เวลาที่เหมาะสมคือเมื่อไหร่ นี่เราทำกรรมอะไรมา

 
Arisa Namfon
วันที่  12 ก.ย. 2560
หมายเลข  29172
อ่าน  1,640

สวัสดีค่ะ หนูศรัทธาในพระพุทธองค์ และศึกษาพระธรรมคำสั่งสอน ปฏิบัติบูชา พยายาม ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงโดยหวังว่าสักวันนิสัยเสียๆ เหล่านี้จะหมดสิ้นไปไม่เหลือ ไม่กลับมาทำอีก แต่ชาตินี้ยังหวังเพียงแค่ขอให้เป็นผู้ที่มีทุกข์น้อย เพราะหนูยังไม่สามารถออกจากทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิงยังมีกิเลสอยู่มาก หวังเป็นเพียงแค่ฆราวาสที่ดีเท่านั้น หนูศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับความรักคือความทุกข์มามากแต่ก็ไม่อาจตัดได้จริงๆ เรื่องอื่นพอตัดได้ค่ะ พวก อำนาจ เงินทอง สังขารอะไรพวกนี้แต่หนูไม่อาจตัดความรักความคิดถึงได้จริงๆ จึงหวังเพียงแค่ถ้าชาตินี้มีคู่ครองก็จะใช้ธรรมะในการครองเรือน ปฏิบัติต่อกันดีๆ ขอให้เป็นผู้ที่มีทุกข์น้อยก็พอ หนูจึงมีคำถามอยากมาถามค่ะ

ทำไมคนเราถึงมีคู่ครองในเวลาต่างกันมากคะ บางคนเจอกันช้ามาก กว่าจะได้เจอกันต้องทนทุกข์ทรมานกับการรอคอยกัน แล้วหลายๆ คนก็เคยพูดว่า "มันยังไม่ถึงเวลา" แล้ว"เวลาที่เหมาะสม" มันคือตอนไหนคะ แล้วเราทำกรรมอะไรมาคะถึงต้องทรมานกับการรอคอยใครสักคนขนาดนี้ (ไม่ใช่ใครก็ได้ แต่เป็นคนที่จิตห่วงหาอาวรณ์) แล้วถ้าจะไม่ได้เจอกัน ไม่สมหวังไปเลยตลอดชีวิต มันเกิดจากกรรมอะไรคะ พอจะทำให้กรรมนั้นเบาบางลงบ้างได้ไหม เคยอ่านมาบางที่บอกว่าที่อาการเป็นแบบนี้เพราะจะได้เจอคู่แท้จริงหรือไม่อย่างไรคะ

ผลย่อมขึ้นตรงแก่เหตุ มันผ่านมาแล้วถ้าชาติก่อนไม่ได้ทำบุญร่วมกันไม่ได้อยู่ร่วมกันด้วยดีมาก่อน มีศีลมีธรรมเสมอกันมาคงจะเจอกันยากใช่ไหมคะ หนูทำอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหมคะไม่อยากทำอะไรที่มันเป็นมิจฉาทิฏฐิค่ะ ได้แต่หวังว่าถ้าบุญของเรายังมีอยู่คงจะได้พบกัน

* * * ใครไม่เป็นก็ไม่เข้าใจ หนูทรมานกับการรอคอยจริงๆ ค่ะ โปรดเมตตาตอบตามอัธยาศัยด้วยค่ะ หนูปฏิบัติได้แค่นี้จริงๆ ด้วยความเคารพค่ะ

ขอบคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 20 ก.ย. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพรภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตราบใดที่ยังมีโลภะอยู่ โลภะก็เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น จะห้ามไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะเป็นธรรมที่ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่มีจริง แต่ปัญญา สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริงได้ ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา

ข้อที่น่าพิจารณา คือ ไม่ได้สำคัญอยู่ที่การมีคู่ครอง หรือ การไม่มีคู่ครอง แต่สำคัญอยู่ที่ได้กระทำตนให้คุ้มค่ากับการได้เกิดมาเป็นมนุษย์หรือยัง ชีวิตของแต่ละบุคคลเป็นไปตามการสะสมไม่เหมือนกัน และไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การสะสมความดีพร้อมทั้งอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เพราะกุศลธรรมเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งในชีวิตได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่อย่างอื่น การเดินทางในสังสารวัฏฏ์ยังอีกยาวไกล ชีวิตในสังสารวัฏฏ์ยังไม่จบลงเพียงแค่ชาตินี้ยังต้องมีการเกิดอีกต่อไป ในชาตินี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ มีโอกาส ที่จะเจริญกุศลได้ทุกอย่าง จึงไม่ควรที่จะประมาทในชีวิต เพราะในที่สุดแล้วก็จะต้องละจากโลกนี้ไป ช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้จึงเป็นเวลาที่มีค่าที่จะได้สะสมความดีและ อบรมเจริญปัญญาต่อไป ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 2 พ.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 21 พ.ย. 2560

ความติดข้องหรือความทุกข์ทั้งหลายก็มาจากความไม่รู้ ถ้าจะดับความทุกข์ก็ต้องดับความไม่รู้ก่อน เพราะไม่มีอะไรมีค่าและประเสริฐที่สุดในชีวิตเท่ากับการได้ฟังธรรมแล้วเข้าใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