เรียนถามอาจารย์ เรื่อง การสังคายนาพระไตรปิฎก ครับ

 
nontacha
วันที่  17 พ.ย. 2560
หมายเลข  29314
อ่าน  2,106

เรียนถามท่านอาจารย์ ดังนี้ครับ

1. การสังคายนาพระไตรปิฎก กระทำมาทั้งหมดกี่ครั้งแล้วครับ

2. ทำไมต้องสังคายนาพระไตรปิฎกด้วยครับ ทั้งๆ ที่ ครั้งแรก พระมหากัสสปะเถระ เป็นผู้กระทำสังคายนา ร่วมกับพระอรหันต์ทั้งหลาย พระไตรปิฏกจึงน่าครบถ้วนแล้ว จึงไม่น่าจะสังคายนาแล้ว

3. การสังคายนาแต่ละครั้งมีการเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมหรือไม่อย่างไรครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 พ.ย. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-คำว่า สังคายนา หมายถึง การรวบรวม การเรียบเรียง กล่าวให้ตรงกัน เป็นแบบเดียวกันซึ่งพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ เพื่อให้พระธรรมเหล่านั้นเป็นหมวดหมู่ และเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง คือ อย่างนี้ ที่นอกจากนี้ ไม่ใช่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังคำกล่าวของท่านพระมหากัสสปเถระ ตอนปรารภการทำสังคายนาครั้งแรก ใน [เล่มที่ 9] พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ ๕๐๙ ว่า

"เอาเถิด ท่านทั้งหลาย พวกเราจงสังคายนาพระธรรมและพระวินัยเถิด ในภายหน้าสภาวะมิใช่ธรรม จักรุ่งเรือง ธรรมจักเสื่อมถอย สภาวะมิใช่วินัยจักรุ่งเรื่อง วินัยจักเสื่อมถอย ภายหน้า อธรรมวาทีบุคคลจะมีกำลัง ธรรมวาทีบุคคลจักเสื่อม อวินยวาทีบุคคลจักมีกำลัง วินัยวาทีบุคคลจักเสื่อมกำลัง"

การทำสังคายนาพระธรรมวินัยที่ปรากฏในพระไตรปิฎกและอรรถกถา เป็นที่รับรองโดยทั่วกันจะปรากฏอยู่ ๓ ครั้ง คือ ครั้งที่ ๑ หลังพระพุทธองค์ปรินิพพานประมาณ ๓ เดือน ท่านพระมหากัสสปเถระ เป็นประธานพร้อมด้วยพระอรหันต์ ๔๙๙ รูป รวมเป็น ๕๐๐ รูป ครั้งที่ ๒ หลังปรินิพพาน ๑๐๐ ปี ท่านพระเรวตะและพระอรหันต์ ๗๐๐ รูป และ ครั้งที่ ๓ หลังพุทธปรินิพพาน ๒๓๕ ปี ท่านพระโมคคัลลีบุตรและพระอรหันต์ ๑,๐๐๐ รูป ในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช

-พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่มีส่วนที่จะต้องตัดออก ไม่มีส่วนที่จะต้องเพิ่มเข้าไปใหม่ แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เป็นการทำลายหรือบิดเบือนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปจากความเป็นจริง พระอรหันต์ทั้งหลาย จึงมีการประชุมกระทำสังคายนา เพื่อชำระสิ่งที่คนเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย โดยเทียบเคียง สอบทาน อ้างอิงจากพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทั้งหมดเพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง ไม่ใช่ความเห็นของบุคคลหนึ่งบุคคลใด ครับ

-การกระทำสังคายนาพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โดยพระเถระทั้งหลายตั้งแต่สมัยอดีต ไม่ได้ทำให้พระธรรมวินัยผิดเพี้ยนไป แต่เป็นการดำรงรักษาไว้ซึ่งพระธรรมวินัย เพื่อรักษาพระธรรมวินัยให้คงอยู่อย่างถูกต้อง มั่นคง เพื่อประโยชน์แก่ชนรุ่นหลัง จะได้ศึกษาและได้มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ว่า คำสอนใดเป็นพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำสอนใดไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นประโยชน์มากสำหรับพวกเราในยุคนี้สมัยนี้ และ จะเป็นประโยชน์จริงๆ ก็ต่อเมื่อได้ศึกษา ด้วยความเคารพ ละเอียด รอบคอบ เพราะฉะนัั้นแล้ว จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้เริ่มศึกษาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ประสาน
วันที่ 19 พ.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nontacha
วันที่ 20 พ.ย. 2560

ขอบพระคุณอาจารย์ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 22 พ.ย. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
swanjariya
วันที่ 23 พ.ย. 2560

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 2 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วิริยะ
วันที่ 5 ธ.ค. 2560

ขอบคุณท่านผู้รู้ที่ได้ให้คำตอบ และขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 7 ธ.ค. 2560

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ในอนาคตภิกษุทั้งหลายไม่สนใจศึกษาพระพุทธพจน์ที่ลึกซึ้ง แต่กับไปสนใจศึกษาพวกบทกวี ที่นักปราชญร้อยกรองไว้ ทำให้พระธรรมลบเลือนเสื่อมไปค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
s_sophon
วันที่ 15 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 23 มิ.ย. 2564
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