ประชาสัมพันธ์.... ความเป็นไปของเพื่อนชมรมบ้านธัมมะ
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ปรารภว่า เพื่อนๆ ในชมรมบ้านธัมมะไม่ค่อยได้พบปะสังสรรค์กัน ส่วนใหญ่มาฟังธรรมที่ มศพ. ในวันเสาร์อาทิตย์แล้วกลับบ้าน ไปฟังต่อที่บ้าน หรือบางท่านไม่เคยมาที่ มศพ. เลย จึงเป็นการดีที่จะทราบความเป็นไปของเพื่อนๆ ด้วยกระทู้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ เช่น เปิดร้านอาหาร เปิดร้านขายเสื้อผ้า เพื่อนๆ ที่เป็นเยาวชนที่เรียนดีได้รับรางวัล สำเร็จการศึกษา เพื่อนที่เจ็บป่วย หรือสิ้นชีวิต ถ้าใครทราบข่าวก็บอกกล่าวให้เพื่อนๆ ทราบด้วย เพราะพระพุทธพจน์ตรัสไว้ว่า โลกมนุษย์เป็นที่ดูผลของบุญและบาป ทุกอย่างเป็นธรรม เมื่อเกิดมาแล้วก็มีชีวิตเป็นไป ทำให้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส สิ่งปรากฏ ทั้งน่าพอใจและไม่น่าพอใจ หลังจากนั้นก็คิดนึกไปตามการสะสม เป็นกุศล อกุศล เป็นเรื่องราวที่เป็นลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เกิดขึ้นแต่ละขณะที่แสนสั้นแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีกเลย จึงไม่มีเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
จึงขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกที่จะแจ้งความเป็นไปของแต่ละท่านด้วยตนเอง หรือแจ้งแทนเพื่อนๆ คนอื่นที่ได้ทราบมาด้วย ขอบพระคุณค่ะ
ชมรมบ้านธัมมะเวียดนาม โดย คุณ Tam Bach สมาชิกลำดับที่ 982 ได้เรียนเชิญท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ พร้อมด้วยวิทยากรประกอบด้วย คุณ Nina Van Gorkom คุณ Sarah Procter และคุณ Jonathan Abbot มาสนทนาธรรมที่ไซ่ง่อนและฮอยอาน เวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 60 – 15 ก.พ. 60 พร้อมกับเรียนเชิญท่านอาจารย์และเพื่อนสมาชิกชมรมบ้านธัมมะจากเมืองไทยร่วมพิธีเปิดรีสอร์ท An Villa (บ้านสงบ อาน แปลว่า สงบ) ที่ฮอยอาน
An Villa เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ริมแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำทูโบน ประกอบด้วยบ้านพัก 4 หลัง รับรองแขกได้ 16 คน โดยเพื่อนๆ 5 คน มี Mr. Tran Van Thai สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ 988 เป็นผู้ชายคนเดียวและหัวหน้าทีม พร้อมด้วยภรรยา Mrs. Nguyen Thanh Tam สมาชิกลำดับที่ 983 และเพื่อนธรรมะ Ms. Nguyen Thi Minh Hang สมาชิกลำดับที่ 985 Ms. Tran Thanh Mai สมาชิกลำดับที่ 986 และ Ms. Tran Thi Hai สมาชิกลำดับที่ 990 ลงทุนร่วมกันเพื่อเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มั่นคงและอิสระจากเจ้านาย สามารถมีเวลาศึกษาธรรมและเดินทางไปสนทนาธรรมตามที่ต่างๆ ได้อย่างที่ต้องการ
และได้ทำพิธีเปิดรีสอร์ทในวันที่ 9 ก.พ. 60 โดยเชิญท่านอาจารย์กล่าวเปิด ท่านอาจารย์พูดสั้นๆ แต่เป็นความจริงอย่างที่สุดที่พวกเราได้ฟังมาแล้วหลายร้อย หลายพันครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจ แม้จะพยายามเข้าใจก็ยิ่งไม่เข้าใจ ท่านกล่าวว่า “ธรรมะทั้งหลายเป็นอนัตตา” ซึ่งเข้าใจเอาเองว่า ท่านอาจารย์ต้องการเตือนให้ไม่ลืมว่า ธุรกิจที่ทำนี้จะเจริญรุ่งเรืองหรือไม่นั้นบังคับบัญชาไม่ได้ เป็นผลของกรรมที่ทำไว้แล้วและกรรมที่จะทำในปัจจุบันด้วย
แต่ด้วยความปรารถนาดีของทุกคนก็ขอให้ธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดี เพื่อนสมาชิกชมรมบ้านธัมมะท่านใดต้องการมาพักผ่อนที่ฮอยอาน เวียดนาม และต้องการความเป็นธรรมชาติ อบอุ่น เป็นกันเอง อาหารอร่อย บ้านพักสะอาดและสะดวกสบาย สามารถหาละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.an-villa.com/ หรือที่ facebook : An Villa
กราบท่านอาจารย์ที่เคารพยิ่ง อนุโมทนาในกุศลของทุกท่าน ชื่นชม ประทับใจค่ะ
คุณศุภวัส สติชอบ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ 3141 เคยฟังธรรมที่บรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ครั้งแรกเมื่อ 24 ปีก่อน ขณะเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ท่านพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นผู้การกรมนักเรียน ท่านได้นำเทปคำบรรยายไปเปิดให้นักเรียนเตรียมทหารฟังก่อนนอน เพื่อปลูกฝังให้เข้าใจพระธรรมคำสอนอันประเสริฐของพระพุทธเจ้าตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะเข้าใจดีว่า ไม่มีอะไรมีค่าในชีวิตเท่ากับการได้เข้าใจความจริงแท้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และทรงพระมหากรุณาทรงแสดงไว้ เมื่อฟังครั้งแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่จำเสียงได้ เมื่อแต่งงานกับคุณเต็มสิริ ที่สนใจธรรมเหมือนกัน จึงได้เริ่มฟังอีกครั้งและเริ่มเข้าใจขึ้น ตอนนี้ฟังกันทั้งครอบครัว เมื่อปัญญาทำกิจของความเข้าใจก็อาสาทำงานช่วยเผยแพร่พระธรรมให้กว้างขวางออกไป โดยใช้เวลาว่างจากงานประจำที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและช่วยเลี้ยงดูลูกสาววัยซน 2 คน ช่วยถอดเทปคำบรรยาย “ธรรมเตือนใจ” เพื่อรวบรวมทำเป็น e book และขณะนี้กำลังถอดเทป “พระธรรมวินัยกับกฎหมาย” เพื่อพิมพ์เป็นหนังสือ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ และขอให้เจริญด้วยกุศลทุกประการ โดยเฉพาะเจริญด้วยปัญญาค่ะ
