บทสวดมนต์ - เข้าใจถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า

 
อัญชิสา
วันที่  28 ก.ย. 2560
หมายเลข  29215
อ่าน  2,412

กราบเรียนถามอาจารย์ คะ

ดิฉันอยากทราบว่า บทสวด อิติปิโส ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี่ถูกต้องหรือยัง คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 ก.ย. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บทที่กล่าวถึงนั้น ไม่ผิด ถูกต้อง แต่สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกจากการมีโอกาสได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้น ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลา สี่อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก พระคุณของพระองค์นั้นมีมากมาย ดังที่ปรากฏในบทสรรเสริญพระพุทธคุณที่ว่า

อิติปิ โส ภควา (แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น)

อรหัง (ทรงเป็นพระอรหันต์ ผู้ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง)

สัมมาสัมพุทโธ (ทรงเป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ไม่มีใครเป็นครูอาจารย์)

วิชชาจรณสัมปันโน (ทรงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชา (ความรู้แจ้ง) และ จรณะ (จรณะ หมายถึง เครื่องดำเนิน มี ๑๕ ประการ คือ ถึงพร้อมด้วยศีล สำรวมอินทรีย์ มีความเพียร รู้จักประมาณในโภชนะ ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการ ได้แก่ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ (สดับตรับฟังพระธรรม) วิริยะ สติ ปัญญา ฌาน ๔) ที่สูงสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย)

สุคโต (ทรงเป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว)

โลกวิทู (ทรงรู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง ทรงรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง)

อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ (ทรงเป็นสารถีผู้ฝึกบุรุษที่สมควรฝึก อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า)

สัตถา เทวมนุสสานัง (ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย)

พุทโธ (ทรงเป็นผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว)

ภควา (ทรงเป็นผู้จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์)

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นบุคคลที่เสมอกับบุคคลที่ไม่มีใครเสมอ นั่นก็คือ ทรงเสมอกันกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ การจะอธิบายให้เห็นว่าพระคุณของพระองค์มีมากมากเพียงใดนั้น ท่านแสดงไว้ว่า ในระยะเวลาหนึ่งกัปป์ ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นเลย กล่าวสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า เพียงอย่างเดียว หนึ่งกัปป์ดังกล่าวนั้นสิ้นไปก่อนแล้ว แต่พระคุณของพระองค์ ก็ยังกล่าวสรรเสริญไม่หมด

พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อประมวลแล้วสรุปรวมลงใน ๓ ประการ คือ

พระบริสุทธิคุณ (ทรงดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ทรงมีความบริสุทธิ์ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ)

พระปัญญาคุณ (ทรงมีพระปัญญาที่รู้สภาพธรรมทุกอย่างไม่มีเหลือ)

พระมหากรุณาคุณ (ทรงมีพระทัยประกอบด้วยเมตตาเกื้อกูลสัตว์โลก ด้วยการแสดงพระธรรม ในแต่ละวัน พระองค์ทรงพักผ่อนน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง)

บุคคลผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง จึงมีการฟัง มีการศึกษา สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ เมื่อศึกษาเข้าใจความจริงแล้ว ย่อมจะมีความซาบซึ้งมากขึ้นในพระคุณของพระพุทธองค์ ทั้งพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ และ พระมหากรุณาคุณ ตามปัญญาของตนเอง ผู้ที่ขาดการฟัง ขาดการศึกษา ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ย่อมไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าได้เลยแม้แต่นิดเดียว

... อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 7 ต.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
kukeart
วันที่ 7 ต.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 7 ต.ค. 2560

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
p.methanawingmai
วันที่ 9 ต.ค. 2560

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สุณี
วันที่ 24 ต.ค. 2560
ขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