การนึกคิดกับการระลึกและการรู้สึกต่างกันอย่างไร
เรียน ท่านวิทยากร
ขอเรียนถามว่าการนึกคิดกับการระลึกและการรู้สึกต่างกันอย่างไร
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่สติระลึกรู้ หรือ สติปัฏฐาน คือ ขณะที่สติและปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรม ในขณะนั้น ในปัจจุบันขณะ มีปรมัตถ์ เป็นอารมณ์ ไม่ใช่มีเรื่องราว บัญญัติเป็นอารมณ์ ต่างกับการคิดนึก ที่ นึกถึงสภาพธรรมที่ดับไปแล้ว เป็นอารมณ์ หรือ มีบัญญัติเป็นอารมณ์ไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมในขณะนั้นครับ
ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายท่านอ.สุจินต์ที่นี่ ครับ
ขั้นคิดพิจารณากับขั้นสติปัฏฐานต่างกัน
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงๆ คือ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่ว่าพ้นไปจากสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ นั้น เป็นที่ตั้งให้สติปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตามความเป็นจริงได้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ได้ ซึ่งจะต้องอาศัยเหตุที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ จนมั่นคงจริงๆ เพราะระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง นั้น ไม่ใช่เพียงคำพูด และ ไม่ใช่การคิดนึก (เพราะคิดนึก ก็คือ คิดเรื่องราวต่างๆ ไม่ใช่การรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงในขณะนั้น) แต่เป็นการที่ไม่ว่าจะสภาพธรรมที่เกิดปรากฏ ก็สามารถรู้ตามความเป็นจริง ไม่ผิด ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ส่วนความรู้สึก เป็นเวทนา เกิดกับจิตทุกขณะ ตามควรแก่จิตขณะนั้นๆ
หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ยาก และยาวนาน เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ ฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
นึกคิดกับระลึกต่างกัน เช่น ระลึกตรงลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้เป็นนามธรรมหรือรูปธรรม ยากตรงที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ใช่เราคิดนึกค่ะ