ประวัติ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ประวัติ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เกิด วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มกราคม ๒๔๖๙ เป็นบุตรีของ หลวงบริหารวนเขตต์ (ฉัตร ชูเกียรติ) และนางบริหารวนเขตต์ (เจริญ ปุณณสันถาร) สถานที่ จังหวัดอุบลราชธานี
หลวงบริหารวนเขตต์ (ฉัตร ชูเกียรติ) และ นางบริหารวนเขตต์ (เจริญ ปุณณสันถาร)
การศึกษา
- ระดับประถมและมัธยม โรงเรียนเซนต์แมรี่ ถนนสาธรใต้
- ระดับมัธยมตอนปลาย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ระดับอุดมศึกษา คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจนถึงปีที่ ๒
การทำงาน
- สอนที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
- สอนภาษาไทยให้แก่ชาวต่างประเทศ ที่โรงเรียนสอนภาษาไทยของมิชชันนารี
- สอนภาษาไทยที่โรงเรียนของตนเอง ชื่อ Thai Language School (โรงเรียนไทยศึกษาสัมพันธ์)
การศึกษาธรรม
- พ.ศ. ๒๔๙๖ ศึกษาพระอภิธรรมที่พุทธสมาคม กับ อาจารย์แนบ มหานีรานนท์ อาจารย์บุญมี เมธางกูร คุณพระชาญบรรณกิจ คุณหญิงระเบียบ สุนทรลิขิต
การเผยแพร่ธรรม
พ.ศ. ๒๔๙๙
บรรยายธรรมที่สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ และทัณฑสถานหญิง คลองเปรม
พ.ศ. ๒๕๐๖
บรรยายพระอภิธรรมที่ศูนย์ค้นคว้าทางพระพุทธศาสนา และสมาคมสังเคราะห์ทางจิต ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
พ.ศ. ๒๕๑๐ – พ.ศ. ๒๕๑๙
บรรยาย “แนวทางเจริญวิปัสสนา” ที่ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
พ.ศ. ๒๕๑๙ – พ.ศ. ๒๕๔๓
บรรยาย “แนวทางเจริญวิปัสสนา” มหามกุฎราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร
บรรยายพระอภิธรรมแก่ชมรมพุทธศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนนายเรืออากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น รวมทั้งหน่วยงานราชการหลายแห่ง เช่น กองบิน ๒ จังหวัดลพบุรี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้ร่วมสนทนาธรรมและตอบปัญหาธรรมแก่ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับเชิญไปร่วมสัมมนาธรรม ที่ประเทศศรีลังกา
พ.ศ. ๒๕๓๕ และ พ.ศ. ๒๕๔๓
ได้รับเชิญไปเผยแพร่พระธรรม ที่ประเทศกัมพูชา
พ.ศ. ๒๕๔๑, ๒๕๔๓, ๒๕๔๕
ได้รับเชิญไปเผยแพร่พระธรรม ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
พ.ศ. ๒๕๔๕
ได้รับเชิญจากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้บรรยายเชิงอภิปราย เรื่อง “การสนทนาธรรม เพื่อการรู้จักตัวเอง”
พ.ศ. ๒๕๔๓
สนทนาธรรม “แนวทางเจริญวิปัสสนา” ที่อาคารสำนักงานมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา จนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๖๑
