เป็นพระแต่กลับเถียงพ่อแม่

 
srawut34
วันที่  14 ม.ค. 2560
หมายเลข  28527
อ่าน  1,147

กระผมเป็นพระบวชได้ไม่นาน ผมเคยได้ไปเถียงและสอนพ่อกับแม่แต่ไม่เชิงด่า ในเรื่องที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หลายเรื่อง เช่น เรื่องเงินที่ญาติโยมถวายให้ส่วนตัว คิดว่าเราควรใช้ในเรื่องที่จำเป็นและทำบุญเพราะเราเป็นพระไม่ควรยึดติดในทรัพสินเงินทอง แต่โยมพ่อท่านเห็นว่าควรเอามารักษาแม่บ้าง เพราะที่บ้านเราก็ไม่ค่อยมีสตางค์ คือ โยมแม่ป่วยอยู่ แต่กระผมเห็นว่ามันเป็นบาป เพราะมันไม่ใช่เงินของเรา ก็เลยเกิดการโต้เถียงขึ้น ควรแก้อย่างไรดีครับ กระผมกลัวบาปที่ทำกับพ่อแม่ ควรขอขมาท่านอย่างไร ในเมื่อเราเป็นพระ และเรื่องเงินควรทำอย่างไรดี ขอความอนุเคราะห์

เจริญพร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 14 ม.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับ และไม่ยินดีในเงินและทอง เพราะฉะนั้นการรับเงินของพระภิกษุ เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะควรโดยประการทั้งปวง เพราะพระภิกษุสละเงินทองก่อนแล้ว จึงบวช เมื่อบวชแล้วจึงกลับมารับเงินทองอีกไม่ได้ เงินทองไม่ใช่สิ่งที่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิต ภิกษุ รับ เงินทอง ก็ผิด ใช้จ่ายเงินทอง ก็ผิด การดูแลพ่อแม่ ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ เป็นคฤหัสถ์ สะดวก สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปรนนิบัติดูแลรักษาพยาบาลยามที่ท่านเจ็บไข้ได้ป่วย ทำอาหารให้รับประทาน ทำกิจช่วยเหลือในด้านต่างๆ เป็นต้น คฤหัสถ์ทำได้โดยตลอด แต่ถ้าเป็นพระภิกษุแล้ว ถูกจำกัดด้วยพระวินัย และถ้าเป็นพระภิกษุ ที่ต้องอาบัติหลายข้อ (แม้การดุด่าคฤหัสถ์ ก็เป็นอาบัติสำหรับพระภิกษุ ด้วย) แล้วไม่กระทำคืนให้ถูกต้องตามพระวินัย มีแต่โทษกับตนเองเท่านั้น หากมรณภาพลงในขณะที่ยังเป็นพระภิกษุอยู่ ชาติถัดไป คือ เกิดในอบายภูมิ เท่านั้น ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
jaturong
วันที่ 23 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 26 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 9 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