ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๒๙
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๒๙
~ คฤหัสถ์อนุเคราะห์บรรพชิตให้มีที่อยู่ มีอาหาร มียารักษาโรค มีจีวรเครื่องนุ่งห่ม พอควร เพียงพอสำหรับบรรพชิต ภิกษุใดต้องการมีชีวิตอย่างคฤหัสถ์ภิกษุนั้นก็ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย
~ ถ้าทำดีจะเคราะห์ร้ายหรือ เพราะฉะนั้น เมื่อเคราะห์ร้ายเกิดจากการทำไม่ดี ก็ทำดีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีเคราะห์ร้ายต่อไป ไม่ดีหรือ
~ พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ ตราบใดที่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเป็นที่เคารพ สักการะ นับถือเพื่อศึกษาให้เข้าใจ
~ คนที่ไปบวชโดยไม่รู้ว่าเพื่อศึกษาธรรมและขัดเกลากิเลสตามพระธรรมวินัย ก็บาป คนที่ชักชวนคนอื่นไปบวชโดยที่เขาไม่ได้เข้าใจพระธรรมวินัย ก็ต้องเป็นบาปด้วยทั้งหมด
~ ถ้าไม่ศึกษาพระธรรมและไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ก็บวชทำลายพระศาสนา ผู้ที่ไม่ศึกษาไม่เข้าใจพระธรรมแล้วบวช ผู้นั้นลักขโมยเพศบรรพชิต เป็นการบวชปลอมๆ ไม่ใช่เป็นการบวชด้วยความเคารพในพระบรมศาสดา
~ ชาตินี้ไม่สนใจที่จะฟังพระธรรมที่จะศึกษาให้เข้าใจให้ถูกต้อง แล้วชาติต่อไปก็คงจะเหมือนชาตินี้ ถ้าไม่เริ่มสนใจที่จะฟังที่จะศึกษาให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น
~ กุศลดีงาม อกุศลไม่ดีงาม ถ้าปัญญาสามารถที่จะเข้าใจถูกเห็นถูก ว่า อะไรเป็นประโยชน์ แล้ว ปัญญานำไปในกุศลทั้งปวง ก็ไม่มีทางที่ (คนใน) ประเทศชาติ จะทุจริตเพิ่มขึ้น ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น
~ ทุกอย่างที่มีความจริง มีลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น อย่างเช่นความโกรธ เวลาเกิดขึ้นรู้เลย หยาบกระด้าง ขณะนั้นผิดจากธรรมดาปกติ วันที่ไม่โกรธก็เป็นคนดี สนุกสนานรื่นเริง แต่พอโกรธเกิดขึ้นมา หงุดหงิด ขุ่นเคือง หยาบกระด้าง และกายวาจาก็แข็งกร้าว อาจจะมีการประทุษร้าย นั่นคือ ลักษณะอาการของสภาพธรรมที่เป็นความโกรธ ไม่มีใครบังคับบัญชาธรรมได้เลย
~ การเจริญกุศลทุกประการเป็นสิ่งที่ควรจะต้องกระทำ เว้นไม่ได้เลย สิ่งใดก็ตามที่เป็นกุศล แล้วยังไม่ได้กระทำ ขอให้พิจารณาว่า ชาตินี้จะกระทำได้ไหม กุศลอย่างนั้นๆ ที่ยังไม่ได้กระทำ แต่ว่าต้องเห็นคุณประโยชน์ของกุศลทุกประการด้วย
~ ความโกรธเป็นโทษเป็นภัย เป็นอันตรายของตนเอง คนที่ถูกโกรธไม่เดือดร้อนอะไรเลย เพราะฉะนั้น กิเลสของตนเองที่เกิดกำลังทำร้ายตนเอง และจะสะสมเป็นอุปนิสัยที่จะทำให้เป็นผู้ที่โกรธต่อไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็อาจจะผูกโกรธเอาไว้นานด้วย และอาจจะถึงขั้นที่ไม่ยอมให้อภัย