ได้รับเชิญไปเผยแพร่พระธรรม ที่ประเทศเวียดนาม ที่ผ่านมา ๑๒ ครั้ง
พ.ศ. ๒๕๖๑
ได้รับเชิญไปเผยแพร่พระธรรม ที่ประเทศไต้หวัน
หนังสือ
๑. ปรมัตถธรรมสังเขป (เป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่ท่านอาจารย์เขียนขึ้น ไม่ใช่การคัดจากการสนทนาธรรม)
๒. สนทนาธรรม (กับวันทนา ทิพยวัลย์ และประชุมพร ชาญสุวิทยานันท์)
๓. ตอบปัญหาธรรม
๔. พระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน โดย นีน่า วัน กอร์คอม (แปลอังกฤษ -ไทย)
๕. บุญญกิริยาวัตถุ (คัดจากสนทนาธรรม)
๖. เมตตา
๗. พระพุทธเจ้าเสวยเนื้อหรือไม่
๘. สนทนาธรรมกับชาวกัมพูชา
๙. แด่ผู้มีทุกข์
๑๐. ธรรมเตือนใจแด่คุณประมาท
๑๑. เกิด แก่ เจ็บ ตาย
๑๒. สนทนาธรรมร่วมกับคณะสนทนาธรรมที่วิหารรังสี
๑๓. สนทนาธรรมเรื่องพระพุทธศาสนา
๑๔. ปัจจัยสังเขป
๑๕. แนวทางเจริญวิปัสสนา
๑๖. บารมีในชีวิตประจำวัน
๑๗. ตอบปัญหาธรรม (ในโครงการอบรมพระวิปัสสนาจารย์ ที่วัดวังตะกู)
๑๘. ธรรมสัญจรที่กัมพูชา
๑๙. ธรรมบรรณาการในวันวิสาขบูชา ๒๙ พ.ค. ๒๕๔๒
เทป แผ่นซีดี แผ่นเอ็มพี ๓ บันทึกเสียง
๑. ชุด "มองมุมมุ่งธรรม"
๒. ชุด "พระพุทธเจ้าเสวยเนื้อหรือไม่"
๓. ชุด "ปฏิจจสมุปบาท"
๔. ชุด "ธรรมในชีวิตประจำวัน"
๕. ชุด "บ้านเมืองทองฯ"
๖. ชุด "บารมีในชีวิตประจำวัน"
๗. ชุด "จิตปรมัตถ์"
๘. ชุด "กรรม"
๙. ชุด "สมถภาวนา"
๑๐. ชุด "สนทนาธรรมที่อเมริกา"
๑๑. ชุด "เมตตา"
๑๒. ชุด "วินัยคฤหัสถ์"
๑๓. ชุด "โสภณธรรม"
๑๔. ชุด "บทสนทนาธรรม"
๑๕. ชุด "ปัฏฐาน" (ปัจจัย ๒๔)
๑๖. ชุด "แนวทางเจริญวิปัสสนา"
๑๗ ชุด "การปฏิบัติธรรม"
๑๘. ชุด "สนทนาธรรมที่อินเดีย"
๑๙. ชุด "ปกิณณกธรรม"
๒๐. ชุด "พื้นฐานพระอภิธรรม"
การเผยแพร่พระธรรมทางสถานีวิทยุ
- กรุงเทพมหานคร อสมท., รัฐสภา เอฟ.เอ็ม., สวพ., สทร. ๒, พล.๑, ทอ. ๐๑
- กำแพงเพชร ทภ. ๓, ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- ขอนแก่น รด., มจร. เอฟ.เอ็ม.
- เชียงใหม่ วปถ. ๒, ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- เชียงราย ทอ. ๐๑๕, ทภ.๓
- นครสวรรค์ ทภ.๓
- น่าน ทภ.๓ เอฟ.เอ็ม.
- นครพนม ทภ. ๒
- นครศรีธรรมราช ทภ. ๔
- เพชรบูรณ์ ทภ.๓ เอฟ.เอ็ม.
- พิษณุโลก ทภ.๓
- แพร่ ทภ.๓, ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- พะเยา ทภ.๓, ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- พิจิตร ทภ. ๓
- ภูเก็ต ๑ ปณ. เอฟ.เอ็ม.
- ลำปาง ทภ.๓ เอฟ.เอ็ม.
- ลำพูน ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- สุพรรณบุรี ทภ. ๑
- สุราษฎร์ธานี สวท.เอฟ.เอ็ม.
- สิงห์บุรี ชุมชน เอฟ.เอ็ม.
