ใครก็ตาม ไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นั้น ไม่รู้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สรุปสาระสำคัญการสนทนาธรรม
ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลนนทบุรี
วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๐
--------------------------
~ คำจริงที่ได้ฟัง มาจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่สะสมบุญมาแล้วเท่านั้นที่จะได้ฟัง
~ ที่เคยไปแสวงหาธรรม ก็เพราะไม่รู้ว่าธรรมคือขณะนี้ ซึ่งไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนเลย
~ ตั้งแต่เกิดจนตายพูดคำที่ไม่รู้จักจนกว่าจะได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ ถ้าไม่มีสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้อะไร
~ ใครจะทำให้มีอะไรเกิดขึ้นได้ไหม? ไม่ได้ แต่สิ่งใดที่จะเกิดก็เกิดเพราะเหตุปัจจัย
~ เริ่มฟัง (พระธรรม) เริ่มเข้าใจ เริ่มเคารพในพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เริ่มรู้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นใคร
~ "ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริงๆ และมีจริงๆ ในขณะนี้ด้วย" จึงจะชื่อว่าเริ่มเข้าใจธรรม
~ การบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สูงสุด ไม่ใช่ด้วยดอกไม้ ธูปเทียนหรือเครื่องประดับต่างๆ แต่ด้วยความเข้าใจพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง
~ สิ่งที่เกิดแล้วดับไป จะเป็นสุขได้อย่างไร?
~ สิ่งที่มีจริง เป็นจริงทุกกาละสมัย
~ ๔๕ พรรษาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม มีค่ามาก ถ้ามีความเข้าใจมั่นคงในแต่ละคำ ก็จะสอดคล้องกันหมด
~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นำมาซึ่งปัญญา เป็นที่พึ่งที่แท้จริง
~ ถ้าไปทำสิ่งหนึ่งใดด้วยความไม่รู้ งมงายไหม?
~ คิดมีจริง นั่นแหละ ธรรม คิดดีมีไหม? คิดไม่ดีมีไหม? ดีเป็นธรรม ไม่ดีก็เป็นธรรม
~ ความตรงต่อความจริงเท่านั้นที่จะทำให้เข้าใจธรรมได้อย่างถูกต้อง
~ สนทนาธรรมเป็นมงคล เพราะทำให้เข้าใจสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยรู้มาก่อน
~ มีเห็นโดยไม่มีสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ไหม? ไม่ได้ เพราะในขณะที่เห็น ก็เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา
~ ได้ยินเสียง อะไรเป็นธรรม? ได้ยิน เป็นธรรม เสียง เป็นธรรม เป็นเราหรือเปล่า? เป็นธรรม
~ ใครก็ตามชวนให้ไปทำอะไร ก็คือ ตรงกันข้ามกับอนัตตา
~ ความเข้าใจถูกไม่สูญหาย ต่อไปก็เข้าใจ มีเหตุให้ได้ฟังพระธรรมอีก ก็สะสมสืบต่อไป เข้าใจขึ้นๆ
~ ขณะต่อไปไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เมื่อมีเหตุปัจจัย ก็เกิดขึ้น
~ ความติดข้อง ความไม่พอใจ ความไม่รู้ ความตระหนี่ ความริษยา ล้วนเป็นธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสิ่งไม่ดี
~ ขณะที่เข้าใจ เป็นบุญ และเป็นบุญที่ประกอบด้วยปัญญาด้วย
~ จะเข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเป็นผู้ตรง ผิด คือ ผิด ถูก คือ ถูก
~ ความโกรธมีจริง มีใครเปลี่ยนแปลงได้ไหม? ไม่ได้ จึงเป็นปรมัตถธรรม เป็นธรรม และเป็นอภิธรรมด้วย เพราะละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เกิดความเข้าใจว่า ไม่ใช่เรา เพราะแสดงถึงสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่ง
~ อะไรดับกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) ? ปัญญา ถ้าไม่มีความเข้าใจ (ปัญญา) อะไรก็ดับกิเลสไม่ได้
~ ต้องกลับมาที่ ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่เรา
~ ถ้าเห็นประโยชน์ของพระธรรมจริงๆ จะขาดการฟังพระธรรม ไม่ได้
~ ปัญญา ค่อยๆ ขัดเกลาละคลายความไม่รู้ซึ่งเป็นต้นเหตุของความไม่ดีทั้งหมด
~ สังสารวัฏฏ์ คือ การเกิดดับสืบต่อของธรรมอย่างไม่หยุด
~ ใครก็ตาม ไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นั้น ไม่รู้.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
คำสอนของสัมสัมพุทธเจ้าเป็นวาจาสัจจะคือความจรืงการจะเข้าใจถูกในธรรมเริ่มต้นจากการฟีงเมื่อฟังแล้วพิจารณาไตร่ตรองจนเข้าใจถูกเป็นปํญญาในขั้นฟังเท่านั้นสะสมปัญญาจากการฟังไปเรี่อยๆ จนมั่นคงเป็นสัจจะญาณ
ชาติที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นบุญยิ่งแล้ว และได้เกิดทันพระธรรมที่ยังไม่สูญหายอันตรธาน ก็เป็นบุญมากเหลือจะพรรณา ยิ่งได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้องตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแล้วเข้าใจ เป็นเพราะบุญที่สะสมมา ในอดีตจึงได้ฟังด้วยความเคารพ เป็นเหตุให้ตั้งใจฟัง เป็นแต่ละขณะที่ประเสริฐที่สุดในชาตินั้นๆ สะสมเหตุชาตินี้ เป็นผลในชาติต่อๆ ไป เหมือนผลในชาตินี้ ก็เกิดจากเหตุในชาติก่อนๆ
ขอกราบอนุโมทนาขอบพระคุณสำหรับการเกื้อกูลการศึกษาพระธรรมค่ะ