ปัญหา ผู้อ้างตนเป็นภิกษุณี
ปัจจุบัน มีปัญหาในสังคมพุทธศาสนิกชนมากมาย อีกปัญหาหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ ปัญหาภิกษุณี หากเป็นไปได้ ขอให้ทางบ้านธัมมะ ได้ชี้แจง ให้ปัญญา สัมมาทิฏฐิ แก่พุทธศาสนาชน มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภิกษุณี และการพยายามเป็นภิกษุณี หรือที่มีแอบอ้างอยู่แล้วในปัจจุบัน
ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ในวันนี้ วันที่ 13 มีนาคม 2560 ได้มีการจัดสนทนาสัมภาษณ์ ท่าน อ.สุจินต์ คณะวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิหลายๆ ท่าน ในเรื่อง ไม่มีพระภิกษุณีในปัจจุบัน ซึ่งจะนำเทปที่เพิ่งได้สัมภาษณ์วันนี้ไปออกอากาศทางรายการทีวีบ้านธัมมะ ทางช่อง 11 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ จึงเรียนไว้เพื่อทราบ เพื่อประโยชน์ในการดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และ ความเห็นถูกต่อไป ครับ เรียนติดตามชมรายการบ้านธัมมะทางช่อง 11 ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในเมื่อพระภิกษุณีได้หมดสิ้นไปแล้ว ผู้หญิงก็ไม่สามารถที่จะบวชเป็นเพศบรรพชิตได้อีก โดยสรุป ก็คือ บวชไม่ได้ ไม่มีพระภิกษุณีแล้ว แม้ว่าจะพบเห็นผู้หญิงที่มีการแต่งกายเหมือนพระ ก็ไม่ใช่พระ ภิกษุณี
คฤหัสถ์ ก็สามารถที่จะอบรมเจริญปัญญาได้สามารถที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม และน้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตามได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคือ จะเห็นประโยชน์ จะเห็นคุณค่าของพระธรรมหรือไม่? เป็นคฤหัสถ์ที่ดีโดยที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศล ประการต่างๆ ไม่ขาดการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตามลำดับเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดี เป็นขณะที่มีค่าอย่างยิ่ง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
ถึงไม่ได้บวช เป็นคฤหัสถ์ก็สามารถรักษาศีลได้มากกว่า 5 ข้อขึ้นไปตามการสะสม แต่การสะสมความเข้าใจธรรมประเสริฐกว่าสิ่งใดๆ ค่ะ
คำถาม
๑.เมื่อปัจจุบันไม่มีภิกษุณีแล้ว ดังนั้นผู้ที่อ้างว่าเป็นภิกษุณีอยู่ในปัจจุบัน จึงแอบอ้างที่ผิดกฎหมาย และแต่งกายคล้ายสงฆ์ ทำไมไม่ถูกจับดำเนินคดี มีหลักฐานบางคนออกรายการทีวี บางคนมีหลักฐานในยูทูบ ไม่เห็นรัฐบาลทำอะไร แต่กลับไปทะเลาะกับพระจริง งง
๒.ครั้งหนึ่งพระสงฆ์ (เกือบ) หมดจากเมืองไทย ต้องอาศัยพระจากลังกาบวชให้ เรียกว่าลังกาวงศ์ ภิกษุณีทำแบบพระลังกาวงศ์ได้ไหม รื้อฟื้นภิกษุณีขึ้นใหม่เหมือนพระสงฆ์ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
๓.มีคำสอนว่าผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ไม่สามารถอยู่ในเพศฆราวาสได้ ถ้าผู้หญิงสมัยนี้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์จะทำอย่างไร เมื่อไม่มีภิกษุณีให้บวช ต้องยอมตายอย่างนั้นหรือ (สละทุกอย่างแม้ชีวิต)
เรียนความคิดเห็นที่ ๑๐ ครับ ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
๑.เพราะความไม่เข้าใจอย่างถูกต้อง จึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ต่อเมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็สามารถที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ แก้ปัญหาได้ สำคัญอยู่ตรงนี้
๒.ในเมื่อเป็นพระพุทธประสงค์ที่จะให้ภิกษุณีหมดไป ทรงวางพระวินัยบัญญัติต่างๆ มากมายเพื่อให้ภิกษุณีค่อยๆ หมดไป แล้วคนที่คิดจะรื้อฟื้นให้มีภิกษุณี เคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ซึ่งไม่มีทางที่จะบวชเป็นภิกษุณีได้เลย