คุณป้อมมณี มณีไพโรจน์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ 156 เจริญกุศลโดยนำสินค้าที่ซื้อมาจากที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งที่เวียดนามด้วย และสินค้าที่ออกแบบเองอีกหลายรายการ มาขายในงานคณะทูตเพื่อกาชาดเพื่อนำเงินเข้ากาชาดไทยในวันที่ 25 – 26 ก.พ. 2560 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ บูธหมายเลข E01 – E04 Royal Paragon Hall ชั้น 5 สยามพารากอน เพื่อนสมาชิกท่านใดมีของที่ยังไม่ใช้จะมาร่วมบริจาคเพื่อจำหน่ายให้กาชาด ติดต่อคุณป้อมมณีได้โดยตรงค่ะ
เรียน ป้าแดงที่เคารพ และสมาชิกทุกท่าน
การได้ฟังพระธรรมจากพระพุทธองค์ เป็นกุศลและเป็นประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริงครับ ขอกราบอนุโมทนาท่าน อ.สุจินต์ และ ทีมงานชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ทุกท่าน ที่ได้ทำสื่อต่างๆ ออกมาเพื่อเผยแพร่พระธรรมดังกล่าว ดังนั้นการได้มีโอกาสช่วยเหลือชมรมฯ ผมจึงมีความยินดียิ่งครับ
นอกจากนี้ต้องขอขอบพระคุณป้าแดงและลุงหงบด้วยครับ ที่ได้ให้หนังสือ "ปรมัตถธรรมสังเขป" มาให้อ่านครั้งแรก (ประมาณ 8 ปีมาแล้วที่บ้านซอยแอนเน็กซ์) ทำให้ได้เริ่มมาศึกษาและฟังพระธรรม ซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดในชีวิตจริงๆ ครับ
กราบอนุโมทนาครับ
ศุภวัส เต็มสิริ สติชอบ
คุณ วรพัชร ปกรณ์ธนภัทร (น้องวอย) สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ.ลำดับที่ 134
(ทีมงานอาสาสมัครบันทึกวีดีโอการสนสนทนาธรรม ประจำ มศพ.)
สอบเข้าได้เป็นนักศีกษาใหม่ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล
ขอแสดงความยินดี มา ณ ที่นี้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
นายลภัส เปรมเจริญ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๒๐๘๑ (บุตรชายคุณอุดร เปรมเจริญ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๖๙ อาสาสมัครทีมงานบันทึกภาพวีดีโอการสนทนาธรรม) ได้รับการคัดเลือกเป็นเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ด้านวิชาการ เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๐
จึงขอแสดงความยินดี มา ณ ที่นี่ด้วย
...ขอความเจริญมั่นคงในกุศลธรรมจงมีแด่ทุกท่าน...
คุณบุษกร ทรงศักดิ์ศรี สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ 60 เปิดร้านขายเสื้อผ้าสตรีชื่อร้านเสื้อบุษกร (สาขา 2) ถ.นรสิงห์ วงเวียนน้ำพุ ใกล้แลนด์มาร์ค มีเสื้อผ้าสตรีตามสมัยนิยมให้เลือกมากมาย สมาชิกท่านใดสนใจ ติดต่อได้ที่ คุณบุษกร โทร. 081-560-4217
คุณกัณหา อุรัสยะนันท์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ ลำดับที่ 270 ใช้ความรู้ความสามารถจากการทำงานประจำที่บางกอกโพสต์ แผนกทำหนังสือ มาช่วยมูลนิธิออกแบบหนังสือธรรมเกือบทั้งหมดมานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ
คุณป๊อป พรชัย อภิศักดิ์ศิริ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ ลำดับที่ 471
เป็นผู้มีศรัทธาในการช่วยเผยแพร่ธรรม โดยนำความสามารถที่มีมากมายมาช่วยงานของมูลนิธิ อาทิ นำรายการบ้านธัมมะที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ทุกสัปดาห์มาเผยแพร่ผ่าน YouTube อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้สนใจสามารถศึกษาพระธรรมวินัยได้อย่างสะดวก ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ออกแบบปกแผ่น MP3 (ธรรมะเตือนใจ) เป็นอาสาสมัครบันทึกภาพและเสียงการสนทนาธรรมที่ มศพ. และนอกสถานที่อื่นๆ และนำคลิปธรรมเตือนใจไปลงในไฟล์ฟังธรรม หัวข้อ "ธรรมเตือนใจ" บน www.dhammahome.com และช่วยงานเว็บไซต์และระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งบริการจองตั๋วเครื่องบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอีกมากมายที่ยังนึกไม่ออก
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ
