ตี่จู้เอี๊ย- ปึงเถ่ากง - ศาลพระภูมิ
การบูชาพระรัตนตรัยนั้นสูงสุด ไม่มีสิ่งอื่นที่ควรยึดถือเป็นที่พึ่งเกินไปกว่ารัตนทั้งสามนี้ แต่ทว่าในชีวิตปกติประจำวัน เราก็มีพ่อ มีแม่ มีครูบาอาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่ การเคารพนบนอบต่อท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็เป็นการเจริญกุศลอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน ในพระธรรมก็มีการกล่าวถึงเทวตาพลี ทำนองว่าการบูชาเทวดาเป็นต้น ซึ่งทำโดยการอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน ก็ประมาณว่ายังมีอีกหลายต่อหลายอย่างที่เราควรเคารพ นับถือในฐานะต่างๆ กันไป ตามฐานานุฐานะ ทีนี้ขอเข้าสู่คำถามครับ
1. ตี่จู้เอี๊ย - ปึงเถ่ากง (พระภูมิและเจ้าที่ตามความเชื่อโบราณจีน) จัดว่าเป็นเทวดาหรือไม่? และการจุดธูปเคารพนบนอบบูชาทุกวัน หากทำในใจว่ากำลังแสดงความนบนอบเฉกเช่นการเคารพผู้ใหญ่อย่างนี้เป็นกุศลใช่หรือไม่?
2. ศาลพระภูมิของไทยก็เช่นกันครับ มีศาลปู่ ศาลย่า เป็นต้น จัดว่าเป็นเทวดาหรือไม่? การจุดธูปเทียนเคารพนบนอบมิใช่ในฐานะเดียวกับพระรัตนตรัย แต่ในฐานะเดียวกับญาติผู้ใหญ่อย่างนี้เป็นกุศลใช่หรือไม่?
3. จากคำตอบที่ได้รับฟังผ่านๆ มาในเรื่องของดวง เรื่องโหราศาสตร์ต่างๆ พอจะได้ความเข้าใจว่า เป็นเรื่องอ่อนสาระ ควรมุ่งเน้นพระธรรมอันเป็นสารัตถะสำคัญมากกว่า เพราะเกื้อกูลต่อปัญญาและจะทำให้เบาใจกับเรื่องราวทำนองนี้ได้ ถ้าเช่นนั้นพอจะพูดได้ไหมครับว่า "ผู้ที่มั่นคงในพระธรรมนั้น ไม่ขึ้นตรงต่อศาสตร์ด้านโหร" และ "ผู้มั่นคงในพระธรรมนั้น ดวงชะตาทำอะไรไม่ได้" อย่างนี้หรือเปล่าครับ?
4. ศาสตร์เรื่อง อนุพยัญชนะ ในพระไตรปิฎก ก็ดูคล้ายกับศาสตร์เรื่องโหงวเฮ้งหรือนรลักษณ์ศาสตร์ ซึ่งก็เป็นไปในลักษณะของคำทำนายด้วยเช่นกัน อีกทั้งอนุพยัญชนะทั้งหลายก็เป็นรูปที่เกิดแต่กรรม ดังนั้น การทำนายทายทักด้านนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือได้หรืออย่างไรครับ?
ขอบพระคุณทางมูลนิธิฯ และบ้านธัมมะมากๆ ครับ
๑. ๒. ถ้าระลึกถึงคุณของบุพพการีที่ล่วงลับไปแล้วเป็นกุศลจิต ถ้าจะบูชาคุณของท่านอย่างถูกต้องตามคำสอนพระพุทธองค์ คือ ทำกุศลแล้วอุทิศกุศลไปให้
๓. ถูกต้องครับ ผู้ที่มีปัญญาทั้งหลายท่านเป็นเช่นนั้น ดังตัวอย่างพระอริยสาวกทั้งหลาย
๔. เป็นศาสตร์พยากรณ์ตามตำราที่มีสืบต่อกันมา แต่ไม่เป็นเบี้องต้นของพรหมจรรย์