~ วาจาที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน มี ถ้าขณะนั้นไม่สามารถที่จะงดเว้นได้ ขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิต แต่ขณะใดที่รู้ว่า ถ้าพูดแล้วคนอื่นจะเสียใจแล้วเว้นไม่พูด ขณะนั้นเป็นกุศล นั่นเป็นกุศลในเรื่องของศีลแล้ววันหนึ่งๆ พูดกันมากที่สุดด้วยโลภะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ แต่ว่าผู้ที่จะให้เป็นวาจาสุภาษิต เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เป็นสิ่งที่จริง และก็เป็นสิ่งที่ทำให้สบายใจ ไม่เดือดร้อน อันนั้นก็ต้องอาศัยกุศลจิตในขณะนั้น
~ อกุศลทั้งหลายไม่มีทางที่จะนำสิ่งที่ดีมาให้ได้เลย และก็มีความมั่นใจมั่นคงว่า กุศลทั้งหลายซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ก็ต้องนำมาซึ่งสิ่งที่ดีได้ ถ้ามีความมั่นใจอย่างนี้ก็จะทำให้ทำความดีเพิ่มขึ้น
~ ทุกอย่างในโลกที่มีจริง ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน เวลาไหน เป็นธรรม
~ ธรรมทั้งหมด ไม่เว้นเลย เป็นอภิธรรม ละเอียดอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่ใครเลยสักคนเดียว
~ ทุกคำที่เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปลี่ยนไม่ได้ เพราะว่าเป็นการตรัสรู้ความจริงจนถึงที่สุด
~ รักษาตนให้พ้นจากความเห็นผิด ที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา
~ ใครเห็นโทษของกิเลสบ้าง ต้องเป็นคนตรง ต้องอาศัยการฟังพระธรรมอีกนานเท่าไหร่ และมีโอกาสที่จะได้ฟังอีกนานเท่าไหร่ เห็นคุณค่าของการได้ฟังไหม
~ ธรรม หมายความถึง สิ่งที่มีจริง มีปัจจัย จึงเกิดปรากฏ
~ ถ้ามีความเข้าใจในเรื่องกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) ในเรื่องของการขัดเกลา รู้ความต่างกันของอกุศลกับกุศล ใจที่ดีก็จะทำให้สามารถที่จะมีกาย วาจา ที่ดีด้วย
~ เกรงใจคนอื่น ไม่อยากให้คนอื่นต้องไม่พอใจ เป็นกุศลหรือเปล่า? ใจที่เป็นกุศล จึงไม่ให้ใครเดือดร้อน
~ พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ด้วยการที่เข้าใจคำที่พระองค์ตรัส
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำของพระองค์ นำไปสู่ความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มี
~ ถ้าใครไม่เคยได้ยินได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย จะไม่มีทางรู้จักสิ่งที่มีตั้งแต่เกิดจนตาย
~ วัตถุ จะเป็นมงคลได้อย่างไร คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่างหาก เป็นมงคล นำมาซึ่งความเข้าใจถูกเห็นถูก นำมาซึ่งความเจริญอย่างแท้จริง
~ ประโยชน์จริงๆ ของการมีโอกาสได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่เพื่อเอาไปสวดโดยไม่เข้าใจ แต่เพื่อให้เข้าใจคำทุกคำที่พระองค์ตรัสไว้ดีแล้ว
~ ทำไมต้องคอยวันเวลา ความดีควรคอยหรือ?
~ ถ้าไม่ฟังพระธรรมเข้าใจ ดีเองได้หรือเปล่า ดีได้ตามที่สะสมมาเป็นครั้งคราว แต่ไม่สามารถละอกุศลได้
~ จะเสียเวลาพูดคำที่ไม่รู้จักต่อไปไหม หรือว่า เอาเวลานั้นมาฟังธรรม เข้าใจธรรม สนทนาธรรม.
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๒๘
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...