- สุโขทัย ทภ. ๓, ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- อุดรธานี ยานเกราะ, ทภ. ๓ เอฟ.เอ็ม.
- อุบลราชธานี ทอ. ๐๘
การเผยแพร่พระธรรมทางสถานีโทรทัศน์
- รายการบ้านธัมมะ ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์
- รายการบ้านธัมมะ ช่อง TNN2
- สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ช่อง 20
-สถานีโทรทัศน์ Dr.TV ช่อง 272
(ภาพหลวงบริหารวนเขตต์)
(ภาพหลวงบริหารวนเขตต์ คุณซาร่าห์ และ ท่านอาจารย์ ณ ประเทศอังกฤษ)
เกียรติประวัติ
พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับปริญญาศาสนศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พุทธศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา ในวันสตรีสากลขององค์การสหประชาชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พุทธศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับโล่และประกาศเกียรติคุณรางวัลพุทธคุณูปการ ระดับกาญจนเกียรติคุณ ลงนามโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ประธานคณะกรรมการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช) และนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและประธานผู้แทนราษฎร ดำเนินการโดยคณะกรรมมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร
ปัจจุบัน
ประธานกรรมการ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ท่านอาจารย์เล่าประวัติบางส่วนของท่านไว้ในรายการสนทนาปัญหาสารพัน ตามลิงก์ด้านล่าง :
Biographical Sketch of Ms. Sujin Boriharnwannaket, President of the Dhamma Study and Support Foundation
Birth Date: January 13, 1926.
Place of Birth: Ubon Ratchathani, Thailand.
Education:
- Saint Mary’s School, South Sathorn Rd. (primary and secondary education)
- Triam Udom Suksa School (Chulalongkorn University Preparatory School)
- Faculty of Commerce and Accountancy, Chulalongkorn University (sophomore level)
Previous Work Experience:
- Teaching at Dara Academy, Chiangmai
- Teaching Thai to foreigners at the Union Language School
- Teaching Thai at the Thai Language School
Dhamma Study:
- 1953 studied Abhidhamma at the Buddhist Association with Mrs.Naeb Mahaneranon, Mr.Boonmee Methangkul
Previous Dhamma Lectures:
- 1956 Dhamma lectures at the National Culture Congress and at the Women’s Correctional Facilty, Department of Corrections, Klongprem, Bangkok
- 1963 Lectured on Abhidhamma at the Buddhist Research Center at Wat Saket Ratcha Wora Maha Wihan
- 1967-1976 Lectured on "The Foundation for Developing Right Understanding" at the Somdej’s Residence, Mahatat-Yuwarachrangsarit Temple
1976-2000 Gave lectures on "The Foundation for Developing Right Understanding" at the Mahamakut Buddhist University, Wat Bowonniwet Viharalectured on Abhidhamma at Buddhist societies in various universities such as: Chulalongkorn University, Thammasat University, Srinakharinwirot University, Kasetsart University, The Royal Thai Airforce Academy, and others lectured on Dhamma to many government departments, including the 2nd Wing Division of the Royal Thai Airforce, Lopburi, Siriraj Hospital, Bhumibol Adulyadej Hospital, Phra Mongkut Klao Hospital and others
- 1976 to the present, lectures on Abhidhamma to members of Buddhist Assemblies at various universities, and has presided over Q&A sessions with Buddhist monks, novices, and lay devotees at a number of places in Bangkok and other provinces
- 1977 Invited to participate in a Conference on Buddhist Dhamma in Sri Lanka
- 1992 and 2000 Invited to present Dhamma instruction in the Kingdom of Cambodia
- 1998, 2000, 2002 Invited to Dhamma talks in the U.S.A.
- 2000 to present Dhamma talks on "The Foundation for Developing Right Understanding" at the Dhamma Study and Support Foundation
- 2002 the Committee of Religion, Art and Culture, The House of Representatives, invited Ms.Sujin and scholars from the Dhamma Study and Support Foundation to hold Dhamma Discussions at Parliament House.
