ผมรู้สึกไม่ดีเลยครับอยากได้คำตอบที่แน่ชัดครับ
ผมบวชพระบวชแบบตามประเพณี
แล้วมีโยมผู้หญิงมาร่วมงานซึ่งผมรู้จักโยมคนนี้มาก่อนแล้วรู้สึกชอบมานานก่อนที่จะบวช แต่ไม่เคยได้บอกตอนเป็นฆราวาส แต่พอบวชมีโอกาสได้คุยกับโยมคนนี้ แล้วได้บอกว่าชอบ ชอบมานานแล้วก่อนบวช ถ้าไม่ได้บอกมันก็ค้างคาใจเพราะกลัวไม่มีโอกาสได้บอก ไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหม แต่ในขณะตอนที่บวชก็คุยติดต่อกัน แต่ก็บอกเขาไปว่าสึกไปจะคบแบบจริงจัง แต่ก็คุยกันทุกวัน คุยถามสารทุกข์สุกดิบว่าขายของเป็นไงมั่ง เหนื่อยไหม แต่ไม่เคยพูดเรื่องเกี่ยวกับเมถุน ผมจะอาบัติสังฆาทิเสสไหมครับ ขอคำตอบด้วยครับ มันค้างคาใจจริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำหรับการที่จะต้องอาบัติสังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๓ ที่ว่าด้วยการพูดเกี้ยวหญิงนั้น มุ่งหมายถึงการพูดพาดพิงถึงวัจจมรรค (ทวารหนัก) ปัสสาวมรรค (ทวารเบา) พาดพิงเมถุนธรรม (การกระทำของบุคคลคู่ระหว่างชายกับหญิง) ถ้ามีการกล่าวคำพูดอย่างนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เป็นการกระทำไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชนทั้งหลาย ส่วนการพูดอย่างคำถามที่ได้ยกขึ้นมาถามนั้น ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เพราะไม่ได้พูดพาดพิงวัจจมรรค ปัสสาวมรรคและเมถุนธรรม แต่ก็เป็นวาจาที่ไม่เหมาะสม สำหรับเพศบรรพชิต ซึ่งจะต้องมีการสำรวมระวังอย่างยิ่งทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดสิกขาบทข้อใด ก็มีโทษสำหรับผู้ล่วงละเมิดทั้งนั้น การได้ศึกษาพระวินัย ในแต่ละสิกขาบทให้เข้าใจ ย่อมเกื้อกูลได้มากทีเดียว ที่จะทำให้ได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ละเว้นไม่กระทำในสิ่งที่ผิด และ เพื่อที่จะได้น้อมประพฤติเฉพาะในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น ครับ
[เล่มที่ 3] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค-ทุติยภาค เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 181
พระบัญญัติสังฆาทิเสสที่ ๓
อนึ่ง ภิกษุใด กำหนัดแล้ว มีจิตแปรปรวนแล้ว พูดเคาะมาตุคาม ด้วยวาจาชั่วหยาบ เหมือนชายหนุ่มพูดเคาะหญิงสาวด้วยวาจาพาดพิงเมถุน เป็นสังฆาทิเสส
[๔๐๑] สตรี ภิกษุมีความสำคัญว่าเป็นสตรี ความกำหนัดและพูดพาดพิงถึงทวารหนัก ทวารเบา ของสตรี ชมก็ดี ติก็ดี ขอก็ดี อ้อนวอนก็ดี ถามก็ดี ย้อมถามก็ดี บอกก็ดี สอนก็ดี ด่าก็ดี ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
[๔๐๔] อนึ่ง สตรี ภิกษุมีความสำคัญว่าเป็นสตรี มีความกำหนัดและพูดพาดพิงถึงอวัยวะเบื้องบนใต้รากขวัญลงมา อวัยวะเบื้องต่ำเหนือเข่าในรูป เว้น ทวารหนัก ทวารเบา ชมก็ดี ติก็ดี ขอก็ดี อ้อนวอนก็ดีถามก็ดี ย้อนถามก็ดี บอกก็ดี สอนก็ดี ด่าก็ดี ต้องอาบัติถุลลัจจัย
[๔๐๕] สตรี ภิกษุมีความสำคัญว่าเป็นสตรี มีความกำหนัด และพูดพาดพิงถึงอวัยวะเบื้องต่ำใต้เข่าลงมา ของสตรี ชมก็ดี ติก็ดี ขอก็ดีอ้อนวอนก็ดี ถามก็ดี ย้อนถามก็ดี บอกก็ดี สอนก็ดี ด่าก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ
อนาปัตติวาร
[๘๐๖] ภิกษุผู้มุ่งประโยชน์ ๑ ภิกษุผู้มุ่งธรรม ๑ ภิกษุผู้มุ่งสั่งสอน ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระภิกษุทุกรูป จะต้องศึกษาพระธรรมและประพฤติตามพระวินัย และตามความเป็นจริงแล้ว เพศสตรีเป็นข้าศึกต่อการประพฤติพรหมจรรย์ ถ้าพระภิกษุ ประมาท ไม่เห็นโทษ ก็สามารถล่วงสิกขาบทต่างๆ ได้ เป็นโทษกับตนเองเท่านั้น ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบคุณมากครับ
สบายใจขึ้นมากเลยครับ
จะสำรวมกายวาจาใจให้ดีกว่านี้
พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า ไม่พึงเห็นสตรีได้เป็นการดี แต่ถ้าพึงเห็นก็อย่าพูดด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องพูดด้วยก็ให้มีสติ
ภิกษุหากจำเป็นต้องพูดคุยกับสตรีก็ต้องมีสติ และอย่าประมาทต่อพระธรรมวินัย และในเวลาเดียวกันก็อย่าประมาทต่อกำลังของกิเลส.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์