การสาปแช่งมีผลในทางพระพุทธศาสนาไหม

 
dday
วันที่  9 ก.ค. 2560
หมายเลข  28972
อ่าน  2,405

อยากทราบว่าการสาปแช่งมีผลในทางพระพุทธศาสนาไหมคะ
ถ้าหากว่าคนแช่งเป็นคนที่มีคุณธรรมสูงกว่า
แล้วคำแช่งจะส่งผลตามคำที่เขาผู้นั้นแช่งไหมคะ ถ้าหากว่าทำผิด ทำให้ผู้ที่แช่งเดือดร้อนจริง แต่ไม่เจตนา
คนที่ถูกแช่งจะต้องได้รับผลตามคำแช่ง หรือว่าได้รับผลตามกรรมที่ตนเองทำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำแช่งคะ

รบกวนตอบคำถามหน่อยนะคะ เครียดมากจริงๆ อยากรู้ความเป็นจริงให้มากขึ้นค่ะ ขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 9 ก.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผลที่ไม่ดี ย่อมเกิดจาก การกระทำที่ไม่ดีของตนเอง เหตุย่อมตรงกับผล เจตนาที่เป็นกรรมของคนอื่นจะมาให้ผลกับอีกคนไม่ได้ ส่วนผลที่ดีก็ย่อมเกิดจากกรรมที่ดี คือกุศลกรรมที่บุคคลนั้นทำเอง พระพุทธองค์ตรัสว่าสัตว์ทั้งย่อมเป็นไปตามกรรม สัตว์ทั้งหลายจะมีสุขหรือทุกข์จะเกิดที่ไหนอย่างไรเพราะกรรมของตน บุคคลคนอื่นไม่สามารถให้บุคคลอื่นเกิดบนสวรรค์หรืออบายได้ แต่ไปสุคติได้เพราะกรรมดีของตน เกิดในอบายเพราะกรรมชั่วของตน ไม่เป็นไปตามที่ผู้อื่นสาปแช่งหรือขอร้องอ้อนวอน ผู้มีอกุศลจิต จึงสาบแช่งให้ผู้อื่นประสบกับสิ่งไม่ดีทั้งปวง เราไม่ได้ประพฤติไม่เหมาะไม่ควรเช่นนั้น เราก็จะไม่ได้รับผลอย่างที่เขาเป็นหรืออยากให้เราเป็นทุกคนมีกรรมเป็นของตน ทำเหตุอย่างไรก็ได้รับผลอย่างนั้น ใครจะแช่งอย่างไร ก็เปลียนแปลงความเป็นจริงไม่ได้ ในชาดกเรื่อง ภัคคชาดก เล่ม 57 แสดงว่าที่พระพุทธเจ้าทรงจาม ภิกษุทั้งหลายจึงกล่าวให้พรกับพระพุทธเจ้าว่า ขอพระสุคตเจ้าจงทรงพระชนม์เถิด พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า คนเราจะเป็นอยู่หรือตายไปเพราะคำกล่าวนี้หรือ ภิกษุทั้งหลายกล่าวว่าไม่ใช่ นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ แสดงให้เห็ว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครจะกล่าวว่าอย่างไร ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ประสาน
วันที่ 10 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 10 ก.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความคิดไม่ดีที่เกิดขึ้นเป็นไป ที่มีความมุ่งร้ายปรารถนาร้ายต่อผู้อื่น สาปแช่งผู้อื่น เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี เป็นโทษกับตนเอง เพราะเป็นอกุศล เมื่อสะสมมากขึ้นมีกำลังมากขึ้น ก็อาจจะเป็นเหตุให้ล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ เบียดเบียนประทุษร้าย หรือถึงกับฆ่าผู้อื่นได้ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรเลยโดยประการทั้งปวง จึงกล่าวได้ว่า เพราะความเป็นปุถุชนผู้หนาแน่นไปด้วยกิเลส ก็เป็นธรรมดาที่กิเลสทั้งหลายจะเกิดขึ้นเป็นไป ยับยั้งไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่ปัญญาสามารถเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง เห็นโทษของกิเลส และขัดเกลาละคลายกิเลสได้ แล้วน้อมประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป สามารถตั้งต้นใหม่ เริ่มใหม่ ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ความเข้าใจถูกเห็นถูกเท่านั้นที่จะนำพาชีวิตไปสู่ความดีทั้งหลายทั้งปวง ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
dday
วันที่ 10 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 11 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