รู้สภาวธรรมตามความเป็นจริง
กราบท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูง
ขอกราบเรียนถาม ค่ะ อาจารย์สอนให้รู้สภาวธรรมตามความเป็นจริง รู้สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นตามความเป็นจริง คำเหมือนน่าจะเข้าใจได้ แต่เหมือนเข้าใจ และก็ไม่เข้าใจอีก อาจารย์สอนว่าค่อย ค่อยฟัง แต่เหมือนจะมีคำถามในใจตลอดว่า ค่อย ค่อยสะสมปัญญา ให้ค่อย ค่อย เพิ่มขึ้นตามลำดับ จะทำให้ ไม่เกิดได้อย่างไร
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่มีเมตตา ถ่ายทอด คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงๆ คือ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่ว่าพ้นไปจากสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ นั้น เป็นที่ตั้งให้สติปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตามความเป็นจริงได้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ได้ ขณะที่ระลึกรู้สภาพธรรม ก็ต้องเป็นแต่ละหนึ่งของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏด้วยดีต่อสติปัญญาและสภาธรรมที่เกิดร่วมด้วยในขณะนั้น ไม่ใช่รู้พร้อมกันๆ หลายๆ อารมณ์ ซึ่งจะต้องอาศัยเหตุที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ จนมั่นคงจริงๆ เพราะระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง นั้น ไม่ใช่เพียงคำพูด แต่เป็นการที่ไม่ว่าจะสภาพธรรมที่เกิดปรากฏ ก็สามารถรู้ตามความเป็นจริง ไม่ผิด ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะฉะนั้น เพราะสะสมความไม่รู้มานานแสนนาน จึงต้องไม่ขาดการฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย จริงๆ ผลการอบรมเจริญปัญญา คือ สามารถถึงการดับกิเลสได้ตามลำดับขั้นได้ เป็นไปได้ เพราะผู้ที่ได้รู้อริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคล มีแล้ว ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
เข้าใจได้ว่าในการรู้สภาพธรรมในแต่ละขณะที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทีละหนึ่ง และต้องไม่มี อกุศลจิตเลยโดยไม่มีความเป็นเรา การรู้แต่ละขณะทีละหนึ่ง เร็ว มากๆ ซึ่งเรารู้สึกว่ามันเกิดพร้อมกันต้องหลายทาง ยากมากๆ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด