สิ่งที่เรียกว่าโลกว่างเปล่า [สุญญสูตร]
[เล่มที่ 28] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 104
๒. สุญญสูตร
ว่าด้วยสิ่งที่เรียกว่าโลกว่างเปล่า
[๑๐๒] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ ฯลฯ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่าโลกว่างเปล่าๆ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอจึงเรียกว่า โลกว่างเปล่า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนอานนท์ เพราะว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน ฉะนั้น จึงเรียกว่า โลกว่างเปล่า อะไรเล่าว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน.
จักษุแลว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
รูปว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
จักษุวิญญาณว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
จักษุสัมผัสว่างเปล่าจากตน หรือจากของๆ ตน
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน ฯลฯ
ใจว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
ธรรมารมณ์ว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
มโนวิญญาณว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
มโนสัมผัสว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ว่างเปล่าจากตน หรือจากของๆ ตน
ดูก่อนอานนท์ เพราะว่างเปล่าจากตนหรือจากของๆ ตน ฉะนั้นจึงเรียกว่าโลกว่างเปล่า.
จบ สุญญสูตรที่ ๒
โลก, ดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์ หรือ Earth Sun Moon ล้วนสมมติอยู่เท่านั้น ถ้าไม่มีการสมมติเกิดขึ้น มันก็ว่างเปล่าอยู่เท่านั้น คือ มันเกิดจากการยึดมั่นของเราเอง ถ้าไม่ยึดมั่น มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น การยึดมั่นคือเหตุทำให้เกิดทุกข์ แม้ตัวเราก็เกิดจากการยึดมั่นนี่เอง จึงมองให้เห็นความจริงนี้
"ว่าง" ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไร แต่มีปรมัตถธรรม ซึ่งไม่ใช่สัตว์ บุคคล ต้วตน หรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรมก็ย่อมไม่เข้าใจความจริงของสภาพธรรม ที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน จึงยึดถือทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ บุคคล
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงหนทางอบรมเจริญปัญญาอย่างละเอียด ทรงแสดงเหตุและปัจจัยที่ทำให้การอบรมปัญญาเจริญขึ้น ซึ่งโดยย่อ ก็คือ การฟังธรรมและเห็นประโยชน์ของการศึกษาธรรม เมื่อปัจจัยทั้งสองนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เนืองๆ ปัญญาก็ย่อมอบรมเจริญขึ้นได้
กิเลสทำร้ายเราอยู่ตลอดเวลา
ทำไมคนเรามีอายุไขเพียง ๑๐๐ ปีเท่านั้น หมายความว่ายังไง
ทำไมเวลาฟังธรรมะทุกครั้งเลย ถึงง่วงนอนนะ
ไม่มีตัวเรา ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไร
แต่มีนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งไม่ใช่ตัวเรา
นามธรรม ได้แก่ จิตและเจตสิก
กิเลส คือ โลภะ โทสะ และโมหะ
สำหรับปุถุชนย่อมมีกิเลสเกิดสะสมอยู่ในจิต
ถ้าถูกบังคับให้ฟังธรรมะ จะเป็นอกุศลไหม
ขณะที่ฟังแล้วพิจารณาตาม เป็นกุศลแน่นอนค่ะ แต่ขณะอื่นไม่ใช่
ถ้าเราอุทิศให้คนเจ็บคนป่วย เค้าจะหายป่วยไหม
จะหายหรือไม่หาย ย่อมแล้วแต่กรรมของผู้นั้นนะคะ ส่วนการบอกบุญให้ผู้อื่นอนุโมทนาก็เป็นกุศลจิตของผู้ให้ และผู้รับ (ถ้าจิตในขณะนั้นเป็นกุศล)
ความรู้สึกสุขนั้นก็เป็นทุกข์ หมายความว่าอย่างไรคะ
ทำไมขันธ์ ๕ จึงเป็นทุกข์
ปัญจวัคคีย์ แปลว่าอะไร คะ