- 2012 to present Invited to Dhamma talks in Vietnam.
- 2018 Invited to Dhamma talks in Taiwan.
Ms. Sujin Boriharnwanaket has written more than fifteen books on Buddhism including “A Survey of Paramattha Dhamma” and “The Conditionality of Life”. Her lectures are broadcast from more than twenty broadcasting stations throughout Thailand.
Honors Received:
- 1985 Granted an emblem of honor by Her Royal Highness Princess Sirindhorn in recognition of the great benefits derived from her total dedication to Buddhism
- May 30, 2002 Honorary Masters Degreee in Religious Studies (Buddhism) from Mahamakut Buddhist University
- March 7, 2007 Outstanding Award for Women in Buddhism, on the Occasion of International Women’s Day by the United Nations
- May 25, 2008 Honorary Doctorate Degree in Religious Studies (Buddhism) from Mahamakut Buddhist University
- April 22, 2009 Emblem of Honor presented by the Committee for Religion, Art and Culture of the House of Representatives
Present Position: Chairman of the Board of Directors of the Dhamma Study and Support Foundation, registration no. 2522, August 1, 1984
address: 174/1 Charoen Nakorn 78, Dao Khanong, Thonburi, Bangkok 10600, Thailand; Tel: +662-468-0239;
website: www.dhammahome.com
ท่านอาจารย์เล่าประวัติบางส่วนของท่านไว้ในรายการสนทนาปัญหาสารพันตามลิงก์ด้านล่าง :
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณลุงประพันธ์ ธรรมจีรัง ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๑ ท่านเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์รุ่นแรกๆ ที่ได้ถ่ายภาพ บันทึกเสียงคำบรรยายทั้งที่เป็นเทปคาสเสทและวิดีโอ ตั้งแต่ท่านอาจารย์บรรยายธรรมใหม่ๆ เมื่อกว่า ๖๐ ปีมาแล้ว และท่านได้มอบภาพถ่าย วีดีโอทั้งหมดไว้กับคุณวันชัย ภู่งาม ซึ่งคุณวันชัยได้คัดเลือกภาพและวิดีโอมาประกอบเรื่องในกระดานสนทนาตามความเหมาะสม
ขอขอบคุณและอนุโมทนาคุณซาราห์ แอบบอท ที่นำภาพคุณพ่อและท่านอาจารย์ขณะที่เดินทางไปประเทศอังกฤษเมื่อเกือบ ๔๐ ปีก่อนจากอัลบั้มภาพของคุณแม่คุณซาราห์มาให้และคุณวันชัยได้คัดเลือกมาประกอบเรื่อง และคุณแม่คุณซาราห์ก็เพิ่งเสียชีวิตไปแล้วเช่นกันเมื่อกลางเดือนมกราคม ๒๕๖๑ นี้เอง
ขออุทิศส่วนกุศลที่ทำมาแล้วทั้งหมดให้ท่านทั้งสองร่วมอนุโมทนาด้วยเทอญ
คุณซาราห์พูดในการสนทนาธรรมที่ชลพฤกษ์ รีสอร์ท นครนายกว่า ถ้าคุณแม่เสียชีวิต จะกล่าว สัลลสูตร ในพิธีศพ เพราะเธอประทับใจมาก ซึ่งข้อความในพระสูตรมีว่า
" ... ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีเครื่องหมาย ใครๆ รู้ไม่ได้ ทั้งลำบาก ทั้งน้อย และประกอบด้วยทุกข์ สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดแล้ว จะไม่ตายด้วยความพยายามอันใด ความพยายามอันนั้นไม่มีเลย แม้อยู่ได้ถึงชราก็ต้องตาย เพราะสัตว์ทั้งหลายมีอย่างนี้เป็นธรรมดา ผลไม้สุกงอมแล้ว ชื่อว่าย่อมมีภัยเพราะจะต้องร่วงหล่นไปในเวลาเช้า ฉันใด สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดแล้ว ชื่อว่าย่อมมีภัย เพราะจะต้องตายเป็นนิตย์ ฉันนั้น
ภาชนะดินที่นายช่างทำแล้วทุกชนิด มีความแตกเป็นที่สุด แม้ฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนเขลา ทั้งคนฉลาด ล้วนไปสู่อำนาจของมฤตยู มีมฤตยูเป็นที่ไปในเบื้องหน้าด้วยกันทั้งหมด
เมื่อสัตว์เหล่านั้นถูกมฤตยูครอบงำแล้ว ต้องไปปรโลก บิดาจะป้องกันบุตรไว้ก็ไม่ได้ หรือพวกญาติจะป้องกันพวกญาติไว้ก็ไม่ได้ ท่านจงเห็น เหมือนเมื่อหมู่ญาติของสัตว์ทั้งหลายผู้จะต้องตาย กำลังแลดูรำพันอยู่โดยประการต่างๆ สัตว์ผู้จะต้องตายผู้เดียวเท่านั้นถูกมฤตยูนำไปเหมือนโคที่บุคคลจะพึงฆ่าถูกนำไปตัวเดียวฉะนั้น ความตายและความแก่กำจัดสัตว์โลกอยู่อย่างนี้
เพราะเหตุนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายทราบชัดสภาพของโลกแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก ท่านย่อมไม่รู้ทางของผู้มาหรือผู้ไป ไม่เห็นที่สุดทั้งสองอย่าง ถึงจะคร่ำครวญไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าผู้คร่ำครวญหลงเบียดเบียนตนอยู่จะยังประโยชน์อะไรๆ ให้เกิดขึ้นได้ไซร้
บัณฑิตผู้เห็นแจ้งก็พึงกระทำความคร่ำครวญนั้น บุคคลจะถึงความสงบใจได้ เพราะการร้องไห้ เพราะความเศร้าโศก ก็หาไม่ ทุกข์ย่อมเกิดแก่ผู้นั้นยิ่งขึ้น และสรีระของผู้นั้นก็จะซูบซีด บุคคลผู้เบียดเบียนตนเอง ย่อมเป็นผู้ซูบผอม มีผิวพรรณเศร้าหมอง
สัตว์ทั้งหลายผู้ละไปแล้ว ย่อมรักษาตนไม่ได้ด้วยความรำพันนั้น การรำพันไร้ประโยชน์ คนผู้ทอดถอนถึงบุคคลผู้ทำกาละแล้ว ยังละความเศร้าโศกไม่ได้ ตกอยู่ในอำนาจแห่งความเศร้าโศก ย่อมถึงทุกข์ยิ่งขึ้น ท่านจงเห็นคนแม้เหล่าอื่นผู้เตรียมจะดำเนินไปตามยถากรรม (และ) สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ผู้มาถึงอำนาจแห่งมัจจุแล้ว กำลังพากันดิ้นรนอยู่ทีเดียว ก็สัตว์ทั้งหลายย่อมสำคัญด้วยอาการใดๆ อาการนั้นๆ ย่อมแปรเป็นอย่างอื่นไปในภายหลัง ความพลัดพรากกันเช่นนี้ย่อมมีได้ ท่านจงดูสภาพแห่งโลกเถิด มาณพแม้จะพึงเป็นอยู่ร้อยปีหรือยิ่งกว่านั้น ก็ต้องพลัดพรากจากหมู่ญาติ ต้องละทิ้งชีวิตไว้ในโลกนี้
เพราะเหตุนั้น บุคคลฟังพระธรรมเทศนาของพระอรหันต์แล้ว เห็นคนผู้ล่วงลับทำกาละแล้ว กำหนดรู้อยู่ว่า บุคคลผู้ล่วงลับทำกาละแล้วนั้น เราไม่พึงได้ว่า จงเป็นอยู่อีกเถิด ดังนี้ พึงกำจัดความรำพันเสีย บุคคลพึงดับไฟที่ไหม้ลุกลามไปด้วยน้ำ ฉันใด นรชนผู้เป็นนักปราชญ์ มีปัญญา เฉลียวฉลาด พึงกำจัดความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นเสีย โดยฉับพลันเหมือนลมพัดนุ่น ฉะนั้น
