มีแนวทางอย่างไรในเรื่องการพิจารณา มรณานุสติ

 
fueng
วันที่  1 มี.ค. 2550
หมายเลข  2937
อ่าน  3,665

บางท่านบอกให้พิจารณามรณานุสติอยู่เป็นนิจ แต่โดยมากก็มักนึกถึงเป็นครั้งคราว ขณะที่ได้ยินเรื่องความตายของผู้อื่น แต่ไม่ค่อยจะนึกถึงความตายของตนเอง คิดว่าคงยังไม่ตาย เพราะความไม่อยากตาย คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะทำได้ ไม่ทราบว่ามีแนวทางอย่างไรในเรื่องการพิจารณา โดยมากจะเป็นการคิดมากกว่า


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 1 มี.ค. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 1 มี.ค. 2550

ให้คิดถึงความตายบ่อยๆ ชีวิตมีอยู่แต่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น ถ้าลมหายใจเข้า แล้วไม่ออกก็ตาย ความตายไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย เพราะเราไม่รู้ว่าจะตายเวลาเช้า หรือเวลาเย็น วันนี้แข็งแรงดีพรุ่งนี้อาจจะป่วยตายด้วยโรคลมก็ได้ หรือหัวใจวายตาย ไม่มีใครรู้ว่าจะตายอย่างไร พิจารณาถึงพระพุทธเจ้า ก็ยังต้องปรินิพพานเลย ท่านผู้มีฤทธิ์ เช่น พระโมคคัลลาน ก็ปรินิพพานเหมือนกัน พิจารณาถึงสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เช่น พระเจ้าอโศก เวลาท่านใกล้จะตายก็เหลือแค่ผลมะขามป้อมครี่งผลที่เป็นสมบัติ นอกนั้นก็เป็นของคนอื่น ที่ท่านว่าสมบัติผลัดกันชมไม่มีใครเป็นเจ้าของ การพิจารณาถึงความตายบ่อยๆ ทำให้ไม่ประมาทในการเจริญกุศลและฟังธรรมทุกๆ วัน

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
medulla
วันที่ 2 มี.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Anutta
วันที่ 2 มี.ค. 2550

เรียน คุณwannee.s รบกวนกรุณาเล่าเรื่องพระเจ้าอโศก ทำไมถึงเหลือแค่มะขามป้อมครึ่งผลก่อนตาย คะ สนใจทราบเป็นความรู้ ค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 2 มี.ค. 2550

พระเจ้าอโศกท่านเป็นพระราชามีอำนาจมาก มีชื่อเสียง รบชนะยึดเมืองได้หลายเมือง ครองชมพูทวีป ภายหลังในเวลาใกล้ตาย ได้ครองความเป็นใหญ่ แค่มะขามป้อมครึ่งผล ท่านเอามะขามป้อมครึ่งผลทำน้ำถวายสงฆ์ (เพราะถูกพวกอำมาตย์ยึดอำนาจ) ท่านมีลูกชาย ๑ คน ลูกสาว ๑ คน ออกบวชหมด เป็นพระอรหันต์ทั้ง ๒ คน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
praisin
วันที่ 11 มี.ค. 2550

ตัวเราเป็นเพียงธรรมชาติเท่านั้น แต่ที่มันมากเรื่องมากราวเพราะการยึดมั่น แท้จริงมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและก็จะดับไปตามธรรมชาติเท่านั้น เราเหมือนมาอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราววันหนึ่งก็จะจากไป ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา เรากำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านอยู่ทุกขณะ คือ เตรียมที่จะจากไปอยู่เสมอเพื่อการไม่หลงเพลิดเพลินอยู่นั่นเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Guest
วันที่ 11 มี.ค. 2550

ตราบใดที่ยังไม่ดับกิเลสเป็นสมุทเฉท ก็ยังคงต้องวนเวียนอยู่ในภพภูมิต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ข้อความในสังยุตตนิกาย มหาวารวรรค นิพเพธิกปัญญาสูตร พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเป็นเครื่องชำแรกกิเลส ธรรม ๔ ประการ เป็นไฉน คือ การคบสัตบุรุษ ๑ การฟังสัทธรรม ๑ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ๑ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
fueng
วันที่ 13 มี.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Anutta
วันที่ 2 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาคุณ wannee.s ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
suntarara
วันที่ 16 ส.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 31 ต.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