เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ศึกษาต่อไป
khampan.a
วันที่ 11 พ.ค. 2560
หมายเลข 28829
อ่าน 2,151
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สรุปสาระสำคัญของการสนทนาธรรม
ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
--------------
~ การที่จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ประมาทในคำจริง เพราะผู้ตรัสคำนั้น เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ทุกอย่างที่จริง ต้องจริง ถูกคือถูก ผิดคือผิด
~ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต้องเป็นประโยชน์ทุกกาละสมัย
~ ผู้สนใจที่จะเข้าใจพระธรรม เป็นผู้เห็นพระคุณของผู้ที่ไม่มีผู้ใดเปรียบ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงสนใจที่จะเข้าใจในคำที่พระองค์ตรัส
~ ความจริง ตลอดเวลาไม่เคยขาดธรรมเลย แต่ไม่รู้
~ เห็นมี เมื่อเห็นเกิดขึ้น เป็นธรรมที่มีจริง
~ ได้ยินก็จริง เสียงก็จริง ทั้งหมดเป็นธรรม
~ ธรรมมีอยู่ทุกขณะ ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน
~ สิ่งที่มีจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
~ พระอริยบุคคล เป็นผู้เจริญแล้วด้วยปัญญา
~ สภาพธรรมที่ดีงามทั้งหลาย นั้น ปัญญา ประเสริฐสุด
~ ไม่มีเรา ไม่มีตัวตน มีแต่ธรรมทั้งหลายที่เป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น)
~ เริ่มรับมรดกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ โดยการรับพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ตลอด ๔๕ พรรษา
~ สะสมแต่อกุศล ทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี ทั้งชาติ แล้วจะเอาอะไรมาขัดเกลาสิ่งที่ไม่ดีได้
~ จะอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน จะทำดีหรือทำชั่ว?
~ ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครจะได้ยินแม้แต่คำว่า “ธรรม”
~ ทำไมมีทุจริตกรรม? เพราะรักตัว ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตัว
~ ความจริง กับ ความไม่จริง ต้องการอย่างไหน?
~ ธรรม ไม่ง่าย แต่ค่อยๆ เข้าใจได้
~ ถ้าไม่มีกิเลส เป็นทุกข์ไหม? ไม่เป็นทุกข์
~ เราเป็นทุกข์ เพราะความไม่รู้ และ มีกิเลส หนทางที่จะดับทุกข์ คือ มีความรู้ (ปัญญา) ที่จะดับกิเลส
~ ชีวิตสั้นแสนสั้น แล้วรู้ไหมว่า วันหนึ่ง ชั่วมากกว่าดี เพราะอกุศลเกิดขึ้นเป็นไปมากทีเดียว
~ กล่าวได้เลยว่า ตั้งแต่เกิดจนตายพูดคำที่ไม่รู้จัก จนกว่าจะได้ฟังพระธรรม
~ พูดง่ายมากว่าเห็นประโยชน์ของพระพุทธศาสนา เพราะยังไม่รู้ว่าพระพุทธศาสนาคืออะไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อะไร ทรงแสดงอะไร
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรม ไม่มีอะไรจะขัดเกลากิเลสได้เลย
~ พระภิกษุ ก่อนบวช เป็นผู้ฟังพระธรรม เข้าใจพระธรรม จึงสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ในเพศบรรพชิต
~ พระภิกษุ สละเงินและทองแล้ว จึงบวช เมื่อบวชแล้ว จะมีเงินทองได้อย่างไร
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับเงินทองหรือเปล่า? เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไม่รับเงินทองแล้วเพราะเหตุใดภิกษุที่ปฏิญาณว่าจะประพฤติตามพระองค์ จึงรับเงินรับทอง
~ รับเงินรับทอง เป็นกิเลส พระภิกษุจะขัดเกลากิเลสมิใช่หรือ แล้วจะรับเงินทองได้อย่างไร?
~ ทำไม เรากราบไหว้พระภิกษุ? เพราะพระภิกษุเข้าใจธรรม ขัดเกลากิเลส
~ ไม่เข้าใจธรรม บวชทำไม ไม่ขัดเกลากิเลส บวชทำไม?
~ พระธรรมวินัย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
~ พระธรรม ทำให้ค่อยๆ ขัดเกลาสิ่งที่ไม่ดีได้
~ เป็นคนดียังไม่พอ ต้องเข้าใจพระธรรมด้วย จะได้ดีมากขึ้น เพิ่มขึ้น
~ เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ศึกษาต่อไป.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
สรุปสาระสำคัญของการสนทนาธรรม
ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
--------------
~ การที่จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ประมาทในคำจริง เพราะผู้ตรัสคำนั้น เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ทุกอย่างที่จริง ต้องจริง ถูกคือถูก ผิดคือผิด
~ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต้องเป็นประโยชน์ทุกกาละสมัย
~ ผู้สนใจที่จะเข้าใจพระธรรม เป็นผู้เห็นพระคุณของผู้ที่ไม่มีผู้ใดเปรียบ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงสนใจที่จะเข้าใจในคำที่พระองค์ตรัส
~ ความจริง ตลอดเวลาไม่เคยขาดธรรมเลย แต่ไม่รู้
~ เห็นมี เมื่อเห็นเกิดขึ้น เป็นธรรมที่มีจริง
~ ได้ยินก็จริง เสียงก็จริง ทั้งหมดเป็นธรรม
~ ธรรมมีอยู่ทุกขณะ ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน
~ สิ่งที่มีจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
~ พระอริยบุคคล เป็นผู้เจริญแล้วด้วยปัญญา
~ สภาพธรรมที่ดีงามทั้งหลาย นั้น ปัญญา ประเสริฐสุด
~ ไม่มีเรา ไม่มีตัวตน มีแต่ธรรมทั้งหลายที่เป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น)
~ เริ่มรับมรดกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ โดยการรับพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ตลอด ๔๕ พรรษา
~ สะสมแต่อกุศล ทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี ทั้งชาติ แล้วจะเอาอะไรมาขัดเกลาสิ่งที่ไม่ดีได้
~ จะอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน จะทำดีหรือทำชั่ว?
~ ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครจะได้ยินแม้แต่คำว่า “ธรรม”
~ ทำไมมีทุจริตกรรม? เพราะรักตัว ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตัว
~ ความจริง กับ ความไม่จริง ต้องการอย่างไหน?
~ ธรรม ไม่ง่าย แต่ค่อยๆ เข้าใจได้
~ ถ้าไม่มีกิเลส เป็นทุกข์ไหม? ไม่เป็นทุกข์
~ เราเป็นทุกข์ เพราะความไม่รู้ และ มีกิเลส หนทางที่จะดับทุกข์ คือ มีความรู้ (ปัญญา) ที่จะดับกิเลส
~ ชีวิตสั้นแสนสั้น แล้วรู้ไหมว่า วันหนึ่ง ชั่วมากกว่าดี เพราะอกุศลเกิดขึ้นเป็นไปมากทีเดียว
~ กล่าวได้เลยว่า ตั้งแต่เกิดจนตายพูดคำที่ไม่รู้จัก จนกว่าจะได้ฟังพระธรรม
~ พูดง่ายมากว่าเห็นประโยชน์ของพระพุทธศาสนา เพราะยังไม่รู้ว่าพระพุทธศาสนาคืออะไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อะไร ทรงแสดงอะไร
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรม ไม่มีอะไรจะขัดเกลากิเลสได้เลย
~ พระภิกษุ ก่อนบวช เป็นผู้ฟังพระธรรม เข้าใจพระธรรม จึงสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ในเพศบรรพชิต
~ พระภิกษุ สละเงินและทองแล้ว จึงบวช เมื่อบวชแล้ว จะมีเงินทองได้อย่างไร
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับเงินทองหรือเปล่า? เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไม่รับเงินทองแล้วเพราะเหตุใดภิกษุที่ปฏิญาณว่าจะประพฤติตามพระองค์ จึงรับเงินรับทอง
~ รับเงินรับทอง เป็นกิเลส พระภิกษุจะขัดเกลากิเลสมิใช่หรือ แล้วจะรับเงินทองได้อย่างไร?
~ ทำไม เรากราบไหว้พระภิกษุ? เพราะพระภิกษุเข้าใจธรรม ขัดเกลากิเลส
~ ไม่เข้าใจธรรม บวชทำไม ไม่ขัดเกลากิเลส บวชทำไม?
~ พระธรรมวินัย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
~ พระธรรม ทำให้ค่อยๆ ขัดเกลาสิ่งที่ไม่ดีได้
~ เป็นคนดียังไม่พอ ต้องเข้าใจพระธรรมด้วย จะได้ดีมากขึ้น เพิ่มขึ้น
~ เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ศึกษาต่อไป.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ความคิดเห็นที่ 3
มกร
วันที่ 11 พ.ค. 2560
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