ขอเรียนถามอาจารย์เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติมครับ
ผู้ที่เข้าใจคำสอนที่ถูกต้องเท่านั้น ก็ต้องมีความเมตตา มีความหวังดีและมีความอดทนที่จะให้คนอื่นที่เขากำลังเข้าใจผิด ไม่เข้าใจธรรม ได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ปรารถนาดีกับมิตร ที่จะให้ความเห็นถูกความเข้าใจถูก ตามกำลังปัญญาของผม แต่เพื่อนของผมบอกว่า เธอไม่บอกคนอื่นด้วยละคนอื่นจะได้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นผิด เค้าจะได้เข้าใจกัน เธอบอกฉันคนเดียว ฉันจะรู้คนเดียวนะ ไม่บอกคนอื่นด้วยหรอ เค้าก็เป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกันนะ ในความเข้าใจของผมพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่เกื้อกูลของสัตว์โลกทั้งหมดไม่เว้นเลย แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าถึงทุกคน ซึ่งเพื่อนก็ควรจะเกื้อกูลบุคคลที่อยู่รอบๆ ตัวก่อน ให้เข้าใจถูกก่อน ตามกำลังที่จะให้ได้ และเหลือสิ่งอื่นใด คือ คนที่เราให้นั้นจะเห็นประโยชน์หรือสะสมมาก่อนหรือไม่ ถ้าเรากล่าวสิ่งที่ถูกต้องเค้าจะฟัง เค้าจะโกรธ เค้าจะว่าเรา เราก็เข้าใจได้ว่าเค้าไม่ได้สะสมเหตุที่จะฟังมาก่อนก็เท่านั้น เราไม่ต้องไปเดือดร้อน เพราะเป็นไปตามการสะสมของแต่ละคน แต่ไม่ใช่ไปเที่ยวบอกใครต่อใครว่าอันนี้ผิด ไม่ถูกต้อง แต่ต้องรู้กาลเทศะด้วยในกล่าวแต่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพยิ่ง แต่ถ้าเห็นเหตุว่าสมควรที่จะกล่าวก็ควรที่จะกล่าวให้บุคคลอื่นได้เข้าใจให้ถูกต้องด้วย เพราะมิตรไม่ใช่แค่เพื่อนเราอย่างเดียว แต่หมายถึงใครก็ได้ แต่อยู่ที่ความเหมาะสม ผมคิดถูกต้องไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเห็นถูก เป็นสภาพธรรมที่มีจริง คือ ปัญญา ที่จะต้องเป็นเรื่องของการสะสมมาแล้วในอดีต เพราะฉะนั้น เสียงในโลกมีมากมาย แต่เสียงที่ทำให้เกิดปัญญา ความเห็นถูกมีอยู่ คือ เสียงของพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ แต่ผู้ที่ไม่ได้สะสมปัญญา สะสมความเข้าใจมา ก็ย่อมที่จะไม่สนใจในเสียงนั้น ในเรื่องนั้น แต่กลับไปสนใจในเรื่องที่ไม่มีสาระ ไม่มีประโยชน์ ซึ่งหากมองตามความเป็นจริงก็ไม่มีใครที่สนใจ หรือ ไม่สนใจ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เป็นจิต เจตสิก ที่่สะสมมาแตกต่างกันไป สะสมปัญญา สะสมความเห็นถูก หรือ สะสมอกุศล สะสมความเห็นผิด ชีวิตจึงแตกต่างกันไป ความสนใจของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ตามการสะสมของจิตที่แตกต่างกัน แม้เรื่องราวของท่านพระสารีบุตรเถระในอดีตที่ปรากฏในชาดก ท่านได้เคยพยายามแนะนำคนที่ทุศีล ให้มีศีล ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะธรรมไม่สาธารณะนั่นเอง ซึ่งแสดงว่า เราไม่สามารถทำให้แผ่นดินทั้งหมดราบเรียบเสมอเหมือนกันหมดได้ เพราะบางแห่งก็มีหลุมมีบ่อ เป็นเนินฉันใด แม้เราก็ไม่สามารทำให้คนทุกคน สนใจธรรม หรือ ให้เป็นอย่างที่ใจเราคิด ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคําจริง เป็นคําอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เข้าใจถูก เห็นถูกตามความเป็นจริง เกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์ ที่กว่าจะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ต้องบําเพ็ญพระบารมีสะสมคุณความดีประการต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ พระบารมีที่พระองค์ทรงบําเพ็ญมาทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสในที่สุด จะเห็นได้ว่าเมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนพุทธบริษัทบ่อยๆ เนืองๆ ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาพระองค์จวนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พระธรรมมีประโยชน์มาก ทําให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสจนกว่า กิเลสจะดับหมดสิ้นไป
พระธรรมจึงเป็นประโยชน์สําหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้นซึ่งเป็นผู้มีศรัทธาเห็นประโยชน์ของพระธรรมได้ยินได้ฟังมาแล้วในอดีต ส่วนบุคคลผู้ที่ไม่ได้สะสมบุญมาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม พระธรรมย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าสําหรับเขา ซึ่งจะตรงกับคําที่ว่า “พระธรรม ไม่สาธารณะกับทุกคน” อย่างแท้จริง ประการที่สําคัญที่ควรจะตระหนักอยู่เสมอ คือเราไม่สามารถทําให้คนทุกคนหันมาเป็นผู้สนใจ ศึกษาพระธรรมเหมือนกันหมด หรือ ไม่สามารถทําให้ทุกคนดําเนินชีวิตเป็นไปอย่างที่เราคิดได้ เพราะเป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้ว กิจที่ควรทําสําหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็คือจะต้องมีความอดทน มีความเพียร มีความจริงใจที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป ไม่ละเลยโอกาสที่สําคัญในชีวิตที่จะทําให้ตนเองได้เข้าใจถูกเห็นถูกในธรรมตามความเป็นจริงซึ่งเป็นขณะที่ประเสริฐ และหายากเป็นอย่างยิ่ง ครับ
ประทับใจมากๆ กับคลิปวีดีโอนี้ "กัลยาณมิตรสูงสุด"
ขอเชิญคลิกชมได้ที่นี่ครับ
... อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...