เป็นกรรมหรือไม่
พี่ชายถามหาน้องว่าไปไหน เราตอบไปว่าไปไหนละยังไม่เหนเลย ทั้งที่เราเห็นเขาแล้วตอนเขากลับมาจากโรงเรียนแล้ว แต่ตอนพี่ชายถามน้องชายไม่อยู่บ้าน แบบนี้เรียกว่าเจตนาสร้างกรรมไหม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
มีเจตนาพูดไม่จริง ให้คนอื่นทราบก็เป็นกรรม ที่เป็นอกุศลกรรม แต่จะครบองค์กรรมบถก็ต้องดูว่าทำลายประโยชน์หรือไม่ด้วยครับ
เชิญอ่านคำบรรยายท่านอ.สุจินต์ได้ดังนี้ ครับ
ส. วาจาที่ไม่ดีก็ต้องเกิดจากจิตที่ไม่ดี ใช่ไหมคะ
ชุณห์ ใช่แน่นอนครับ
ส. เพราะฉะนั้น ควรจะรู้ว่า วาจาอะไรก็ตามที่เป็นวาจาไม่ดีนั้นมาจากจิตไม่ดี เพราะฉะนั้น วาจามีหลายอย่าง คำอ่อนหวานน่าฟังกับคำที่ไม่น่าฟัง ก็ต่างกันแล้ว มาจากไหน จิตอะไร ต้องเป็นละเอียดจริงๆ แต่อย่างนั้นทุกคนชอบ หรือบางคนอาจจะไม่ชอบ คือ วาจาจริง ชอบหรือเปล่าคะ หรืออยากฟังเรื่องไม่จริง อยากฟังเรื่องลวง เรื่องหลอก เรื่องเท็จ แม้แต่พูดก็ยังพูดเรื่องไม่จริง แล้วจะมีประโยชน์อะไร คำพูดนั้น
เพราะฉะนั้น ประการที่สำคัญที่สุดคือคำจริง แม้แต่การจะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ก็ต้องเป็นคำพูดจริง ตรงต่อความจริง เมื่อเป็นพระโสดาบันแล้ว จะไม่มีคำไม่จริง ซึ่งก่อนนั้นด้วยกำลังของกิเลสก็จะมีคำจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพราะเหตุว่ายังไม่ถึงระดับซึ่งเห็นโทษของการพูดคำไม่จริง ไม่เป็นผู้ตรง
ด้วยเหตุนี้จะเห็นว่า กิเลสมีมากมายหลายอย่าง ถ้าไม่พิจารณาจริงๆ จะเป็นคนเผิน และกระโดด และมองไม่เห็นความจริง แต่ว่าการที่เริ่มละเอียดขึ้นแม้แต่เพียงคำพูดที่พูดทุกวัน เราก็สามารถเริ่มรู้ได้ว่า คำพูดนั้นๆ มาจากจิตประเภทไหน แล้วก็เห็นประโยชน์ การพูดคำไม่จริงมีประโยชน์ หรือการพูดคำจริงมีประโยชน์ ก่อนอื่นเอาแค่จริงก่อน
ชุณห์ พูดคำจริงย่อมมีประโยชน์แน่นอน
ส. คำจริงมีประโยชน์ ถึงเวลาพูดคำจริงหรือยัง
ชุณห์ ถึงเวลาแล้ว
ส. ถ้าถึงเวลา แต่พูดแล้วไม่มีประโยชน์ จะพูดไหมคะ แม้เป็นคำจริง
ชุณห์ ไม่พูดแน่นอน
ส. เพราะฉะนั้น ที่สำคัญที่สุดคือต้องมีประโยชน์ด้วย แต่ต้องเป็นคำจริงด้วย และในขณะที่พูดก็มีเมตตาจิต คือ มีความเป็นเพื่อน หวังดี คำพูดนั้นๆ ทำให้ผู้ได้ฟังรู้สึกอย่างไร ถ้าคนพูด พูดด้วยความหวังดีจริงๆ พูดด้วยความเมตตา ความเป็นเพื่อน รู้สึกสบายใจ ใช่ไหมคะ ผู้นี้เป็นมิตรแน่นอน ไม่เป็นศัตรูเลย เพราะฉะนั้น แต่ละคำของเขาก็เต็มไปด้วยความหวังดีกับคนอื่น ซึ่งผู้ได้รับฟังคำพูดอย่างนั้นก็ต้องรู้สึก ไม่ได้ทำร้าย ไม่ได้ทำลาย ไม่ได้เป็นโทษใดๆ เลยทั้งสิ้น แต่ด้วยความหวังดี พูดคำจริงซึ่งเป็นประโยชน์ด้วย อีกอย่างหนึ่ง ก็คือพูดน่าฟัง แม้เป็นคำจริง ถ้าพูดไม่น่าฟัง บางคนก็ไม่อยากฟัง
ขอถามต่อว่าถ้าเราไม่ได้อยากตอบแบบนั้นแต่หลุดพูดไปละเหมือนกับว่าขาดสติ
ก็สำคัญที่เจตนาในขณะนั้นครับ ซึ่งตัวผู้พูดรู้เอง ไม่ใช่คนอื่น ถ้ามีเจตนากล่าวผิด ทั้งๆ ที่รู้ ก็มุสาวาท แต่ถ้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ก็ไม่เป็นมุสาวาท จิตของผู้นั้นรู้เอง ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตามความเป็นจริงแล้ว คำจริง หรือ ความจริง น่าจะพูดได้ง่ายกว่าคำเท็จ แต่บุคคลผู้สะสมมาอย่างนี้กลับไม่พูดความจริง มักพูดแต่คำเท็จ ให้ความไม่จริงแก่ผู้อื่น และขณะนั้นตนเองก็สะสมอกุศลต่อไป
การกล่าวเท็จ เป็นอกุศลธรรม เหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ ก็เพื่อให้เห็นตามความเป็นจริง เพื่อให้เห็นโทษของอกุศลดังกล่าว จึงเป็นเครื่องเตือนสำหรับทุกคนเพื่อจะได้ไม่ประมาทในชีวิตโดยประการทั้งปวง เพราะธรรมดาของปุถุชนมักไหลไปตามอำนาจของกิเลส เมื่อมีเหตุปัจจัย ย่อมกระทำอกุศลกรรมประการต่างๆ ได้จึงไม่ควรประมาทกำลังของกิเลส ดังนั้น พึงเป็นผู้เห็นโทษของอกุศลแม้จะเล็กน้อยก็ตาม เนื่องจากว่า ขึ้นชื่อว่าอกุศลแล้วไม่นำมาซึ่งประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ควรที่จะมีความละอาย มีความเกรงกลัวต่ออกุศล แม้แต่การพูดเท็จ ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นไปเพื่อทำลายประโยชน์ของผู้อื่น ก็ไม่ควรทำ และถ้าถึงขั้นที่ทำลายหรือหักรานประโยชน์ของผู้อื่นแล้ว ยิ่งไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์