คุณวันชัย ภู่งาม สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 819 เป็นผู้มีความสามารถในการถ่ายภาพและเขียนเรื่อง และเมื่อได้ฟังธรรมจากการบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์เข้าใจแล้วก็รู้ว่า ขณะที่มีค่าที่สุดในชีวิต คือ ขณะที่เข้าใจพระธรรม จึงมีศรัทธาในการเผยแพร่พระธรรมให้กว้างขวางออกไป โดยอาสาทำหน้าที่ช่างภาพของ มศพ. บันทึกภาพและรายงานการสนทนาธรรมในสถานที่ต่างๆ ทั้งในและนอก มศพ. ลงในกระทู้กระดานสนทนาในหัวข้อ "ณ กาลครั้งหนึ่ง" ซึ่งเต็มแน่นด้วยภาพสวยงามและสาระธรรมที่คุณวันชัยถอดเทปการสนทนาธรรมโดยท่านอาจารย์และคณะวิทยากร พร้อมทั้งยังช่วยใส่ภาพประกอบกระทู้ของสมาชิกท่านอื่นๆ อีกด้วย เวลาของท่านจึงหมดไปกับงานอาสาสมัคร ซึ่งครอบครัวก็มีศรัทธาช่วยสนับสนุน โดยภรรยา คุณสุภาพร สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1536 และลูกสาว 3 คน มีน้องแตมป์ น้องตางค์ และน้องตอง ธนพร สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1537 ช่วยดูแลกิจการขายวัสดุก่อสร้าง ชื่อร้าน “วนพรภัณฑ์” ที่ถนนสายไหม ซอย 11 ให้คุณพ่อใช้เวลาทำงานธรรมเต็มที่
ขออนุโมทนาค่ะ
คุณเดือนฉาย ค่ำอำนวย สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1492 เป็นอาสาสมัครของ มศพ. ทำหน้าที่หัวหน้าทัวร์ อำนวยความสะดวกในการจัดสนทนาธรรมตามสถานที่ต่างๆ ร่วมกับเจ้าภาพ ตั้งแต่เรียนขอเวลาที่ท่านอาจารย์ว่าง หาสถานที่ที่เหมาะสม เช่ารถ จองตั๋วรถทัวร์ รถไฟ เครื่องบิน จองโรงแรม รวบรวมรายชื่อ เก็บเงิน (คืนเงิน เมื่อมีคนเปลี่ยนใจ) โดยมีคุณวรจินต์ เอมแย้ม สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 75 ทำหน้าที่เลขาผู้รู้ใจ ในวันเสาร์อาทิตย์จึงได้เห็นท่านทั้งสองนั่งใต้ต้นหูกวาง ด้านห้องน้ำหญิง ก้มหน้าทำงานกับสมุดจดรายชื่อสมาชิก เพิ่มเติมบ้าง ขีดฆ่าออกบ้าง ทุกสัปดาห์ ทำให้การเดินทางไปสนทนาธรรม ไม่ว่าจะใกล้จะไกล สะดวกสบายทุกครั้ง ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของท่านพี่ทั้งสอง ทั้งพี่เดือนและพี่ตุ้มค่ะ
ขอแสดงความยินดีกับ คุณย่าสงวน สุจริตกุล กรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. อันดับที่ ๓ ที่ได้รับรางวัล "Tennis Hall of Fame" จาก สยามกีฬา
บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสื่อกีฬาชั้นนำของเมืองไทย ได้จัดงานประกาศผลและมอบรางวัล "สยามกีฬา อวอร์ดส์ ครั้งที่ ๑๑" เพื่อเชิดชูเกียรติยศนักกีฬาและบุคคลในวงการกีฬา ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของคนในวงการกีฬาไทย งานนี้จัดขึ้นที่ โรงละครอักษรา คิงพาวเวอร์ ชั้น ๓ คิงพาวเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันจันทร์ที่ ๖ มีนาคม ที่ผ่านมา มีคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีและร่วมมอบรางวัลในครั้งนี้ พร้อมด้วย พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
ขอโอกาสแสดงความนอบน้อมกราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง ท่านเป็นผู้มีอุปการคุณให้กระผมได้เกิดความศรัทธาเลื่อมใสพระรัตนตรัยเพราะได้รับฟังการสนทนาธรรมอย่างต่อเนื่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา กระผมมีความซาบซึ้งในรสพระธรรมเมื่อได้เกิดความเข้าใจในขั้นการฟังพระธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้แสดงอย่างถูกต้องประกอบด้วยเหตุผลอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยไม่เคยได้ยินได้ฟังเช่นนี้มาก่อนเลย จึงมีเจตนาตั้งมั่นที่จะฟังพระธรรมจนตลอดชีวิต เพื่อเป็นปัจจัยให้สังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติเจตสิกเกิดระลึกรู้ธรรมที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และสภาพคิดทางใจที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ได้อย่างถูกต้อง โดยตั้งใจศึกษาพระธรรมเพื่ออบรมปัญญา ขัดเกลากิเลสทุกประการไปทีละน้อยต่อไปไม่มีกำหนดเวลา สุดท้ายนี้ขออนุญาตเรียนข้อมูลตนเองตามจริงโดยสังเขปดังนี้ กระผมชื่อชนันต์ แดงประไพ ใช้ชื่อสมาชิก ปลากริม ไข่เต่า อายุ 68 ปี อาศัยอยู่ที่ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี มีความเห็นผิดตลอดมาแม้ได้ผ่านการบวชเรียนศึกษาปฎิบัติธรรมมาบ้างแล้ว จวบจนได้เริ่มต้นฟังพระธรรมที่ถูกต้องดังกล่าวข้างต้น จีงได้เริ่มต้นรู้ความจริงบางประการ เป็นเหตุให้เลื่อมใสศรัทธาพระรัตนตรัยอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก
ทพญ.พิมล เมธนาวิน ค่ะ ฟังธรรมบรรยายท่านอ.สุจินต์ ตามสื่อสถานีวิทยุธรรมะมาหลายปีค่ะ ทำให้มีความเข้าใจธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ และนำมาใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดการพัฒนาทีละน้อย จนกว่าถึงวันที่สมควรแก่เหตุปัจจัยที่ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา...ไม่ใช่เรา ค่ะ ขออนุโมทนากุศลในกุศลจิตของทุกท่าน และกราบขอบพระคุณในเมตตาจิตของท่านอาจารย์และทีมงานทุกท่านค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ยิ่งที่ให้ความรู้ในพระธรรม เหมือนเปิดของที่ปิด บอกทางให้กับคนหลงทาง และ จุดประทีปในที่มืดเพื่อคนมีจักษุจะได้เห็นแสงสว่าง ถ้าไม่ได้ท่านอาจารย์นำคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้องมาเผยแพร่ ผมคงประพฤติปฎิบัติผิดเป็นอย่างแน่นอน ได้คบท่านอาจารย์เป็นกัลยาณมิตรทำให้เข้าใจพระธรรมตามการสะสม