คนผู้แสวงหาความสุขเพื่อตน พึงกำจัดความรำพัน ความทะยานอยากและความโทมนัสของตน พึงถอนลูกศร คือ กิเลสของตนเสีย เป็นผู้มีลูกศร คือ กิเลสอันถอนขึ้นแล้ว อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยแล้วถึงความสงบใจ ก้าวล่วงความเศร้าโศกได้ทั้งหมด เป็นผู้ไม่มีความเศร้าโศก
เยือกเย็น ฉะนี้แล ฯ
(ภาพคุณแม่ของคุณซาร่าห์)
บัดนี้คุณซาราห์คงได้กล่าวพระสูตรนี้แล้ว อนุโมทนาที่ทำให้มีผู้ได้ยินพระดำรัสอันมีค่ายิ่งของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น พระธรรมยิ่งเผยแพร่ยิ่งรุ่งเรือง
กราบเท้า อ.สุจินต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออาจารย์สุขภาพแข็งแรง และเป็นกำลังพระพุทธศาสนา
ส่งมอบความรู้ความเข้าใจในคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้แก่ผู้ไม่รู้ ให้เกิดความเข้าใจตามกำลังค่ะ
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยคุ้มครองท่านอาจารย์ให้มีสุขพลานามัยแข็งแรง เพื่อเป็นผู้นำกระแสธรรมมาสู่เหล่าผู้มีโอกาสได้ฟังได้ทั้งหลายให้ได้เข้าใจและเห็นธรรม
กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูง
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่ง ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนาบุญครับ ... ทุกวันนี้ผมก็ได้มีโอกาสขยายความรู้ทางธรรมะจากการฟังธรรมบรรยายทางช่อง youtube แผ่นซีดี หรือแหล่งที่มีการเผยแพร่ต่างๆ แรกๆ ก็ฟังการบรรยายของอาจารย์เข้าใจบ้างไม่ไม่เข้าใจ แต่เดี๋ยวนี้ มีความตั้งใจมากขึ้น ฟังเข้าใจได้ง่าย ... ผมก็ทำเป็นกิจวัตร ทำประจำทุกวันทุกคืน ต้องฟังธรรมะที่อาจารย์บรรยายครับ
ดีใจที่สุดและเป็นมงคลต่อชีวิตตนเองที่สุดที่ได้ไปกราบเท้าท่านอาจารย์ และได้ฟังธรรมจากท่านโดยตรง ท่านคือผู้ที่งามพร้อม ทั้งในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด ทั้งกาย วาจา ใจ ปัญญา และ ธรรม
ขอน้อม จิต เจตสิก และรูป นี้ กราบเท้าท่านอาจารย์ผู้มีคุณอันล้นพ้นที่แสดงธรรมให้ข้าพเจ้าได้เห็นแสงแห่งพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
น้อมกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพ
ขอให้ท่านอาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายใจเพื่อเผยแพร่พระธรรมที่ถูกต้องของพระพุทธองค์นานเท่านานเจ้าค่ะ ขออนุโมทนา สาธุๆ ๆ เจ้าค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านที่ได้เผยแพร่พระธรรมตามความเป็นจริงให้ผู้คนทั้งหลายได้ตาสว่าง ถ้าไม่ได้ฟังธรรมจากท่าน ดิฉันคงโง่ด้วยความไม่รู้อีกนาน
กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
กราบขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์ ขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ
กราบเท้าอาจารย์ด้วยความนอบน้อม และอนุโมทนากับมหากุศลในการเผยแพร่ธรรมตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพอย่างสูุงค่ะ!
