถประพฤติความดีได้
เข้าใจถูก
๙. การประพฤติดีนั้นเป็นเรื่องที่บุคคลสามารถประเมินตนเองได้ว่าสามารถทำดีได้หรือไม่ ทำได้เพราะเหตุใด ทำไม่ได้เพราะเหตุใด ไม่ใช่ต้องมาบวชเพื่อที่จะประกันหรือรับรองตนว่าทำดีได้ และหากบวชแล้วทำดีไม่ได้ ย่อมเกิดความเสียหายต่อตนและพระศาสนาเป็นอย่างมาก มีวิธีอื่นอีกมากมายในการทดสอบความดีของตนที่ปลอดภัยและดีกว่าการที่จะต้องมาบวชมากมาย
เข้าใจผิด
๑๐. บวชเพื่อสร้างอุปนิสัยในทางที่ดีมีคุณธรรม และดัดนิสัยไม่ดีทั้งหลาย
เข้าใจถูก
๑๐. ผู้ที่เข้ามาบวชต้องมีอุปนิสัยที่ประสงค์จะขัดเกลากิเลสอย่างยิ่งมาก่อน ไม่ใช่เข้ามาบวชเพื่อที่จะสร้างอุปนิสัย หรือดัดนิสัย อย่างที่พ่อแม่ทำกับบุตร เนื่องจากวัดมิใช่โรงเรียนดัดนิสัย และ เพศบรรพชิตเป็นเพศที่บริสุทธิ์และสูงกว่าเพศฆราวาส หากผู้บวชยังไม่มีอุปนิสัยในการละและขัดเกลาแล้ว ย่อมไม่สามารถประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยบัญญัติที่เป็นการขัดเกลากิเลสอย่างยิ่งได้ ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระศาสนาเป็นอย่างมากดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนผู้ที่ประสงค์จะสร้างอุปนิสัยให้มีคุณธรรมจริงๆ ก็ทำได้แม้อยู่ในเพศคฤหัสถ์ ดังที่มีค่ายคุณธรรมสำหรับบุคคลทั่วๆ ไป และเมื่อหากพัฒนาอุปนิสัยและความเข้าใจพระธรรมวินัยได้อย่างแท้จริงแล้ว ก็สามารถบวชในภายหลังด้วยความมั่นใจจริงได้
เข้าใจผิด
๑๑. บวชเพื่อให้ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ต่างๆ
เข้าใจถูก
๑๑. เป็นการบวชที่ผิดวัตถุประสงค์ตามพระธรรมวินัย เนื่องจากภิกษุนอกจากต้องประพฤติพรหมจรรย์แล้ว มีกิจที่ต้องศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยเท่านั้น ไม่ใช่เรียนวิชาความรู้ทางโลก
เข้าใจผิด
๑๒. การบวชเรียนในเวลาจำกัด มิใช่เพื่อประโยชน์ในการอยู่เป็นสมณะ แต่เพื่อประโยชน์ในการออกไปครองบ้านครองเรือน
เข้าใจถูก
๑๒. การบวชมิใช่เรื่องที่ทำกันชั่วคราว ไม่ใช่เรื่องที่จะมาแสวงหาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะความรู้ต่างๆ ที่ดีมีประโยชน์นั้น บุคคลสามารถแสวงหาได้ตลอดเวลาและนำไปใช้นำไปปฏิบัติเพื่อการครองบ้านครองเรือนได้อยู่แล้ว ไม่จำต้องมาบวช การบวชไม่ใช่แค้มป์ทหาร แค้มป์วินัย ที่จะมีไว้สำหรับฝึกฝนตนเองเพื่อนำไปใช้ในชีวิตภายนอก แต่พระธรรมวินัยเป็นเรื่องของการศึกษาอบรมเพื่อให้เกิดปัญญาขัดเกลากิเลส ต้องกระทำไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดก็ตาม และเพศบรรพชิตนั้นเป็นการขัดเกลาอย่างยิ่งต่างไปจากคฤหัสถ์ หากประสงค์จะศึกษาหาความรู้จากพระธรรมก็เริ่มได้ในทันที ไม่จำต้องรอและสนใจเฉพาะขณะที่บวช การบวชชั่วคราวทำให้พระธรรมวินัยกลายเป็นเพียงเครื่องมือที่จะแสวงหาประโยชน์ต่อไปในทางโลก มากกว่าเห็นถึงความสำคัญของพระสัทธรรมที่นำมาซึ่งปัญญาที่ทำให้เข้าใจความจริงในสัจธรรมที่นำสัตว์ออกจากสังสารทุกข์ พระธรรมวินัยจึงเป็นเรื่องที่มีคุณค่าและควรได้รับการศึกษาเล่าเรียนด้วยความเคารพยิ่ง
เข้าใจผิด
๑๓. การบวชชั่วคราวเพื่ออุทิศกุศลให้บุคคลที่เคารพนับถือ
เข้าใจถูก
