การเจริญสติปัฏฐานจำเป็นต้องรู้อารมณ์ในอดีตหรือไม่
เรียน ท่านวิทยากร
การเจริญสติปัฏฐานจำเป็นต้องรู้อารมณ์ในอดีตหรือไม่ครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
สติปัฏฐาน คือ ปัญญาที่รู้ความจริง ที่ไถ่ถอนความยึดถือว่าเป็นเรา เพราะฉะนั้น การจะไม่มีเรา คือ ต้องมีลักษณะของสภาพธรรมปรากฏ ซึ่งก็คือ ในขณะที่สภาพธรรมเกิด ขณะที่ปัญญารู้ความจริงในขณะที่สภาพธรรมเกิด สภาพธรรมเท่านั้นปรากฏ จึงไม่มีเรา ไม่มีใคร ก็ไถ่ถอนความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคลได้ทีละน้อย แต่ การไปรู้เรื่องราวในอดีต ในสิ่งที่ดับไปแล้ว ลักษณะของธรรมไม่ปรากฏ เป็นเรื่องราว บัญญัติ ไม่ได้แสดงลักษณะของความไม่ใช่เรา คือ ตัวลักษณะที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สติปัฏฐาน เป็นการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่ด้วยการไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยความอยากความต้องการ แต่ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ปัญญาเจริญขึ้น ก็สามารถที่สติพร้อมด้วยปัญญาจะเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้ ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ก่อนจะถึง...สติ-ปัฏฐาน !
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การเจริญสติปัฏฐานต้องรู้อารมณ์ปัจจุบันเท่านั้น อย่างเช่น ขณะนี้มีเห็นไหม มีได้ยินไหม แล้วรู้ไหมว่าเป็นธรรม แต่ละหนึ่ง แต่ละอย่างที่เกิดดับ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ค่ะ
หากจะเริ่มต้นด้วยการค่อยๆ ศึกษาให้เข้าใจว่า "ธรรม" คืออะไร น่าจะเป็นการดีนะครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
ขออนุโมทนาครับ
ค่อยๆ สะสมความเข้าใจจากการฟังพระธรรม เป็นขณะที่ประเสริฐยิ่ง ทุกขณะที่เข้าใจ ปัญญาทำหน้าที่ค่อยๆ ชำระความไม่รู้ โดยไม่ใช่เราที่จะบังคับให้เข้าใจได้เลย
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์