ถ้าไม่ได้อาศัยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ผิดตั้งแต่ต้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประมวลสาระสำคัญของการสนทนาธรรม
ที่ห้องประชุมปิยราชา โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ราชบุรี
วันพุธที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๐
~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ไม่ง่าย แต่ลึกซึ้งมาก แต่ก็สามารถที่จะเริ่มเข้าใจให้ถูกต้องได้ตามลำดับ เพราะเหตุว่าพระธรรมกว่าที่ใครๆ จะเข้าใจได้ ไม่ใช่เพียงฟังครั้งเดียวแล้วก็สามารถที่จะเข้าใจได้ทุกคำ แต่ว่าทุกคำที่เกิดจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลึกซึ้งและก็มีอยู่เดี๋ยวนี้ เพราะฉะนั้น การฟังพระธรรมก็เพื่อเข้าใจให้ถูกต้องในความเป็นจริงของธรรม
~ ทุกคนมีเพื่อน หวังอะไรจากเพื่อน หรือว่า ควรจะเป็นเพื่อนให้เขาหวัง (พึ่ง) ?
~ มิตร หมายถึงความเป็นเพื่อน ความเป็นเพื่อนไม่ใช่ศัตรู คำว่าเพื่อนมีความหมาย ว่า หวังดีพร้อมที่จะเกื้อกูล เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่เป็นมิตรกับเรา เขาหวังดีต่อเรา และเวลาที่เราเป็นมิตรกับใคร ก็หวังดีกับคนที่เราเป็นมิตรด้วยแน่นอน
~ สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้ ลองคิดดูว่าจะให้อะไรดี? ให้ทรัพย์สินเงินทองให้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เพียงชั่วคราวที่เขาสามารถที่จะใช้สอยได้ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งที่ดีกว่านั้นซึ่งใครๆ ก็ให้ไม่ได้นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อเป็นกัลยาณมิตรของทุกคนที่จะมีโอกาสได้ยินได้ฟังคำของพระองค์ซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่มีจริง การมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือการได้เข้าใจความจริงของชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายซึ่งใครๆ ก็ไม่สามารถที่จะให้ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และให้สิ่งที่ดีที่สุดกับทุกคน ด้วยคำที่พระองค์ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษาเพื่อที่จะได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง
~ ได้อะไรจึงจะดีที่สุด? ได้เข้าใจความจริง
~ ประโยชน์จริงๆ คือได้เข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งลึกซึ้งอย่างยิ่งและก็มีประโยชน์ที่สุด เพราะเหตุว่าสามารถที่จะสะสมความเห็นถูกความเข้าใจถูกจากแต่ละคำ จากชาติหนึ่งไปอีกชาติหนึ่งจนกว่าจะประจักษ์แจ้งความจริง
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปรียบเหมือนมหาสมุทร ซึ่งลุ่มลึกไปตามลำดับ ซึ่งจะต้องเข้าใจตามลำดับ ข้ามขั้นไม่ได้
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแสงสว่าง ส่องทาง นำทางไปสู่ความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงในขณะนี้
~ พุทธะคือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เข้าใจถูก เพราะฉะนั้น ถ้า (กล่าวว่า) เป็นชาวพุทธ แต่ไม่รู้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอะไร ก็ไม่ใช่ชาวพุทธ เพราะไม่รู้
~ แสงสว่าง คือ พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำพาไปสู่ทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าเข้าใจผิดไม่เข้าใจอย่างถูกต้อง ก็ถูกนำไปด้วยอำนาจของความไม่รู้และความติดข้อง
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เพื่อให้รู้ความจริง
~ ชาติหน้าจะเกิดเป็นอะไร ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้เลย ชาติก่อนมาจากไหน ก็ไม่รู้ ชาติต่อไปจะไปไหนก็ไม่รู้ แต่เป็นคนนี้ได้ชาตินี้ การมีชีวิต จะสั้นจะยืนยาว มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีใครบอกได้เลยเพราะฉะนั้น เป็นคนในชาตินี้ ที่ดีที่สุด ดีไหม? หรือว่า เป็นคนเลวๆ โกงกินสารพัด ทุจริต อย่างนั้น ดีไหม? ไม่ดี
~ ขณะใดอะไรก็ตาม ที่จิตมีเจตสิก (ธรรมที่เกิดประกอบกับจิต) ที่ไม่ดีเกิดขึ้นร่วมด้วย ขณะนั้นจิตก็เป็นอกุศล
~ เต็มไปด้วยอกุศล (หนักอึ้ง) ก็เป็นเหตุนำไปสู่อบายภูมิ
~ เจตสิกฝ่ายที่ดีเท่านั้นที่จะทำให้เจตสิกฝ่ายที่ไม่ดีลดน้อยลงไปได้
~ ปัญญาเป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูกต้อง เพราะฉะนั้น ปัญญา รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดี ปัญญาจะเลือกทำสิ่งที่ไม่ดีหรือ?