๑๓. แม้จะเป็นเจตนาที่ดี แต่หากการบวชเป็นเพียงพิธีกรรมและรูปแบบเท่านั้น ย่อมไม่เป็นการเจริญกุศลที่ถูกต้องและแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อบวชแล้วมีแนวโน้มที่จะประพฤติปฏิบัติผิดพระวินัยเนื่องจากไม่เข้าใจพระธรรมวินัยอย่างถ่องแท้ การอุทิศกุศลจึงไม่อาจที่จะบรรลุผล แต่หากชาวพุทธได้เข้าใจโดยแท้จริงว่า กุศลที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญนั้นคือสิ่งใด ทุกคนย่อมเจริญกุศลนั้นๆ ได้ถูกต้อง และสามารถแสดงออกให้ผู้อื่นได้ชื่นชม และอุทิศส่วนกุศลได้เสมอ ไม่จำกัดเวลาและไม่ต้องมีรูปแบบพิธีการใดๆ เลย
เข้าใจผิด
๑๔. อย่างไรก็ตามการบวชดีกว่าไม่บวช
เข้าใจถูก
๑๔. การบวชดีสำหรับผู้ที่เข้าใจถูกต้องและมีอัธยาศัยที่จะขัดเกลากิเลสอย่างแท้จริงในเพศบรรพชิต ไม่ใช่การบวชชั่วคราว บวชตามประเพณีนิยม หรือบวชด้วยความหวังประโยชน์แก่ตน แต่จะเป็นผลเสียอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะจะนำไปสู่การละเมิดพระวินัยอันก่อให้เกิดผลร้ายแก่ตนและทำให้พระศาสนาเสื่อมสูญต่อไปในภายภาคหน้า
เข้าใจผิด
๑๕. หากไม่มีการบวชแล้วย่อมไม่มีหนทางอื่นที่จะได้เจริญบุญกุศลในพระศาสนา
เข้าใจถูก
๑๕. หากไม่เข้าใจเรื่องบุญในพระพุทธศาสนาแล้ว ย่อมทำให้คิดเช่นนั้น บุญในพระพุทธศาสนามีถึง ๑๐ ประการ ซึ่งเป็นไปในเรื่องของการให้ทาน การอุทิศความดีที่ทำไว้แล้ว การยินดีในความดีทั้งหลาย การรักษาศีล ความอ่อนน้อมต่อผู้ควรอ่อนน้อม ความช่วยเหลือทำประโยชน์แก่ผู้อื่น การอบรมขัดเกลากิเลส การฟังพระธรรม การแสดงพระธรรม และการทำความเห็นให้ตรงและถูกต้อง นี้เป็นบุญในพระพุทธศาสนาที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ไม่จำกัด และไม่ต้องมีรูปแบบหรือพิธีการใดๆ เป็นบุญที่สำเร็จได้เสมอและเกิดผลจริง
เข้าใจผิด
๑๖. ไม่สนับสนุนการบวชแล้วจะทำนุบำรุงพระศาสนาได้อย่างไร
เข้าใจถูก
๑๖. ไม่ใช่ไม่สนับสนุนการบวช แต่หากเป็นการบวชที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย โดยผู้บวชมีอัธยาศัยสละเพศคฤหัสถ์เพื่อขัดเกลากิเลสอย่างแท้จริงแล้ว เป็นเรื่องที่ควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้บวชเป็นภิกษุด้วยพระธรรมวินัย ย่อมนำมาซึ่งความดี ความผาสุก ความเลื่อมใส ศรัทธา และความตั้งมั่นในพระสัทธรรม แต่หากผู้บวชไม่มีอัธยาศัย ใช้ชีวิตเยี่ยงคฤหัสถ์ รับเงินรับทอง ยุ่งเกี่ยวเรื่องทางโลก ประจบเอาใจคฤหัสถ์ เป็นหมอยา หมอดู ทำไสยศาสตร์ บอกใบ้ให้หวย แสวงหาลาภยศ สรรเสริญ กระทำการย่ำยีพระธรรมวินัยเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการสนับสนุนให้ช่วยกันทำลายพระศาสนา
... ขอความเจริญมั่นคงในกุศลธรรมจงมีแด่ทุกท่าน ...
สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน
ได้อ่านอีกครั้งทำให้ได้เข้าใจขึ้นอีก ตามอานิสงส์จากการฟังจริงๆ ครับ
คนที่ไม่เข้าใจธรรม ไม่เห็นกิเลสของตัวเองและไม่ได้สะสมอุปนิสัยในการสละเพศคฤหัสถ์ แล้วบวช นั้น ไม่ใช่ผู้ที่จริงใจและไม่ใช่ผู้ตรง เพราะถามว่าบวชทำไม ถ้าตอบว่าเพราะเหตุนั้นๆ แต่ไม่ใช่เพราะได้เข้าใจพระธรรมและรู้อัธยาศัยของตนเองว่าเพื่อศึกษาพระธรรมและขัดเกลากิเลสในเพศภิกษุตามพระธรรมวินัยแล้ว สมควรบวชไหม การบวชเป็นภิกษุไม่ใช่เป็นอยู่อย่างสบายให้ผู้คนกราบไหว้ แต่เพราะเป็นผู้ที่เห็นกิเลสและเห็นโทษของกิเลส และรู้ว่าหนทางเดียวที่จะขัดเกลากิเลสก็ด้วยความเข้าใจพระธรรมจึงบวชเพื่อศึกษาธรรมและขัดเกลากิเลสยิ่งกว่าคฤหัสถ์ ฉะนั้น การดำรงชีวิตของคฤหัสถ์และบรรพชิตจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อ่านเพิ่มเติม