เกิดมาชาตินี้หากครอบครัวของเราไม่ได้พบท่าน ชีวิตนี้ก็คงเต็มไปด้วยความมืดบอด ขออนุโมทนาสามีคือคุณ Ivan Mathews Walsh ชาว Australian ที่ได้เป็นผู้พาไปพบท่านอาจารย์ครั้งแรกเกือบ ๕๐ ปีที่แล้วค่ะ
ผมศึกษาธรรมะด้วยความอยากรู้มากมาย ตรงไหนเค้าว่าดีก็ไปตรงไหนว่ามีพระอรหันต์ก็ไปเพื่ออยากไปสนทนาธรรม ไปสอบถามเรื่องที่ยังติดข้องใจ เพราะเข้าใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าก็คือ สิ่งที่ท่านบอกเราไว้ให้ศึกษาพิสูจน์ว่าจริงไหม แล้วนำไปใช้กับชีวิตให้ดีขึ้นอย่างไรและนำไปสู่ความหลุดพ้นได้อย่างไร แต่ตัวผมเหมือนจะรับข้อมูลมาพิจารณามากมายแต่กับใช้ได้ไม่คุ้มประโยชน์เลย แต่ก็ต้องบอกว่าอาจจะด้วยบุญกุศลที่อาจจะพอมีมาบางจึงทำให้ได้รู้จักธรรมะจาก อ.โดยบังเอิญเนื่องจากเราชอบฟังธรรมทาง ยูธูปจึงมีโพสแชร์ข้อธรรมดีๆ ที่ได้ฟังและไตรตรองดีแล้วว่าเป็นเหตุเป็นผลและตรงกับคำของพระพุทธเจ้า
จนมีเพื่อนๆ ที่สนใจในการฟังธรรมได้แชร์ ธรรมะที่ อ.ได้บอก สอน สอบถาม สนทนา ไตร่ถาม จนทำให้ผมคลายความสงสัย หลายๆ เรื่อง เช่นเรื่องการนั่งสมาธิ เพื่อให้ได้ฉาน จนเกิดญาณ (ปัญญา) แล้วเอาไปพิจรณาการเกิดดับ ซึ่งมันยากมากๆ และเป็นข้อสงสัยของผมว่าจะต้องไปถามคนที่ทำได้เค้าต้องรู้เมื่อเค้ารู้เค้าก็ต้องมีวิธีที่จะทำ แต่ผมได้ฟังอาจารย์ พูดแค่คำว่าเห็นคือ เห็นที่แรกๆ ก็ไม่เข้าใจพอพิจารณาไปซักพอก็เข้าใจ แล้วมันโยงไปเรื่องเกิดดับได้ด้วยตัวมันเองโดยที่แทบจะไม่ต้องนั่งสมาธิเลย เพียงแต่ต้องเข้าใจว่าความจริงมันคืออะไร พอมันเกิดแล้วมันก็ดับไป แต่ความจริงของการเห็นนั้นมันก็ยังอยู่ของมันแบบนั้นเราไปทำอะไรมันไม่ได้จริง ที่เค้าเรียกว่าซักแต่ว่ารู้เฉยๆ เข้าใจว่ามันคืออะไรก็หายสงสัยแล้ว ยิ่งช่วงนี้หยุดยาวๆ คงจะได้ฟัง คลิปของ อ.ให้มากๆ ครับ
ในวันข้างหน้ามีโอกาสหรือวาสนาคงจะได้เข้าไปพบ และได้สนทนากับอ.บ้าง ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านก็คงสอนไปตามสิ่งที่เป็นไปในขณะนั้น สนทนากันไปสอบถามกันไป ไม่รู้ก็ย้ำจนกว่าจะรู้เหมือนที่อ.ทำ เพราะคนเราเมื่อรู้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยในเรื่องนั้นๆ แล้วเดินหน้าต่อไปกับเรื่องที่ยังสงสัยต่อ ถ้าเขียนความในใจไปสามหน้ากระดาษคงไม่พอจริงๆ ผมดีใจที่ยังมีโอกาสได้เจอบุคคลที่เข้าใจและได้ถ่ายทอดแบบตรงไปตรงมาไม่ย่อย่อนหรือเกรงกลัวความขุ่นข้องหมองใจกันกับผู้สนทนาเพราะด้วยความเมตตาที่อ.มีมากจริงๆ บางคนอาจจะไม่รู้ตัว สุดท้ายนี้เนื่องในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย ผมก็ขออนุโมทนา สาธุกับอ.สุจินต์ ขอให้อ.ยังคงมีสุขภาพที่ดีตามกำลังและยังเป็นผู้แสดงแจ้งความจริงของคำของตถาคตสืบต่อไปครับ
