ความเชื่อเรื่องไม่ควรถมดินกลบบ่อน้ำ และเรื่องไม่ย้ายจอมปลวก
แถวบ้านมีความเชื่อเป็นอย่างมากเรื่องหากมีบ่อน้ำในที่ดิน ห้ามไม่ให้ฝังกลบบ่อน้ำนั้นเพราะไม่ดี (ไม่มีเหตุผลรองรับ) อาจจะเป็นที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภพภูมิอื่นสิงสถิตอยู่ (บางทีต้องให้พระมาสวดถอน) ในส่วนของจอมปลวกก็เช่นกันไม่ให้ขุดออก บางคนถึงกับไปไหว้ จึงอยากขอความเข้าใจ ความเห็นถูกครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การจะได้รับสิ่งที่ดี ได้รับผลของกรรมที่ดี ต้องมีเหตุ ดังนั้นเหตุที่จะได้รับสิ่งที่ดีที่เป็นผลของกรรมดี ได้รับการช่วยเหลือ เป็นต้น เพราะกรรมดีที่เป็นกุศลกรรมที่ได้ทำมา ให้ผลนั่นเองครับ ดังนั้นจึงไม่ใช่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือดลบันดาล ให้เราได้รับสิ่งที่ดี หากไม่มีกรรมดีที่ทำมาแล้ว ก็จะไม่มีทางได้รับสิ่งที่ดีได้เลย เพราะการช่วยเหลือหรือการได้รับสิ่งที่ดี ที่เป็นผลของกรรมดี เหตุจะต้องตรงกับผลคือเกิดจากการกระทำที่ดีนั่นเองที่เป็นเหตุครับ
ดังนั้น สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถที่จะมีใคร มีสัตว์ บุคคล บันดาลให้ ไม่มี เพราะมีแต่ สภาพธรรม ที่เป็น จิต เจตสิก และรูปที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีสัตว์ บุคคล เมื่อไม่มีสัตว์ บุคคล ก็ไม่มีใครบันดาลและไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัตว์ บุคคลด้วย เพราะฉะนั้น ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ที่เป็นไปตามสัจจะ ความจริง ศักดิ์สิทธิ์ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ทำดีก็ย่อมได้รับผลดี ทำชั่วก็ได้รับผลชั่ว การได้รับการช่วยเหลือ ได้รับสิ่งที่ดี ก็เพราะการทำดีเป็นปัจจัยนั่นเองครับ ดังนั้น กรรมต่างหากที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะแม้เทวดา พรหมที่คิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่พ้นไปจากกรรม และตัวเทวดาเองและพรหมเอง ก็ต้องได้รับผลของกรรมที่ตัวเองทำมา ไม่สามารถบันดาลให้ตัวเองไม่ตาย ได้รับผลของกรรมดีได้ตลอด เพราะเป็นไปอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของกรรม ไม่ใช่เพราะของตัวเองครับ จึงไม่ใช่พรหมลิขิต ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัตว์ บุคคล แต่เป็นกรรมลิขิต คือ สัตว์ทั้งหลายเป็นไปตามกรรม ครับ
คำว่า ศักดิ์สิทธิ์ โดยทั่วไปหมายถึง สิ่งน่าควรศรัทธา น่าเชื่อถือ และนำมาซึ่งสิ่งที่ควรได้ ซึ่งในพระไตรปิฎกก็มีใช้คำนี้เช่นกันครับ
แสดงโดย ใช้กับความเห็นผิดที่มีคนบูชา จอมปลวก ต้นไม้ ที่สำคัญว่า ศักดิ์สิทธิ์ คือ น่าเลื่อมใส น่าเคารพ และจะนำสิ่งที่ดีๆ มาให้ เพราะในความเป็นจริง ต้นไม้ จอมปลวก ไม่รู้อะไรเลย ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำมาซึ่งความเลื่อมใส น่าศรัทธา และจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีๆ ที่ได้ตามปรารถนา ครับ นี่คือ การแสดงโดยนัย ความศักดิ์สิทธิ์ประการหนึ่ง ที่ใช้ในความเห็นผิดในพระไตรปิฎก
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ 436
เหมือนอย่างที่ว่า จอมปลวก พระเจดีย์ และต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น คนบางพวกบูชาด้วยดอกไม้ของหอม ธูปและผ้า เป็นต้น
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เพราะมากไปด้วยความไม่รู้ สะสมความเห็นผิดไปทีละเล็กทีละน้อย เป็นผู้ไม่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จึงทำให้มีการยึดถืออย่างอื่นเป็นที่พึ่ง ถือมงคลตื่นข่าว โดยยึดถือผิดว่าสิ่งที่ตนเองยึดถือนั้น จะเป็นที่พึ่งช่วยให้เกิดในสิ่งที่ดี ให้พ้นภัยอันตรายต่างๆ เป็นต้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วจะเป็นที่พึ่งไม่ได้เลย นอกจากจะเพิ่มความไม่รู้ เพิ่มความเห็นผิด และ กิเลสประการต่างๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ที่ยังมีการเชื่อถืออย่างนั้น ก็เพราะไม่ได้เข้าใจความจริง ถ้าเข้าใจว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของของตน ไม่มีสิ่งใดที่จะดลบันดาลทำให้สิ่งที่ดีหรือไม่ดี เกิดขึ้นกับตนเองได้ นอกจากเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้วเท่านั้นถึงคราวให้ผล ก็จะทำให้ไม่ไปงมงายในสิ่งเหล่านั้น พร้อมทั้งมีความจริงใจที่จะฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสทั้งหลาย มีความเห็นผิด และความไม่รู้ เป็นต้น
แต่ละคนมีการสะสมมาที่แตกต่างกัน คนที่เห็นผิด งมงาย ไม่ได้มีเฉพาะในยุคนี้สมัยนี้เท่านั้น เป็นมาแล้วทุกยุคทุกสมัย แต่เราจะไม่เป็นอย่างนั้น แต่จะเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป และไม่ประมาทในการเจริญกุศลในชีวิตประจำวัน กล่าวโดยสรุปได้ว่า ควรที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สะสมกุศล ต่อไป ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...