ขอนอบน้อมในคุณของท่านอาจารย์ครับ
วันนี้ที่ 18 มี.ค. 2560 มีคณะสหายธรรมจาก อ.บางบาล จ. พระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 ท่าน มาพบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพื่อขออนุญาตนำคำบรรยาย "สนทนาพระวินัย" เผยแพร่ให้ผู้สนใจได้ทราบถึงพระวินัยของพระภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เพื่อให้พุทธบริษัททั้งพระภิกุษุ อุบาสก อุบาสิกาที่ได้ฟังเข้าใจแล้ว จะได้ประพฤติเอื้อเฟื้อต่อพระวินัย ซึ่งจะเผยแพร่ในรูปของ Flash Drive พร้อมทั้งบริจาคเครื่องเล่น MP3 ให้ผู้สนใจด้วย
ได้สนทนากับคณะสหายธรรมที่มาในวันนี้ โดยมี แม่ชีสันฤทัย ไกรจำเนียร สมาชิกบ้านธัมมะ มศพ.ลำดับที่ 1361 จากวัดน้ำเต้า อ.บางบาล เป็นหัวหน้าคณะ ท่านเล่าให้ฟังว่า พระธุดงค์แนะนำให้ฟังคำบรรยายของทานอาจารย์ และท่านก็เริ่มฟังตั้งแต่ ปี 2530 เป็นต้นมา ท่านมีความรู้ประถม 4 แต่ก็สรุปคำบรรยาย "แนวทางวิปัสสนา" ทุุกตอน ด้วยลายมือสวยงาม และนำมาให้ท่านอาจารย์ดูด้วย เมื่อเห็นความตั้งใจจริงในการศึกษาธรรมของท่าน มูลนิธิ ฯ จึงได้มอบเอกสาร e book แนวทางเจริญวิปัสสนา ที่พิสูจน์อักษรในครั้งที่ 1 เรียบร้อยแล้วให้ท่านนำไปศึกษาอย่างละเอียดต่อไป
ท่านมาพร้อมกับสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. อีก 4 ท่าน คือ คุณทองสุข เพ็งพันธ์ ลำดับที่ 1358
ร.ต. จรินทร์ การสมวรรณ คุณลำไย เทียนแก้ว และคุณมังกร คงคาติตร สมาชิกลำดับที่ 1359
ขออนุโมทนา
405 หมู่ 14 ท้ายทุ่ง อ.ทับคร้อ จ.พิจิตร
3 เม.ย. 2560
กราบเรียนท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพ
ดิฉันได้ติดตามฟังรายการของท่านอาจารย์มาร่วม 30 ปีแล้ว พระธรรมของพระผู้มีพระภาคทนต่อการพิสูจน์จริงๆ ดิฉันฟังมา 20 กว่าปีแล้วไม่ได้อะไรเลย แม้แต่ขันธ์ 5 ก็ไม่รู้ ฟังเฉยๆ ไม่ได้ไตร่ตรองอะไร เสียเวลามากว่า 20 ปี ถ้าไม่ถึงเวลาไม่รู้แน่ แต่เดี๋ยวนี้ดิฉันรู้บ้างแล้วว่า พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริง คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สี เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหวนี้เอง ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วดับไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ตื่นขึ้นมาพอลืมตาก็เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัสทางกาย เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว คิดนึก สุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ เกิดดับสลับกันอยู่ตลอดเวลา ดิฉันดีใจที่ได้พบกับรายการของท่านอาจารย์ พอดิฉันได้ฟังครั้งแรกดิฉันก็ติดตามฟังมาตลอด ทั้งอ่านหนังสือ ทั้งฟังประกอบด้วย ดิฉันขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และท่านอาจารย์ว่าเป็นที่พึ่ง ถ้าดิฉันไม่พบรายการของท่านอาจารย์ ดิฉันก็คงไม่มีวันนี้ ดิฉันอยากจะไปกราบเท้าท่านอาจารย์ คงไม่มีความหวังแน่ ฉะนั้น ดิฉันขอฝากกราบนมัสการท่านอาจารย์มา ณ ทีนี้ด้วย
ด้วยความเคารพยิ่ง
ประทุม ลีสี
ท่านอาจารย์คะ ดิฉันได้ส่งเงินมาซื้อแผ่นพื้นฐานพระอภิธรรมแผนที่ 2 ถึง 6 ปกิณณกธรรม แผ่นที่ 2 ถึง 6 ดิฉันส่งเงินมา 1600 บาท และขอหนังสือเป็นครั้งที่ 2 และขอหนังสือบารมี 10อีก 1 เล่ม
จดหมายจากทานผู้ฟังที่อยู่ห่างไกล ทำให้เห็นผลของการสะสมความเข้าใจ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหน ก็มีโอกาสได้ฟังและเข้าใจพระธรรม เมื่อเหตุสมควรแก่ผล ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ ถ้าใครอยู่ใกล้ๆ คุณประทุม แวะไปเยี่ยมเยือนบ้าง พวกเราทางกรุงเทพ ฯ ถ้ามีโอกาสจะพาท่านอาจารย์ไปเยี่ยมคุณประทุมค่ะ
เมื่อวางแผนกันกับพี่เดือนฉายว่า จะพาท่านอาจารย์ไปเยี่ยมคุณประทุมที่พิจิตร พี่เดือนฉายผู้กว้างขวางก็สืบเสาะจนทราบว่า คุณอ๋อ วรรณวีร์ วัชรบุญนิรันดร์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1186 มีสามีอยู่ที่พิจิตร จึงส่งที่อยู่ของคุณประทุมตามจดหมายที่เขียนมาให้สามีคุณอ๋อไปหา เมื่อแจ้งให้ทราบว่า ท่านอาจารย์จะไปเยี่ยมที่พิจิตร คุณประทุมก็บอกว่า ถ้าท่านอาจารย์ไปพิษณุโลกเธอคงไปกราบท่านได้ พี่เดือนฉายก็เตรียมการหาช่วงเวลาที่ท่านอาจารย์ว่าง แต่อีกไม่กี่วัน คุณประทุมก็แจ้งมาว่า เธอจะลงมากรุงเทพเอง เพื่อไม่รบกวนท่านอาจารย์ และในวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2560 เธอก็มากรุงเทพคนเดียว โดยพักที่บ้านของคุณหมอวิภากร พงษ์วรานนท์ และคุณอ๋อ
