ปัญญา นำไปสู่คุณความดีทั้งหลาย

 
khampan.a
วันที่  8 ก.ค. 2560
หมายเลข  28969
อ่าน  2,506

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สรุปสาระสำคัญของการสนทนาธรรม
เนื่องในวันอาสาฬหบูชา
ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
วันเสาร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐
-----------------------------------------------

~ สิ่งที่มีจริงกำลังเผชิญหน้า แต่ไม่สามารถที่จะเข้าใจความเป็นจริงของสิ่งนั้นได้เลย ก็หลงยึดถือสิ่งที่ไม่มี แต่เข้าใจว่ามี คำพูดนี้ก็เหมือนแสงสว่าง ซึ่งจากที่มืดสนิท คิดว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ตลอดเวลา เป็นการเริ่มเข้าใจตามความเป็นจริงว่า มีเพียงสิ่งที่ปรากฏ

~ ทุกคำเป็นคำจริง สามารถที่จะเข้าใจได้ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ปรากฏว่ามี มีเมื่อปรากฏเท่านั้นเอง แต่ที่ไม่เคยคิด ไม่เคยเข้าใจมาก่อน ก็คือว่า เพียงปรากฏเท่านั้นแล้วก็หายไป ไม่กลับมาอีกเลย ไม่มีอีกเลย

~ ยิ่งฟังก็ยิ่งเข้าใจความเป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร) ยิ่งขึ้น

~ ฟังพระธรรมด้วยความเคารพ ด้วยความอดทน ด้วยความมั่นคง ด้วยความจริงใจ

~ ความเข้าใจซึ่งเป็นปัญญาต่างหาก ที่ละความไม่รู้ ไม่ใช่มีเราต่างหากที่ไปละความไม่รู้

~ ปัญญาต่างหากที่นำไปสู่คุณความดีทั้งหลาย

~ ทุกคนอยากจะดี แล้วอย่างไรจึงจะ ดี ได้ ตามที่อยาก ไม่สามารถที่จะ ดี ได้อย่างที่อยาก ถ้าไม่มีปัญญา แต่ถ้ามีปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง สิ่งใดเป็นโทษ ปัญญา ละ สิ่งใดเป็นประโยชน์ ปัญญาก็อบรมเจริญกระทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์

~ จากอกุศล ซึ่งมีมาก ก็ค่อยๆ ลดน้อยลง ตามกำลังความเข้าใจที่ถูกต้อง กุศลทั้งหลายเพิ่มขึ้น อกุศลน้อยลง ก็สามารถที่จะเข้าใจธรรมที่กำลังปรากฏได้

~ ยิ่งเป็นพระภิกษุ ก็ยิ่งจะต้องทำดี เพราะมีชีวิตที่ประเสริฐกว่าคฤหัสถ์ ต้องมีชีวิตที่เป็นไปด้วยการศึกษาพระธรรม ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

~ ถ้าไม่มีการศึกษาให้เข้าใจพระธรรมและไม่มีการขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต ก็เป็นโทษ เป็นบาป ไม่ใช่เป็นบุญ

~ ถ้าไม่เข้าใจธรรม เป็นภิกษุหรือเปล่า? (ไม่เป็น) ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต เป็นภิกษุหรือเปล่า? (ไม่เป็น)

~ ไม่รู้ว่าบวชทำไม เป็นโทษ เป็นบาป

~ ฟังธรรม เพื่อเข้าใจว่าเป็นธรรม (สิ่งที่มีจริงๆ ) จนกว่าจะรู้จักธรรม จนกว่าจะรู้แจ้งว่าทั้งหมดเป็นธรรม ซึ่งเป็นอนัตตา

~ เข้าใจแค่ไหน ความเข้าใจนั้น ก็สามารถที่จะขัดเกลากิเลส ขัดเกลาความไม่รู้ ในระดับของความเข้าใจนั้น

~ อาลัย (ติดข้อง พอใจ) ก็คือ ไม่พร้อมที่จะจากสิ่งนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มี เพียงแค่มีเมื่อปรากฏแล้วก็หมดไป แต่เสมือนว่าสิ่งที่ปรากฏนั้นยังอยู่ตลอดเวลา ไม่พร้อมที่จะจากไป

~ เคยของหายไหม? แค่นี้ก็เห็นความอาลัยในสิ่งที่หายไปแล้ว ยิ่งเป็นของที่ชอบมาก ความอาลัยนั้นก็ชัดเจนเลย นี่เป็นเพียงแค่สิ่งของ แต่ถ้าเป็นญาติ มิตรสหาย ครอบครัว บุคคลผู้ที่เป็นที่รักนอกจากสมบัติแล้ว รู้ไหมว่าไม่พร้อมที่จะจากไป ยังไม่หมดความอาลัย แต่ความจริงแล้ว รู้ไหมว่า กำลังอาลัย ในสิ่งที่ไม่มีอะไร (เพราะเป็นสิ่งที่เพียงเกิดปรากฏแล้วก็หมดไป)

~ บุคคลใดก็ตามที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอริยบุคคล จะเป็นอุบาสกอุบาสิกา ภิกษุหรือสามเณร ผู้นั้น เป็นสังฆรัตนะ เห็นถึงความประเสริฐยิ่ง จากการที่ไม่รู้ มืดสนิท เหมือนคนตาบอด ไม่รู้ความจริง จนกระทั่ง สามารถรักษาตานั้นให้หายได้ โดยหมอวิเศษผู้เดียว คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.

ขอเชิญคลิกฟังเนื้อหาที่สำคัญบางช่วงบางตอนได้ที่นี่ครับ

ภิกษุ เป็นผู้ทำความดีในเพราะการขอ

….กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และ
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 8 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
napapongsumran
วันที่ 8 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Noparat
วันที่ 8 ก.ค. 2560

ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มกร
วันที่ 8 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
panasda
วันที่ 8 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
thilda
วันที่ 9 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 9 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 9 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nualchan.deesawat
วันที่ 9 ก.ค. 2560

กราบเท้าท่านอาจารย์ค่ะ และกราบอนุโมทนาในกุศลจิตผู้ที่ถ่ายทอดธรรมทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
kukeart
วันที่ 11 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