~ ทั้งหมดดีขึ้น ถูกต้องขึ้น ชำระจิตให้สะอาดขึ้น ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
~ ต้องเป็นผู้ตรง ถึงจะได้สาระจากพระธรรม และเป็นสัจจบารมีด้วย เพราะถ้าไม่ตรงต่อสภาพธรรมไม่มีทางที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมได้
~ อกุศลเป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี จะเกิดพร้อมกันกับกุศลไม่ได้ และในขณะที่กุศลเกิดขึ้นจะเกิดพร้อมกันกับอกุศลไม่ได้ เพราะฉะนั้น กุศลกับอกุศลปรองดองกันไม่ได้
~ บุญ หมายถึง สภาพธรรมที่ดีงาม เป็นเครื่องต้านทานผู้ไปสู่ปรโลก (โลกหน้า) ไม่ให้ไปเกิดในอบายภูมิ เพราะว่าบุญเป็นธรรมที่ดีงาม ไม่สามารถนำมาซึ่งผลที่ไม่ดีได้เลย และบุญก็เป็นสภาพธรรมที่ซ่อนเร้นจากภัย ในขณะที่บุญเกิดขึ้นไม่นำมาซึ่งทุกข์โทษภัยใดๆ เลย
~ ธรรม หมายถึง สิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่ง แล้วจะเป็นใครได้อย่างไร
~ บ่น ทำไม ไหนๆ ก็จะพูดทั้งที พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์จะไม่ดีกว่าหรือ?
~ ความไม่รู้ เป็นกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) และตราบใดที่ยังมีกิเลส ก็ยังมีเหตุปัจจัยให้อกุศลธรรมเกิดขึ้น
~ ความเข้าใจพระธรรม จะทำให้เป็นผู้ที่ละเอียดขึ้นในทุกๆ เรื่อง
~ ยิ่งฟังยิ่งรู้ว่า ตราบใดที่ยังมีกิเลส กิเลสนั่นแหละที่เป็นเหตุให้ทำอกุศลกรรมประการต่างๆ ตามกำลังของกิเลส
~ หนทางเดียวที่จะทำให้คนเป็นพลเมืองที่ดี คือ ให้เขาได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก เพราะความเข้าใจถูกเห็นถูก นี้แหละ จะนำไปสู่ทางที่ดียิ่งขึ้น
~ พระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีใครเสมอเหมือน ผู้ที่เป็นพระสาวกเช่นพระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ เป็นต้น ถ้าไม่ได้ฟังคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่มีโอกาสถึงความเป็นพระอริยบุคคลได้
~ ความดี ทำได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดทั้งสิ้น
~ สังฆรัตนะ ไม่ใช่ภิกษุปุถุชน แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ถึงความเป็นพระอริยบุคคลในฐานะที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์เป็นสังฆรัตนะ
~ ถ้าไม่ได้อาศัยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ผิดตั้งแต่ต้น
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน...
กราบเท้าอาจารย์สุจินต์ที่เคารพอย่างสูง กราบขออนุโมทนาสาธุค่ะ