เมื่อได้กราบท่านอาจารย์แล้ว คุณประทุมก็ออกไปเล่าชีวิตที่ได้มาฟังพระธรรมจาก มศพ. ให้พวกเราฟัง ท่านที่อยู่ในห้องประชุมในวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2560 หรือฟังการถ่ายทอดสด คงทราบแล้วว่า คุณประทุมมีศรัทธาในการศึกษาพระธรรมอย่างยิ่ง ตั้งแต่ไปเรียนพระภิกษุที่วัดว่า อยากจะศึกษาพระธรรม ท่านก็ให้อ่านหนังสือวิสุทธิมรรค เธอก็พากเพียรอ่านในตอนกลางคืนท่ามกลางแสงตะเกียง เพราะตอนนั้นที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้า จนจำชื่อหัวข้อธรรมได้มากมายแต่ไม่เข้าใจ ต่อมาได้ไปเยี่ยมแม่ที่เพชรบูรณ์ ได้ยินแม่ฟังธรรมจากวิทยุ สอบถามทราบว่า เป็นเสียงของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จึงติดตามฟังเรื่อยมา จนวิทยุเสีย ต้องทำงานรับจ้างดำนาถึง 3 ไร่ จึงสามารถซื้อวิทยุราคา 140 บาทได้ 1 เครื่อง (ประมาณปี 2523) เมื่อมีวิทยุคุณประทุมก็ฟังไม่เคยขาด เมื่อวิทยุเสียก็ต้องคอยเก็บเงินซื้อใหม่ ภายหลังมีเครื่องเล่น MP3 ก็ต้องคอยนาน ทำงานทั้งปีเพื่อเก็บเงินซื้อแผ่นและเครื่องเล่น เงินที่คุณประทุมลงแรงกายทำงานมีไว้เพื่อซื้อวิทยุมาฟังพระธรรมเท่านั้น เธอมีศรัทธาว่า ความเข้าใจพระธรรมเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง แม้จะเป็นคนยากจน ทำงานหนักและมีหนี้สินจนคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อฟังธรรมเข้าใจแล้วก็รู้ว่า สิ่งที่มีจริงทุกขณะที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนั้นเป็นธรรม เกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วดับไปไม่กลับมาอีกเลย จึงไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา หนี้สินที่มีก็เฉพาะเวลาคิดถึงเท่านั้น ทำให้มีความสุขขึ้น เพราะรู้ว่า ที่ทุกข์เพราะคิดด้วยความเป็นเรา แล้วความคิดเรื่องนั้นก็ดับไป คิดเรื่องใหม่เมื่อตาเห็น หูได้ยิน ...สิ่งที่ปรากฏให้เห็น ให้ได้ยิน เป็นอย่างนี้ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะประจักษ์ว่า ทุกอย่างที่กำลังเกิดปรากฏขณะนี้เป็นธรรม ไม่ใช่เรา
ต่อมาคุณประทุมไม่ได้ฟังธรรมเลย เพราะไม่สามารถหาซื้อเครื่องเล่นได้ วันหนึ่งฝันว่า ได้ยินเสียงท่านอาจารย์ คิดว่าท่านคงเสียชีวิตแล้ว อีก 2 วันต่อมา ได้ยินเสียงท่านอาจารย์จากรายการบ้านธัมมะช่อง 11 ตอนตี 4 ดีใจมากที่ได้ยินเสียง และได้ติดต่อมาทาง มศพ. เพื่อขอซื้อแผ่น MP3 และขอหนังสือ จนได้เขียนจดหมายมาหาท่านอาจารย์ และได้มากราบที่ มศพ. ในครั้งนี้
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณประทุม และสหายธรรมที่มีธรรมปฏิสันถารและอามิสปฏิสันถารกับคุณประทุมทุกท่าน โดยเฉพาะคุณหมอวิภากรและคุณอ๋อที่ให้ที่พักและดูแลทุกอย่าง นี่คือการปฏิบัติธรรม รู้ว่า สิ่งใดเป็นกุศลควรเจริญ ขออนุโมทนาอีกครั้งค่ะ
กราบเท้าท่านอาจารย์ที่อุทิศชีวิตเพื่อเผยแพร่พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วอย่างต่อเนื่อง ไม่ท้อถอย แม้จะพบอุปสรรคมากมาย เพราะท่านทราบดีว่า ผู้ที่สะสมบุญไว้แล้วสามารถเข้าใจธรรมที่ลึกซึ้งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร มีอาชีพอะไร อยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม
อนึ่ง ท่านที่สนใจการสนทนาของคุณประทุม ลีสี แบบเต็มๆ สามารถคลิกชมและฟังได้จากบันทึกการถ่ายทอดสดในวันนั้น ได้ที่นี่... (ประมาณนาทีที่ 1.33.37)
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์
และในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
นาตยา สิริชูติวงศ์
อาจารย์ฉัตรชัย กิติพรชัย สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 68 เริ่มศึกษาธรรมด้วยการฟังธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เมื่อต้นปี 2546 และได้รับประโยชน์มากจึงมีศรัทธาบริจาคบ้านพักส่วนตัวที่ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ให้ มศพ. เพื่อใช้เป็นสถานที่ศึกษาและเผยแพร่พระธรรม ในชื่อ "บ้านธัมมะ เชียงใหม่" (ในปี 2554 มูลนิธิฯ ขายบ้านที่ได้รับบริจาคและนำเงินไปใช้ในกิจการเผยแพร่พระธรรมของมูลนิธิฯ)
การที่ได้รับประโยชน์จากการศึกษาพระธรรมเข้าใจ อยากให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์เช่นกัน จึงขออนุญาตท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ทำเว็บไซต์ของมูลนิธิเพื่อเผยแพร่ธรรมไปทั่วโลก .ในชื่อ www.dhammahome.com โดยมีคุณอรวรรณ เชิญรุ่งโรจน์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 400 คุณแก้วตา อเนกพุฒิ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 48 สนับสนุนเงินทุนในระยะแรก ให้คุณเคโสภณ สิงห์แก้ว สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 755 เป็นเจ้าหน้าที่เทคนิค และอาจารย์ฉัตรชัยเป็น webmaster จนเว็บไซต์เล็กๆ เป็นรูปเป็นร่าง ต่อมามูลนิธิสนับสนุนเงินทั้งหมดจนมี server เป็นของตนเอง และมีอาสาสมัครเป็นทีมงานจำนวนมาก ทำหน้าที่จัดทำข้อมูล ตรวจสอบความถูกต้อง และตอบปัญหาธรรมต่างๆ ปัจจุบันมีผู้เข้าชมเป็นลำดับที่ 4 ของเว็บไซต์ศาสนาในประเทศไทย
