ปัญญา จะไม่ทำในสิ่งที่ผิด
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สรุปสาระสำคัญของการสนทนาธรรม
ที่บ้านธัมมะ ลำพูน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐
_____________________
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค่อยๆ นำไปสู่ความเป็นธรรมที่ไม่ใช่เรา
~ สัญญา (ความจำ) เป็นธรรม ไม่ใช่เรา เพราะเป็นธรรมที่เกิดกับจิตทุกขณะ
~ จิตเกิดเมื่อไหร่ มีสภาพธรรมที่เป็นความจำเกิดกับจิตทุกครั้ง จิตรู้อารมณ์ (สิ่งที่จิตรู้) อะไร สัญญาก็จำในอารมณ์นั้น
~ คิดดีหรือไม่ดี ไม่ใช่ผลของกรรม แต่เป็นการสะสม
~ ความติดข้อง (โลภะ) รู้ว่าไม่ดี แต่เกิดเพราะอะไร? เพราะธรรม เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เกิดเพราะเหตุปัจจัย
~ บุญ เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม ที่ชำระจิตให้สะอาดปราศจากอกุศล เป็นธรรม เป็นนามธรรม
~ กำลังฟังพระธรรม เป็นบุญหรือเปล่า? เป็นบุญในขณะที่เข้าใจ
~ งาที่คั่วยังไม่สุก ใครจะให้สุกได้ไหม? ไม่ได้, กรรมที่ได้กระทำแล้ว ก็เช่นเดียวกัน เมื่อยังไม่ถึงกาลเวลาที่จะให้ผล ผลก็ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้
~ ขอบรรลุมรรคผลนิพพาน ความไม่รู้ ทำให้ไม่รู้ว่าขอใคร ชินกับการขอ แต่ไม่รู้ว่าขอใคร เพราะฉะนั้น สิ่งใดก็ตามที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ไม่สามารถที่จะเป็นบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ได้เลย
~ ความไม่รู้ ทำให้เป็นนักตาม ไม่มีเหตุผลใดใดเลย มีคนทำก่อน ก็ทำตามๆ กัน แต่ก่อนไม่ได้มีการบวชชีพราหมณ์ แต่พอมีการบวชชีพราหมณ์ ก็ทำตามๆ กัน (ด้วยความไม่รู้)
~ หลงทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องทั้งหลาย เพราะความไม่รู้
~ พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งเปิดเผยยิ่งรุ่งเรือง ถ้าใครก็ตามไม่ได้ฟังธรรมเลย พระศาสนารุ่งเรืองหรือเปล่า?
~ ถ้าเป็นอกุศล ก็ไม่ใช่บุญ ถ้าเป็นกุศล (ดีงาม) ก็ชำระจิตที่ไม่ดีงาม เพราะขณะนั้น เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต) ที่ดีงาม เกิดขึ้น ทำให้จิตสะอาดปราศจากอกุศล
~ ถ้าเข้าใจจริงๆ จะมีสำนักปฎิบัติไหม? มีสำนักปฏิบัติไม่ได้เลย เพราะไม่มีในสมัยพุทธกาล ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านก็เป็นมหาเศรษฐี ท่านก็ไม่ได้สร้างสำนักปฎิบัติ แต่สร้างพระวิหารต่างๆ เช่น พระวิหารเชตวัน สร้างเป็นที่อยู่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุทั้งหลาย
~ สำนักปฎิบัติ เป็นที่อยู่ของใคร? เป็นที่อยู่ของผู้ไม่รู้แน่นอน ผู้หลงเข้าใจผิด และทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย
~ ขณะใดที่ไม่เป็นไปด้วยความอยาก แต่เป็นไปด้วยความเห็นที่ถูกต้อง ขณะนั้นเป็นบารมี
~ เมื่อบวชแล้ว ไม่ศึกษาธรรมและไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ก็ยิ่งเป็นโทษ
~ ถ้าไม่เข้าใจธรรมเลย ไม่เห็นประโยชน์ของธรรมเลย จะมีการบวชเป็นภิกษุ สามเณร ไหม?
~ คำแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีประโยชน์มาก
~ ไม่มีความเข้าใจธรรมเลย เป็นพระหรือเปล่า เป็นผู้ประเสริฐหรือเปล่า เป็นภิกษุในธรรมวินัยหรือเปล่า? ไม่เข้าใจธรรมเลย แต่บวช เป็นบาปหรือเป็นบุญ?
~ ใครที่ส่งเสริมให้ใครบวชโดยที่เขาไม่เข้าใจธรรมเลย เป็นบาปหรือบุญ? ตัวเองไม่รู้ แล้วยังส่งเสริมให้คนอื่นเห็นผิด ให้ไม่รู้ ไม่มีทางที่จะเป็นบุญได้เลย แต่เป็นบาป
~ พระศาสนามาจากใคร บริสุทธิ์อย่างยิ่งอย่างไร เพื่อคุณประโยชน์มากมายอย่างไร ถ้าไม่รู้อย่างนี้ แต่บวชเพียงเพื่อต้องการให้เต็มจำนวน เป็นบุญหรือเปล่า หรือว่าเป็นบาป?
~ มีความต่างกันตรงไหนสำหรับบรรพชิตที่ไม่ได้ศึกษาธรรม ไม่เข้าใจธรรม ไม่ศึกษาพระธรรมวินัย จะใช้คำว่าร้ายหรือเลวยิ่งกว่าชาวบ้านก็ได้ เพราะว่าชาวบ้าน เปิดเผยว่า เขาเป็นคฤหัสถ์ เขาไม่ได้บอกใครว่าเขาเป็นเพศที่ศึกษาธรรม ขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตตามพระธรรมวินัย ไม่ได้ประกาศตนว่าเป็นพระภิกษุ ผู้ที่เป็นพระภิกษุต้องมีความประพฤติตามพระธรรมวินัย ไม่อย่างนั้นบวชทำไม?
~ บวชแล้วยังต้องศึกษาพระธรรม และประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ทุกอย่าง เป็นการขัดเกลากิเลส พระภิกษุในครั้งโน้นอยู่ด้วยความผาสุกทุกข้อตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ แต่สมัยนี้ภิกษุประพฤติปฏิบัติตามอย่างนั้นได้ไหม?
~ การบวช เป็นการยากอย่างยิ่ง แม้เป็นคฤหัสถ์ก็สามารถที่จะฟังธรรม ศึกษาธรรมได้ ขัดเกลากิเลสได้
~ มีความเข้าใจถูกและมีความเป็นมิตรที่ดี ที่จะให้ผู้อื่นได้มีความเข้าใจถูกด้วย เป็นบารมีหรือเปล่า? เป็นเมตตาบารมี ไม่หวังร้ายต่อใครเลยทั้งสิ้น พูดคำจริงเพื่อประโยชน์ เพื่อเขาจะได้ไม่เป็นบาป เพื่อจะได้ไม่ชักชวนกันทำบาปกันทั่วประเทศ
~ บวชด้วยการจ้างให้บวช บวชด้วยการที่ผู้นั้นไม่มีความประสงค์ที่จะบวช หรือไม่มีความเข้าใจในพระธรรมวินัยเลย การบวชทั้งหมด เป็นการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น การรับเงินทอง ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นพระภิกษุ เพราะเหตุว่า ภิกษุเป็นผู้ที่สละอาคารบ้านเรือน เพราะเห็นภัยในสังสารวัฏฏ์
~ ภิกษุเป็นผู้ที่คฤหัสถ์ควรเคารพกราบไหว้ในชีวิตที่ประเสริฐเพราะสามารถที่จะสละชีวิตอย่างคฤหัสถ์ได้ แต่ถ้าภิกษุใดไม่เป็นอย่างนี้ เป็นภิกษุหรือเปล่า? ถ้าไม่เป็นภิกษุ เป็นอะไร? เป็นมหาโจร เป็นอลัชชี (ผู้ไม่มีความละอาย) เป็นต้น
~ ผู้ที่มีความเข้าใจและหวังดี ก็จะกล่าวคำตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เพื่อให้คนที่ได้ฟัง ได้มีความเห็นที่ถูกต้อง
~ เมื่อมีความเห็นที่ถูกต้อง (ปัญญา) แล้ว ปัญญาจะทำสิ่งที่ผิดได้ไหม? (ไม่ได้) เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่ยังทำสิ่งที่ผิด ขณะนั้น ไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้อง.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...