ความสูงของพระผู้มีพระภาคเจ้า กับความกว้างความยาวของพระคันธกุฎี
เคยทราบว่าพระผู้มีภาคมีพระวรกายสูง 16 ศอก ผมได้มีโอกาสมาที่พระมูลคันธกุฎี ที่บนเขาคิชฌกูฏ เห็นว่ามีความกว้าง ความยาวไม่ถึง 16 ศอก ซึ่งไม่น่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการนอนสำหรับคนที่สูง 16 ศอกได้ ไม่ทราบว่ามีคำอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้างครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตามพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงสูง ๑๘ ศอก หรือ ๙ เมตร พระองค์ทรงเป็นผู้มีพระวรกายสมส่วนและงดงามที่สุด โดดเด่นที่สุด ดุจพระจันทร์วันเพ็ญท่ามกลางหมู่ดาว และทรงถึงพร้อมด้วยพระบุญญาธิการสูงสุด ดุจห้วงแห่งบุญจะแย่งกันให้เพราะเป็นพระชาติสุดท้ายที่จะบังเกิด
เพราะฉะนั้น ด้วยบุญด้วยพระอภินิหารที่บำเพ็ญมา จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลย ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ อย่างอัศจรรย์ ขอยกตัวอย่างเช่น เมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่เรือนของคนยากจน ชื่อ นายทุคตะ เพื่อรับอาหารจากคนยากจนนั้น เรือนของเขา เตี้ย ต่ำ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปในเรือนนั้น เรือนก็สูงขึ้น พื้นดินก็ต่ำลง เพียงพอเป็นที่สบายสำหรับการอยู่ของพระพุทธเจ้า นี่คือ พระอภินิหารของพระพุทธองค์ที่ทรงบำเพ็ญพระบารมีมามากมาย
เพราะฉะนั้น จากคำถามว่าบนยอดเขาคิชกูฎ พระคันธกุฎี แม้ดูไม่กว้างใหญ่ แต่ด้วยตามที่กล่าวมา ทั้งบุญ บารมีของพระพุทธองค์ และที่สำคัญก็เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาว่า เวลาผ่านไป สองพันกว่าปี การสึกกร่อนของภูเขา ย่อมทำให้สถานที่ดูเล็กลงได้ เพราะความจริงต้องใหญ่กว่านั้น ดังเช่น ถ้ำสูกรขาตา ถ้ำที่เป็นที่อยู่ของท่านพระสารีบุตร ก็ดูเล็กมาก หากคนจะไปเข้าอยู่ ที่เป็นถ้ำก่อนที่จะขึ้นไปถึงพระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชกูฎ นั่นก็เพราะการทับถม ผ่านไปสองพันกว่าปีนั่นเอง และศิลาแลงที่ก่อไว้ข้างบน ก็มีการต่อเติมสร้างใหม่บ้าง เพื่อเป็นการบูรณะ จากสิ่งที่ถูกทับถมจากของเก่า ดั่งเช่นพระวิหารเชตวันที่ต่อเติมสร้างใหม่ด้วยอิฐ แต่เมื่อขุดค้นลงไปก็เจอฐานเดิมที่ใหญ่มากๆ ครับ
ขออนุโมทนา
เท่าที่ผมสังเกต พื้นศิลาแลงบนยอดเขาคิชกูฎก็มีฐานค่อนข้างกว้างขวางครับ ส่วนอิฐที่ก่อเป็นห้องสี่เหลี่ยมกว้างยาวไม่กี่ศอกนั้น ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ภายหลังอย่างที่ท่านอาจารย์ paderm กล่าว
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์ที่ควรจะได้พิจารณาอย่างยิ่ง คือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ ทรงเป็นบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้น ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเป็นเวลาที่นานมาก พระคุณของพระองค์นั้นมีมากมาย พระองค์ทรงอุบัติขึ้นในโลกเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ด้วยการทรงแสดงพระธรรม ประกาศความจริงให้สัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริง เป็นผู้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง พระบารมีทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญมาก็เพื่อที่จะอุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลก ที่จะได้ตรัสรู้ตามพระองค์ เป็นสาวก ผู้ที่เป็นสาวก ไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม ล้วนต้องเป็นผู้ที่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง และที่สำคัญพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงแสดงนั้น ไม่มีความแตกต่างกันเลย เหมือนกันทั้งหมด แสดงถึงสิ่งที่มีจริงทุกอย่างทุกประการตามความเป็นจริง และเป็นพระธรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษา และมีความเข้าใจ อย่างแท้จริง เพราะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อละอกุศล เป็นไปเพื่อดับทุกข์โดยประการทั้งปวง เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นี้ คือ พระสมณโคดม ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่ง เพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าซึ่งจะได้เกื้อกูลสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก จึงทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงจนกระทั่งสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้ในที่สุด มีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง มากมาย นับไม่ถ้วน ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...