ต่อมาเมื่อมีข้อมูลการบรรยายธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากรทั้งในรูปไฟล์เสียงและไฟล์เอกสารมากขึ้น อาจารย์ฉัตรชัยจึงริเริ่มรวบรวมคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ที่คุณย่าสงวน สุจริตกุล สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 3 ถอดเทปไว้ และคุณน้าประมัย โชติวรรณ (ล่วงลับแล้ว) พลอากาศตรีหญิง กาญจนา เชื้อทอง สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 275 นพ. อาคม ภิรมย์พานิช สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1591 คุณพรรณิภา วิมุกตานนท์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1116 คุณศุภวัส สติชอบ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 3141 ฯลฯ พิมพ์เก็บไว้ในกระดานข้อมูลของเว็บไซต์ มาเป็น E-book ทั้งหมดซึ่งเป็นงานใหญ่มาก ต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกชมรมบ้านธัมมะจำนวนมาก และได้รับความร่วมมือจากสมาชิกชมรมบ้านธัมมะนับร้อยท่าน ตั้งแต่ผู้รวบรวมข้อมูลจัดทำเป็น E-book มี นศพ.ชยพล เทียมวรรณ นักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 3269 เป็นผู้รวบรวมไฟล์เอกสารที่พิมพ์แล้วมาจัดเป็นรูปแบบ E-book แนวทางเจริญวิปัสสนาทั้ง 2181 ครั้ง รวมได้ 208 เล่ม มีคุณอรวรรณ คุณพนอทิพย์ ตู้จินดา สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 440 คุณสุกัญญา เพื่อนชอบ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 999 เป็นนายทะเบียน แจกจ่ายงาน มีผู้พิสูจน์อักษรครั้งที่ 1 นับร้อยท่าน อาทิ คุณแก้วตา อเนกพุฒิ คุณป้อมมณี มณีไพโรจน์ คุณอรวรรณ คุณเมตตา ชัยศรีโสภณกิจ ทพญ. วิภากร พงษ์วรานนท์ เป็นต้น และผู้ edit ในครั้งที่ 2 อีกนับสิบท่าน และที่ยังคง edit จนถึงปัจจุบัน คือคุณศิรยา พุทธิวณิชย์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1058 คุณพรทิพย์ ถูกจิตร สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1434 คุณพันสิริ พนิดา ศิริวัจนางกูร สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 391 คุณพรชัย เสรีเจริญศักดิ์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 55 คุณบุญยวีร์ รัชนี สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1234 และพลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง แก้ไขเป็นภาษาเขียน และอาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรมสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 2 และท่านจักรกฤษณ์ เจนเจษฎา สมาชิกชมรมบ้านธัมมะลำดับที่ 72 พิสูจน์อักษรครั้งสุดท้าย และก่อนขึ้นเว็บ คุณอี๊ด ศิรยา ตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนส่งให้คุณเค โสภณ สิงห์แก้วทำเป็น E-book
e-book ของมูลนิธิในเว็บไซต์ ยังแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ดังต่อไปนี้
- แนวทางเจริญวิปัสสนา รวบรวมคำบรรยายของท่านอาจารย์ที่บรรยายไว้ที่หอประชุมตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศ และตัดต่อออกอากาศทางสถานีวิทยุ 2081 ครั้งมาเป็นหนังสือ 208 เล่ม เล่มละ 10 ตอน ขณะนี้ได้ขึ้นเป็น E-book ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของอาสาสมัครจำนวนมากแล้ว 7 เล่ม คาดว่าจะขึ้นได้ทั้งหมดภายใน 3 ปีข้างหน้า
- มรดกธรรม ตัดต่อจากคำบรรยายแนวทางเจริญวิปัสสนา และการบรรยายตามสถานที่ต่างๆ ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา 60 ปี ได้แก่ ชุดเข้าใจเรื่องกรรม (3 เล่ม) วินัยคฤหัสถ์ ธรรม ๒ นาที (3 เล่ม) เริ่มต้นที่ความเข้าใจ (3 เล่ม) จิตปรมัตถ์ (5 เล่ม) ปัจจัย ๒๔ (4 เล่ม) ธรรมเตือนใจ ที่อาจารย์อรรณพ หอมจันทร์ ตัดต่อไฟล์เสียงจากตอนที่ประทับใจ และคุณศุภวัส สติชอบ ถอดเทปและพิมพ์ (ขณะนี้มี 2 เล่ม) จริยธรรมในการดำรงชีวิต เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา พ.ศ. ๒๕๒๐ และกำลังดำเนินการอีกมากมาย
- เส้นทางสายธรรม เป็นการเล่าเรื่องการติดตามท่านอาจารย์ไปเผยแพร่พระธรรมตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ประเทศเวียดนาม (9 ครั้ง) โปแลนด์ เยอรมัน อินเดีย ศรีลังกา พม่า เขียนโดย พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง หรือในนามปากกา "สาวิกา ศาสตรพงศ์" และกำลังอยู่ขั้นตอนการดำเนินงานอีกหลายเรื่อง เช่น ปกิณณกธรรม ตัดต่อไฟล์เสียง โดยคุณเสาวนีย์ นามวิชัย ถอดเทปและพิมพ์ทั้งหมดแล้ว โดย นพ. อาคม ภิรมย์พานิช รวบรวมเป็นเล่ม โดย ดร. วรวัฒน์ พรหมเด่น สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 475 พื้นฐานอภิธรรม ตัดต่อไฟล์เสียง โดย ทพญ. วิภากร พงษ์วรานนท์ โดยมี คุณณัฏนิชา มหาพล สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 1592 และท่านจริยา เจียมวิจิตร สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 2186 ถอดเทปและพิมพ์เป็นไฟล์เอกสาร เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครช่วยงานเว็บไซต์ได้ที่ มศพ. มีงานจำนวนมากที่ต้องการผู้มีศรัทธาในการเผยแพร่พระธรรม มีความรู้ความสามารถในการพิมพ์ พิสูจน์อักษร และอื่นๆ