กราบท่าน อ.สุจินต์ ด้วยความเคารพยิ่ง ที่ทำให้ผมตาสว่างจริงๆ ที่ท่านและคณะนำพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ มาถ่ายทอดให้ฟังมายาวนาน ให้เข้าใจถูกเห็นถูก ฟังท่านอาจารย์ ได้ยินเสียงท่านอาจารย์ และคิดว่าฟังเข้าใจยากตั้งแต่รุ่นกะเตาะ แต่ปัจจุบันเข้าใจถูกเห็นถูกเพิ่มขึ้นทุกวัน และจะฟังพระธรรมตลอดไปครับ
ขออนุโทนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์และคณะครับ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในช่วงเดือน พค. ๒๕๖๓ และโควิด และมีโอกาสสนทนา online เป็นช่วงที่ได้ใกล้ชิดและเข้าใจพระธรรมมากขึ้น เป็นบุญมากที่ได้สนทนาแต่ยากมากที่เข้าใจ อนัตตาค่ะ แต่เริ่มสะสมปัญญาบารมีต่อไป เพื่อมีความเห็นผิดลดลงจากการที่ได้สนทนาบ่อยครั้งที่ ท่านอาจารย์ได้เมตตากล่าว ธรรมะให้เข้าใจความไม่มีเราให้กระจ่างในชีวิตแม้สะสมได้เพียงเล็กน้อย ก็เกิดความเป็นมงคลในการมีโอกาสตลอดเดือนนี้ค่ะ
กราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ
ธรรมมะจัดสรรมาให้เจอตามเหตุตามปัจจัยค่ะ ปลื้มใจค่ะ ขอบพระคุณค่ะ อนุโมทนาด้วยนะคะ
คำถามคือ คำตอบตลอดเลยค่ะ
สำหรับ.อาจารย์สุจินต์
กราบเท้า ท่านอาจารย์สุจินต์ ที่เคารพ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเคยฟังท่านอาจารย์ทางวิทยุ แต่ฟังยังไงก็ไม่รู้เรื่องเลย มาปีนี้ เมื่อกันยายน ๒๕๖๓ ย้อนกลับมาฟังใหม่ทางอินเตอร์เน็ต คราวนี้กลับเข้าใจ แม้จะเข้าใจเพียงเล็กน้อยเหลือประมาณเมื่อเทียบกับสิ่งที่อาจารย์พยายามถ่ายทอดออกมาเพื่อให้เข้าใจธรรม แต่มันยิ่งใหญ่สำหรับหนูมาก บางครั้งถึงกับนั่งน้ำตาคลออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ มา ณ ที่นี้ค่ะ
ดั่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสรรเสริญอนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์
ได้ประจักษ์แล้วว่าท่านอาจารย์สุจินต์และคณะได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระพุทธองค์อย่างสูงสุดด้วยความเมตตา วิริยะ ขันติฯ
กระผมขอกราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์และคณะด้วยขอรับ
ได้รับฟังการสนทนาธรรมจากอาจารย์แล้ว ท่านอาจารย์ได้ถ่ายทอดคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นคำจริงได้อย่างน่าฟังและแตกