บันเทิงในธรรม...ที่ปาย แม่ฮ่องสอน

 
kanchana.c
วันที่  24 ธ.ค. 2560
หมายเลข  29370
อ่าน  3,636

วันที่ 18 ธ.ค. 2560 – 21 ธ.ค.2560 ได้ร่วมไปสนทนาธรรมที่ปาย แม่ฮ่องสอน กับ พ.ต.อ.ประภาส ธรรมนันท์ คุณพ่อ และคุณสิริพรรณ กล่อมจิต คุณลูกสาว ที่มีกุศลจิตพาท่านอาจารย์และคณะรวม 15 คนไปพักผ่อนสนทนาธรรมในสถานที่งดงามด้วยทิวทัศน์และบรรยากาศเช่นเมืองปาย สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับของเมืองไทย

หลายคนคงรู้จัก คุณต้อม สิริพรรณ ที่เคยบรรยายธรรมในงานสวดอภิธรรมงานหนึ่ง จนพระภิกษุในงานนั้นเอ่ยปากว่า “อยากรู้คอมพิวเตอร์ต้องถามพระ อยากรู้ธรรมะต้องถามโยม” คุณต้อมมีเสียงไพเราะ น่าฟัง และเนื้อหาที่พูดก็แสดงถึงความเข้าใจธรรมซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังใหม่ๆ อย่างยิ่ง เธอบอกว่า ได้ความเข้าใจธรรมจากการฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนานำมาเผยแพร่ทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อต่างๆ อย่างกว้างขวาง การจัดสนทนาธรรมครั้งนี้เพื่อตอบแทนพระคุณของท่านอาจารย์และเกื้อกูลสหายธรรมท่านอื่นๆ ด้วย และการจัดก็ไม่ธรรมดา เพราะธรรมดาๆ คุณต้อมไม่ทำ ต้องทำแบบคนไปด้วยต้องร้องว้าว เพราะเป็นครั้งแรกของหลายคนที่ได้นั่งเครื่องบินเหมาลำขนาด 8 ที่นั่งของสายการบิน Budget Line ที่บริการให้เช่าเหมาลำทุกแห่งที่มีสนามบิน ราคาขั้นต่ำ 50,000 บาทขึ้นไป ที่ต้องเช่าเหมาลำเพราะสายการบินที่เคยติดต่อไว้ว่าจะเปิดบินไปปายในเดือนธันวาคม เลื่อนกำหนดการให้บริการออกไปเป็นต้นปีหน้า ถ้านั่งเครื่องจากเชียงใหม่ไปลงแม่ฮ่องสอน ต้องนั่งรถยนต์จากแม่ฮ่องสอนมาที่ปายอีกประมาณ 50 นาที ทางก็วกวนเพราะเป็นภูเขา จะทำให้ท่านอาจารย์ซึ่งมีอายุกว่า 90 ปีแล้ว เหน็ดเหนื่อยเกินไป เลยเลือกเช่าเครื่องบินเล็กเหมาลำสำหรับ 8 คน ไม่รวมสัมภาระที่ต้องเช่ารถตู้บรรทุกตามมาพร้อมกับผู้โดยสารที่เหลืออีก 1 คัน

คณะผู้ร่วมเดินทาง 8 คนออกจากสนามบินดอนเมืองแต่เช้าตรู่ของวันที่ 18 ธ.ค. 60 เพื่อไปสมทบกับท่านอาจารย์และคณะที่ไปสนทนาธรรมที่เชียงใหม่และลำพูนก่อนหน้านี้ที่สนามบินเชียงใหม่ และออกเดินทางโดยเครื่องบินเล็กตอน 10 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาทีก็ถึงสนามบินปาย สนามบินเล็กๆ เป็นอาคารแบบเมืองเหนือ มีต้นกุหลาบออกดอกต้อนรับสวยงาม ไม่มีผู้โดยสารอื่นเลย เป็นสนามบินส่วนตัวจริงๆ ประสบการณ์ในการนั่งเครื่องบินเล็กก็ดีมาก ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลับนั่งสบาย เวลาลงก็นิ่มนวล ชักติดใจเสียแล้ว แต่คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ถ้าไม่อาศัยบารมีของท่านอาจารย์ก็คงไม่มีปัญญาขึ้นเอง

ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าการได้นั่งเครื่องบินเล็กก็คือ มีชายหนุ่มท่าทางสุภาพถือพวงมาลัยมาคอยต้อนรับท่านอาจารย์พร้อมกับกราบที่พื้น 3 ครั้งด้วยความนอบน้อมอย่างยิ่ง ทราบจากคุณต้อมว่า ท่านคือ นพ.สุพัฒน์ ใจงาม ผอ.รพ.ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ที่คุณต้อมที่เคยทำงานแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดต่อขอให้ส่งหมอนวดแผนไทยมานวดให้ท่านอาจารย์ พร้อมกับส่งธรรมไปให้ฟังด้วย คุณหมอเคยดาวน์โหลดหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปที่ท่านอาจารย์เขียนไปอ่านเองจบแล้ว 2 รอบ แต่อ่านเอง คิดเอง ยังไม่กระจ่าง เมื่อได้ฟังการบรรยายธรรมที่ท่านอาจารย์บรรยายตามที่สถานที่ต่างๆ ที่คุณต้อมส่งไปให้ประมาณ 3 อาทิตย์ก็เข้าใจขึ้น และเป็นบุญของคุณหมอที่ทำไว้แต่ปางก่อนที่ท่านอาจารย์ได้เดินทางไปอธิบายให้คุณหมอฟังตัวต่อตัวเลยทีเดียว

การมาปายครั้งนี้จึงเป็นโอกาสทองของคุณหมอ ท่านอาจารย์ให้โอกาสคุณหมอซักถามเต็มที่ และท่านก็ซักถามคุณหมอเต็มที่เหมือนกัน คำตอบของคุณหมอทำให้รู้ชัดว่า ธรรมอ่านเอง คิดเองไม่ได้ เพราะจะทำให้สับสน ไม่กระจ่าง ต้องอาศัยกัลยาณมิตรที่มีความเข้าใจจริงๆ อย่างท่านอาจารย์ค่อยช่วยอธิบายจึงจะเข้าใจแจ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสดีของพวกเราที่ติดตามไปฟังด้วย แม้ฟังมานานหลายสิบปี แต่เวลาฟังจริงๆ นั้นน้อยนิด และความเข้าใจก็น้อยนิดตามไปด้วย คุณหมอก็เหมือนพวกเราหลายคนก่อนจะได้มาฟังธรรมจากท่านอาจารย์ ที่ผ่านสำนักปฏิบัติมาแล้ว และอยากบวชเป็นพระบ้าง เป็นชีบ้าง เวลาที่มีความเดือดร้อนใจจากชีวิตคฤหัสถ์ที่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ คิดว่าการปลีกตัวออกไปอยู่วัดจะทำให้ชีวิตสงบร่มเย็น น่าจะสบายกว่า เพราะไม่เข้าใจว่า พระภิกษุคือใคร และไม่เข้าใจตัวเองว่า ทำไมถึงอยากไปอยู่วัด สำหรับเราเองคิดว่าอยู่วัดคงสบายกว่าอยู่บ้าน ไม่ต้องตื่นเช้านั่งรถติดไปทำงาน กว่าจะถึงบ้านก็มืดค่ำเหน็ดเหนื่อยกว่าจะได้พักผ่อนในแต่ละวัน คิดว่าอยู่วัดคงได้ฟังเทศน์ ได้ทำบุญทั้งวัน โดยไม่รู้จักว่า “บุญ” คืออะไร รู้แต่เพียงว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ควรทำ โชคดีที่ได้มาฟังธรรมที่แท้จริงที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงไว้ และท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ได้นำมาบรรยายให้เข้าใจได้ในชีวิตประจำวันว่า ธรรมคือสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ ทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด และทุกอย่างเป็นอนัตตา เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เมื่อเข้าใจแล้วก็รู้ว่า ไม่ต้องไปทำอะไรที่ไหน ชีวิตเป็นปกติเหมือนที่เป็น ไม่ต้องไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แต่เข้าใจมากขึ้นว่า ไม่ว่าจะเห็น จะได้ยิน จะได้กลิ่น จะลิ้มรส จะกระทบสัมผัสเย็น ร้อน อ่อน แข็ง จะคิดนึกล้วนเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วก็ดับไปทันที ไม่กลับมาอีกเลย แล้วจะหาความเป็นเราจากสิ่งที่ดับหมดแล้วจากที่ไหน

ก่อนพาท่านอาจารย์ไปปาย คุณต้อมได้สำรวจเส้นทาง สถานที่ต่างๆ ก่อนแล้วถึง 2 ครั้ง (ยิ่งกว่ามืออาชีพ) แล้วเลือกสิ่งที่ดีที่สุด โดยพาท่านอาจารย์และคณะพักที่โรงแรมปายไอส์แลนด์ ระดับ 5 ดาว และพาไปชมและสนทนาธรรม ณ สถานที่สวยงามขึ้นชื่อของปายหลายแห่ง เช่น ดอยหยุนไหล ชุมชนจีนยูนนานที่อยู่บนดอยสูง ปายริเวอร์คอร์เนอร์ ริมแม่น้ำปาย ปายเคียงฟ้า Coffee in Love และที่อื่นๆ ที่จำชื่อก็ยังไม่ได้ แต่ทุกชื่อจะมีคำว่า “ปาย” อยู่ด้วยเสมอ ได้ความว่า แผลงมาจากคำว่า “ช้างพราย” ทุกแห่งมีวิวภูเขาสลับซับซ้อน และบางแห่งอยู่ริมน้ำปาย ตบแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ อาหารก็เลือกสรรมาอย่างสุดยอด อุณหภูมิก็เหมือนจัดสรรให้หนาวเย็น น่าสบาย แต่อย่างที่ท่านอาจารย์พูดเสมอๆ ว่า เห็นเพื่อลืม และก็พิสูจน์ธรรมได้เลยว่า เป็นจริงอย่างนั้น เพราะเดี๋ยวนี้พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกเลยว่า ได้เห็นอะไรมาบ้าง เหลือแต่ความติดข้องว่า แต่ละแห่งน่าเพลิดเพลินยินดี รสอาหารก็แสนอร่อย แต่บอกไม่ได้ว่า สวยอย่างไร อร่อยอย่างไร ทุกอย่างก็ผ่านไป หมดไป ทิ้งไว้แต่ความติดข้องสะสมอยู่ในจิตขณะต่อๆ ไปให้ติดข้องมากขึ้น โชคดีที่ยังได้ฟังความจริงว่า ไม่ว่าจะติดข้องก็เป็นธรรม ไม่ใช่เรา แม้จะยังไม่รู้ชัดอย่างนั้น แต่ก็ยังได้ยินข้อความที่ยากที่จะได้ยินอย่างนี้ และยังจำได้บางเวลา เอามาอ้างถึงในบางครั้งที่ต้องการจบการสนทนา (คงไม่ใช่กุศล?)

ท่านอาจารย์ถามคุณหมอสุพัฒน์ว่า ทำไมจึงอยากบวช คุณหมอตอบว่า อยากจะออกไปจากสังสารวัฏฏ์ ท่านอาจารย์ถามว่า สังสารวัฏฏ์คืออะไร คุณหมอตอบว่าอะไรก็จำไม่ได้ แต่ท่านอาจารย์อธิบายว่า สังสาระ คือการท่องเที่ยว วัฏฏะ คือวนเวียน สังสารวัฏฏ์ก็คือจิตเจตสิกแต่ละขณะที่ท่องเที่ยววนเวียนไปทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เดี๋ยวเห็น เดี๋ยวได้ยิน เดี๋ยวได้กลิ่น เดี๋ยวคิดนึก สังสารวัฏฏ์คือเดี๋ยวนี้นั่นเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นการเวียนว่ายตายเกิดในชาติต่างๆ เป็นคนนั้นคนนี้ สังสารวัฏฏ์อย่างนั้นยาวไป แต่จริงๆ คือ เดี๋ยวนี้ แล้วอยากจะออกจากสังสารวัฏฏ์หรือยัง แค่ตามัว เห็นไม่ชัดนิดเดียวก็ทนไม่ได้แล้ว หูอื้อนิดหน่อยก็ต้องไปหาหมอให้รักษาให้ได้ยินชัด แล้วถ้าไม่มีสังสารวัฏฏ์คือจะไม่เห็น จะไม่ได้ยินอีกแล้ว ยังจะอยากออกหรือ?

หลังจากนั้นก็สนทนาธรรมกันเกือบตลอดเวลา ซึ่งทีมงานบันทึกภาพและเสียงมีคุณผเดิม ยี่สมบุญ และคุณวรรณี แซ่โง้ว ได้ตัดต่อถ่ายทอดทางยูทูปเรียบร้อยแล้วอย่างรวดเร็ว มีสหายธรรมเก่าแก่ คือ คุณจาย พูลทรัพย์ เจตลีลามาร่วมด้วย เธอเพิ่งย้ายไปอยู่ที่ปายอย่างถาวรพร้อมกับครอบครัวของลูก ปลูกดอกไม้อย่างที่ชอบและฟังธรรมด้วย ขออนุโมทนาในกุศลที่ทำแล้วทำให้ได้อยู่ในสถานที่สวยงามแล้วได้ยังได้มาสนทนาธรรมอีกด้วย

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณพ่อ พ.ต.อ.ประภาส ธรรมนันท์ ผู้ยังแข็งแรง เดินหลังตรง แม้อายุ 87 ปีแล้ว ที่สำคัญท่านเข้าใจธรรมด้วย คุณต้อม สิริพรรณ กล่อมจิต ลูกสาวที่แสนอ่อนหวานและอ่อนโยนกับคุณพ่อ ที่เรียนเชิญท่านอาจารย์และพวกเราไปร่วมสนทนาธรรมในสถานที่สวยงาม น่าประทับใจ แต่ก็ยังไม่ประทับใจเท่ากับการได้ฟังธรรมและได้เข้าใจเพิ่มขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ขณะนั้นก็เป็นขณะที่ประเสริฐที่สุดในสังสารวัฏฏ์แล้วค่ะ ขอบคุณท่านจริยา เจียมวิจิตร เพื่อนร่วมห้องที่อนุเคราะห์ทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้าสำหรับแช่น้ำแร่ที่ไม่ได้เตรียมไป ทั้งความสะดวกสบายที่จัดเตรียมไว้ให้ รวมทั้งความรู้ในการบริหารร่างกายก่อนลุกจากที่นอน ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางทุกท่านที่มีเมตตาจิตเกื้อกูลกันตลอดเวลา ทั้งพี่จี๊ด น้องมล น้องเก๋ น้องเต้ย น้องวรรณี คุณสุชิน คุณสาลี่ คุณเล็ก สุรภา คุณวา คุณวัน (คงไม่ลืมใครนะคะ ถ้าลืมก็เป็นธรรม ไม่ใช่คุณแดงคนเขียนลืมค่ะ)

ที่สำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้คือ ขอกราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่ถ่ายทอดความเข้าใจธรรมให้พวกเราอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่เบื่อหน่ายแม้จะต้องพูดซ้ำๆ แล้วพวกเราก็ยังไม่เข้าใจ เพราะท่านทราบดีว่า ธรรมละเอียดและลึกซึ้งอย่างยิ่ง ไม่สามารถเข้าใจได้เพียงการฟัง แต่ต้องพิจารณาไตร่ตรองจนเป็นความเข้าใจของตนเอง แม้ท่านจะอายุมากกว่า 90 ปีแล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้อธิบายความจริงที่กำลังปรากฏให้ผู้สนใจได้เข้าใจตาม ท่านจะสดชื่นแจ่มใส อาจหาญ ร่าเริงในธรรมเสมอ ขอกราบท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

ขอนมัสการพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้าในพระปัญญาคุณ พระมหากรุณาคุณและพระบริสุทธิคุณ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
thilda
วันที่ 24 ธ.ค. 2560

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suchada.s
วันที่ 25 ธ.ค. 2560

อนุโมทนาด้วยหัวใจ และด้วยความนอบน้อมอย่างยิ่งค่ะ บรรยายได้ไพเราะจริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 26 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณมากและอนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
somsak_pi
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kanchana.c
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

ขอบคุณและอนุโมทนาที่ช่วยกรุณาใส่ภาพประกอบเรื่องให้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
napachant
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

กราบอนุโมทนาทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
kullawat
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
swanjariya
วันที่ 27 ธ.ค. 2560

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในความเมตตาที่ท่านอาจารย์มีต่อทุกๆ ชีวิต

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณ คุณพ่อและต้อมที่ให้โอกาสร่วมเจริญกุศล

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณพี่แดง (พล.อ.ต.หญิงกาญจนา เชื้อทอง) ที่นำเสนอคลิปการสนทนาธรรมเและเรื่องราวของการเดินทางไป"บันเทิงในธรรมที่ปาย แม่ฮ่องสอน"ทำให้ทุกๆ ท่านได้"บันเทิงในธรรม"เสมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wirat.k
วันที่ 28 ธ.ค. 2560

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Lamphun
วันที่ 29 ธ.ค. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 29 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
suchada.s
วันที่ 30 ธ.ค. 2560

กราบเท้าท่านอาจารย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
วิริยะ
วันที่ 8 ม.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
nattawan
วันที่ 15 ม.ค. 2561

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 9 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Jarunee.A
วันที่ 24 ส.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