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดทำ E-book ทั้งที่ได้กล่าวนามมาแล้ว
และที่ไม่ได้กล่าวนาม ถ้าจะกรุณาช่วยเพิ่มเติมด้วยค่ะ อยากให้ทุกท่านที่มีส่วนช่วยกันทำกุศลได้ให้ท่านอื่นได้อนุโมทนาด้วยค่ะ
อาจารย์อรรณพ หอมจันทร์ กรุณาเขียนแนะนำคุณปวีร์ คชภักดี (คุณโอ) สมาชิกบ้านธัมมะ มีความดังนี้ครับ
สมาชิกบ้านธัมมะส่วนใหญ่ คงคุ้นเคยและชื่นชอบในเสียงเพลงของบ้านธัมมะหลายต่อหลายเพลง เช่น เพราะไม่รู้ ความไม่รู้ อริยสาวิตรีบูชา และตื่นเถิดชาวพุทธ เป็นต้น เสียงขับร้องและดนตรีที่ไพเราะนี้ เกิดจากกุศลวิริยะของคุณโอ (คุณปวีร์ คชภักดี) สมาชิกบ้านธัมมะลำดับที่ 897 ชายหนุ่มจากปักษ์ใต้ ผู้ซึ่งมีศรัทธาและเห็นประโยชน์ในการศึกษาพระธรรม แม้มีจุดเริ่มต้นเพียงได้ยินเสียงบรรยายธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เปิด ณ วัดแห่งหนึ่ง ในเมืองพัทลุง
คุณโอเป็นศิลปินนักร้องนักดนตรีที่มีความสามารถมาก และศิลปะความสามารถที่เขาได้สะสมมานี้ ได้เป็นประโยชน์ในการเผยแพร่พระธรรมในอีกทางหนึ่งด้วย
เพลงของ มศพ. เพราะไม่รู้และเพราะรู้
คลิกฟัง //www.dhammahome.com/audio/topic/10218
--------------------
เพลงของ มศพ. [ตื่นเถิดชาวพุทธ]
//www.dhammahome.com/audio/topic/10697
--------------------
เพลงของ มศพ. [อริยสาวิตรีบูชา]
//www.dhammahome.com/audio/topic/10545
นอกจากนี้คุณโอ ยังได้สละเวลาเป็นอาสาสมัครช่วยงานบันทึกวีดีทัศน์รายการสนทนาธรรมทั้งที่ มศพ.และสถานที่อื่นๆ อีกด้วย ปัจจุบัน คุณโอ ก็ยังคงทำงานด้านการขับร้องและแสดงดนตรี และช่วยครอบครัวทำกิจการร้านอาหาร “ สำรับใต้ ” อยู่ที่พระราม 9 ซอย 45 แยก 15 (คลิกชม facebook ร้านสำรับใต้ ที่นี่ : สำรับใต้
รับรองความอร่อย เมนูแนะนำ เช่น แกงไก่หยวกกล้วย สะตอผัดกุ้งกะปิ ปลาทรายทอดขมิ้น แกงปูใบยี่หร่า ต้มใบชะมวงกระดูกอ่อน แกงพริกไก่บ้าน และอีกมากมาย ท่านใดมีโอกาสแวะไปอุดหนุนกันนะครับ
ผศ.อรรณพ หอมจันทร์
๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
คุณสายฝน อินทรนา สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ 3270 เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก ได้เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาที่ได้มาฟังธรรมของ มศพ. ในห้องประชุมของ มศพ. เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 60 ว่า
เธออยู่ในหมู่บ้านห่างไกลในจังหวัดพิษณุโลก ด้วยความอยากได้บุญจึงไปปฏิบัติธรรมที่วัดเล็กๆ ในหมู่บ้านเป็นประจำ พระที่วัดนั้นสอนให้นั่งสมาธิและเดินจงกรมจนจิตสงบ เธอก็พากเพียรเดิน บางครั้งตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืน จนเป็นลม จิตก็ไม่สงบ ต่อมาพระรูปนั้นถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากวัดเพราะทำผิดวินัย มีพระรูปใหม่มาอยู่กับแม่ชี พระรูปนี้สอนว่า ให้ปฏิบัติเป็นปกติ ไม่ต้องทำอะไร แต่ก็ไม่ได้สอนธรรมอะไร จนวันหนึ่งเมื่อ ๖ เดือนก่อน เธอได้ฟังธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์บรรยายทางสถานทีวิทยุุยานเกราะ ได้ยินข้อความที่ว่า "เห็นมีจริง เกิดแล้วดับ" รู้สึกเข้าใจและประทับใจมาก จึงติดตามฟังเป็นประจำ เข้าใจเพิ่มขึ้นๆ จนวันนี้ต้องมากราบเท้าท่านอาจารย์ที่มูลนิธิให้ได้ แม้สามีจะห้ามไม่ให้มา ยื่นคำขาดว่า ถ้ามาแล้วไม่ต้องกลับไป เธอก็ยังมาเล่าเรื่องราวของเธอให้พวกเราได้ร่วมอนุโมทนาในการสะสมความเข้าใจ ทำให้แม้ฟังเพียงประโยคสั้นๆ ก็สามารถเข้าใจได้
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณสายฝน ทำให้มั่นคงในการฟังธรรมมากขึ้นว่า ค่อยๆ สะสมความเข้าใจเพิ่มขึ้น ความเข้าใจไม่หายไปไหน เมื่อถึงเวลาความเข้าใจก็ทำกิจให้มีศรัทธาเจริญกุศลทุกประการเพิ่มขึ้น
ขอบคุณและอนุโมทนา
อาจารย์อรรณพ หอมจันทร์ กรุณาเขียนแนะนำ คุณเต้ พีรพัชร เกตุมณี
ขอแนะนำสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ.ท่านหนึ่ง คือ คุณพีรพัชร เกตุมณี (คุณเต้) สมาชิกลำดับที่ 1063
คุณเต้เป็นผู้ที่มีอัธยาศัยในการศึกษาพระธรรม และได้มีโอกาสอันดียิ่งที่ได้พบกับพระธรรมตั้งแต่เมื่อยังเด็ก โดยได้ยินได้ฟังพระธรรมทางวิทยุกระจายเสียงและเทปธรรมที่คุณปู่ได้เปิดฟัง และสืบต่อมาจนถึงสมัยคุณพ่อ (คุณวีระชัย เกตุมณี สมาชิกลำดับที่ 3278)
จึงทำให้คุณเต้ได้สะสมความเข้าใจถูกในพระธรรมเรื่อยมา และยังได้เกื้อกูลให้คุณแม่ (คุณอัญชลี เกตุมณี สมาชิกลำดับที่ 3279) ได้มีความสนใจและเห็นประโยชน์ของพระธรรมอีกด้วย ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดประการหนึ่งที่บุตรได้มีโอกาสกระทำตอบแทนต่อบุพการี
ดังนั้นครอบครัวเกตุมณี จึงเป็นครอบครัวหนึ่งที่สมควรแก่การอนุโมทนาอย่างยิ่งในกุศลที่เห็นประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม
คุณเต้ มีอุปนิสัยสุภาพเรียบร้อย ค่อนข้างจะเงียบขรึม มีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนธัมมะ เช่น อนุเคราะห์แผ่นธรรม ขับรถรับส่ง และช่วยกิจธุระของเพื่อนธัมมะ เป็นประจำสม่ำเสมอ
เนื่องจากคุณเต้ เป็นผู้ที่มีความสามารถทางดนตรี โดยเฉพาะการบรรเลงเปียโน ดังนั้น ด้วยศรัทธาในพระธรรมและความมีศิลปะทางดนตรี คุณเต้ จึงได้มีโอกาสช่วยเผยแพร่พระธรรมผ่านบทเพลงธัมมะ เช่น ประดิษฐ์ทำนองเพลงเพราะไม่รู้ ทำดนตรีบูชาพระรัตนตรัย และดนตรีประกอบการขับบทสรภัญญะ นอกจากนี้ ยังได้บรรเลงเปียโน ให้มศพ. เพื่อใช้ประโยชน์ในการใช้ประกอบการทำสื่อเผยแพร่พระธรรมของมศพ.อีกด้วย
ท่านสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. คงจะอนุโมทนากับครอบครัวเกตุมณี และการทำประโยชน์ในทางธัมมะ ตลอดจนกุศลทุกประการ ที่คุณเต้ได้กระทำ อันเกิดจากความเข้าใจธัมมะที่ได้ฟังได้ศึกษาดีแล้วด้วยนะครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะของ
-พลอากาศตรีหญิง กาญจนา เชื้อทอง
-อาจารย์อรรณพ หอมจันทร์
-และผู้ร่วมเจริญกุศลทุกๆ ท่าน ค่ะ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านที่ร่วมกันเผยแพร่คำสอนที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนาครับ รู้สึกยินดีมากที่มีโอกาสได้ร่วมศึกษาคำสอนที่ถูกต้องนี้กับทุกๆ ท่านครับ ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์ สุจินต์ และท่านวิทยากรทุกท่านครับ
ปัญญายังน้อยความเข้าใจก็น้อยมาก ความระลึกถึงพระคุณในพระผู้มีพระภาคก็เป็นอยู่น้อยตามกำลังความเข้าใจ...หนูเองฟังธรรมได้ยินได้ฟังครั้งแรกท่านอาจารย์บรรยายว่า "ไม่มีสัตว์ไม่มีบุคคลไม่มีตัวตน" ประโยคนี้มีคุณค่าต่อหนูมากเพราะเป็นข้อความที่ฟังแล้วสนใจที่จะเข้าใจว่า ถ้าไม่ใช่เช่นนั้น แล้ว อะไรล่ะ...นี้คือศรัทธาครั้งแรก ที่ทำให้ฟังอีก ที่มีโอกาส...เขียนมาทั้งหมด เพื่อความระลึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์...
ขอน้อมกราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์ด้วยใจด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
ภาวินีย์ ประดิษฐธรรม์
สมาชกชมรมบ้านธัมมะ (ลำดับที่จำไม่ได้ค่ะ) 😊
ขออนุโมทนาในกุศลของทุกท่านด้วยค่ะ
เริ่มด้วยธัมมะไม่ใช่เรา ก็เหมือนกันที่กุญแจไขเข้าไปสู่ความรู้ความเข้าใจว่าธัมมะไม่ใช่เรา เห็นเพื่อนไปถามเวลามีเรื่องทุกข์ใจ ท่านอาจารย์จะบอกว่าเป็นธัมมะ ความทุกข์ใจนั้นหายไปเหมือนปลิดทิ้ง ความเป็นเรา ทั้งที่ได้ยินได้ฟังว่าไม่ใช่เราแต่ก็ยังเป็นเรา เพราะยังไม่เข้าใจจนจรดเยื่อในกระดูกได้แต่พูดตามจำได้ อนุโมทนาท่านอาจารย์และวิทยากรทุกท่านและเพื่อนธัมมะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
กราบแทบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพยิ่ง
เป็นบุญที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา เป็นบุญที่ได้ฟังการบรรยายธรรมจากท่านอาจารย์ ท่านผู้เปิดเผย พระ "อภิธรรม" ของพระพุทธองค์ได้แจ่มแจ้งงดงามทั้งในเบื้องต้นท่ามกลางและที่สุดอย่างหาใครเปรียบได้
กราบอนุโมทนาในสรรพกุศลจิตของคณาจารย์วิทยากร และทีมงานของ มศพ ทุกท่านที่ดำเนินงานเผยแพร่พระธรรม
กราบบูชาคุณของท่าน อ.สุจินต์ และท่าน อ.วิทยากรทุกท่านค่ะ
เคยได้ยินคำว่า ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน มานาน เมื่อเกิดความทุกข์ใจ ทุกข์กาย ก็คิดว่า ไม่มีเรา ไม่ใช่เรา แต่ไม่สามารถจะทำให้ตัวเรานี้หมดไปได้เลย เมื่อมีโอกาสได้พบในเวปไซต์บ้านธรรมะคำว่าไม่มีเรา และฟังธรรมของท่าน อ. ได้ยินว่าร่างกายเราเกิดมาจากกรรม จากอุตุ จากจิต จากอาหาร ช่างมหัศจรรย์อะไรเช่นนี้จากนั้นเริ่มศึกษาโดยการฟังมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ ก.ค 62 คำของ อ. ที่ว่า เราเป็นชาวพุทธแต่ไม่รู้จักพระพุทธเจ้าเลย เป็นเช่นนั้นจริงๆ คำของพระองค์ ทุกคำตรัสไว้ดีแล้ว จะตั้งใจฟัง ศึกษา และพิจารณา ไตร่ตรองพระธรรมต่อไปค่ะ กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
กราบบูชาคุณของท่านอ.สุจินต์ และท่านอ.วิทยากรทุกท่านค่ะ
เคยได้ยินคำว่าไม่มีเราไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนมานาน เมื่อเกิดความทุกข์ใจ ทุกข์กายก็คิดว่าไม่มีเราไม่ใช่เราแต่ไม่สามารถจะทำให้ตัวเรานี้หมดไปได้เลย เมื่อมีโอกาสได้พบในเวปไซต์บ้านธรรมะคำว่าไม่มีเรา และฟังธรรมของท่าน อ.ได้ยินว่าร่างกายเราเกิดมาจากกรรม จากอุตตุ จากจิด จากอาหาร ช่างมหัศจรรย์อะไรเช่นนี้จากนั้นเริ่มศึกษาโดยการฟังมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ก.ค 62 คำของอ.ที่ว่าเราเป็นชาวพุทธแต่ไม่รู้จักพระพุทธเจ้าเลย เป็นเช่นนั้นจริงๆ คำของพระองค์ ทุกคำตรัสไว้ดีแล้ว จะตั้งใจฟังศีกษาและพิจารณาไตร่ตรองพระธรรมต่อไปค่ะ กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