๓. ยุคนี้ เป็นยุคที่อย่างมากบรรลุได้สูงสุดถึงความเป็นพระอนาคามี ไม่ถึงพระอรหันต์อย่างแน่นอน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ยุคนี้จะมีผู้หญิงสามารถที่จะบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วปรินิพพานในวันนั้น
จึงใคร่ขอให้กลับมาตั้งต้นที่การศึกษาพระธรรมจริงๆ แม้เป็นพระคฤหัสถ์ก็ศึกษาธรรมได้ และสะสมความดีได้ทุกอย่างทำไมจึงจะต้องขวนขวายที่จะไปบวช ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
รอชมอยู่ครับ เพื่อจะได้นำมาตอบคำถามของผู้ประสงค์ให้มีภิกษุณี ดังนี้
๑. ผู้ที่จะเข้ามาเป็นภิกษุณีจะต้องรับครุธรรม 8 ประการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการแสดงความเคารพต่อพระภิกษุ เป็นเงื่อนไขไว้ปกป้องสถานะของนักบวชหญิงไม่ให้คลอนแคลน เนื่องจากในสมัยพุทธกาลผู้หญิงยังไม่อยู่ในสถานะที่ผู้ชายจะเคารพสักการะ
๒. ภิกษุณีถือศีลมากถึง 311 ข้อ ซึ่งพระวินัยที่มากกว่าพระสงฆ์เกี่ยวเนื่องกับความความแตกต่างด้านสรีระเป็นสำคัญ
๓. ประเทศไต้หวันมีภิกษุณีสายมหายาน ซึ่งมีหญิงไทยไปบวชที่นั่นในปี 2516 ถ้าไปบวชที่นั่นก็ได้
๔. ประเทศศรีลังกามีภิกษุณีสายเถรวาท ซึ่งมีหญิงไทยไปบวชที่นั่นในปี 2546 ถ้าไปบวชที่นั่นก็ได้
๕. ถ้าภิกษุณีเถรวาทมีได้ที่ศรีลังกา ก็นิมนต์เชิญมาเป็นอุปัชฌาย์อุปสมบทภิกษุณีในประเทศไทยได้
๖. ทำไมภิกษุณีในศรีลังกามีได้ตั้งแต่ปี 2541 โดยเจ้าอาวาสวัดดัมบุลละ นิกายสยามวงศ์สมัยนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยอาศัยพุทธานุญาตของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกที่ว่า "ให้ภิกษุทั้งหลายบวชภิกษุณี"
- อ้างอิงว่าจากที่ปรากฏในพระไตรปิฎกชัดเจนว่า พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้สตรีบวชเป็นพระภิกษุณีได้ และยังไม่เคยทรงเพิกถอนการอนุญาตให้มีการบวชภิกษุณีสงฆ์ โดยภิกษุสงฆ์ จึงเท่ากับว่า ภิกษุสงฆ์ยังมีสิทธิ์บวชภิกษุณีอยู่เช่นเดิม ตามสิทธิแห่งพุทธบัญญัติโดยไม่ผิดพระธรรมวินัย และถือตามพุทธานุญาตที่มีอยู่
- ในปี พ.ศ.2541 ศรีลังกามีการบวชภิกษุณีสงฆ์โดยสงฆ์สองฝ่าย แต่เนื่องจากไม่มีภิกษุณี จึงใช้ภิกษุณีสงฆ์ของจีนและไต้หวัน แต่ ฝั่งหนึ่งเป็นมหายาน ฝั่งหนึ่งเป็นเถรวาทก็จะไม่ยอมรับกัน ท้ายที่สุดมีการบวชซ้ำอีก โดยพระมหานายกล้วนเป็นพระที่มีอายุพรรษา 20 ขึ้นทั้งนั้น รวม 10 รูป บวชให้โดยสงฆ์ฝ่ายเดียวที่สารนาถ เพราะฉะนั้น ก็ถือว่าเป็นการสืบสายโดยเถรวาท"
๗. ภิกษุณีเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงมีเจตนารมณ์ตั้งแต่ต้น โดยมีการประดิษฐานพุทธบริษัท 4
๘. เพียงภิกษุสงฆ์ก็สามารถเป็นผู้อุปสมบทภิกษุณีได้ ในสมัยพุทธกาลที่นำภิกษุณีสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบอันตรายิกธรรม เพราะคำถามบางข้อผู้หญิงอาจจะเขินอายหากพระภิกษุเป็นผู้ถาม ฉะนั้นถ้าในปัจจุบันไม่มีภิกษุณี ผู้หญิงที่ขอบวชสามารถขอตอบอันตรายิกธรรมต่อพระภิกษุได้เลย
๙. ภิกษุณีในประเทศไทยมีไม่ได้เพราะประกาศของสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 11 เมื่อปี 2471 สั่งห้ามภิกษุสงฆ์อุปสมบทให้ผู้หญิงเป็นภิกษุณี โดยประกาศนี้ขัดต่อพุทธบัญญัติ
๑๐. ในครุธรรมที่ระบุว่า ระบุว่า มิให้ภิกษุณีอยู่ในอารามที่ไม่มีพระภิกษุสงฆ์นั้น เพื่อให้ผู้หญิงปลอดภัย บัดนี้ภิกษุณีแสวงหาความปลอดภัยได้แล้ว จึงไม่ได้อยู่กับพระภิกษุสงฆ์ แต่ไม่ใช่ไม่เคารพ ที่กำหนดให้ภิกษุณีอยู่อารามเดียวกับพระภิกษุสงฆ์ในสมัยโบราณ เพื่ออาศัยให้พระภิกษุดูแลเรา
- พิจารณาตามคำถามแล้ว ดูเหมือนว่าปัญหาอยู่ที่การตีความพุทธบัญญัติในพระไตรปิฎกครับ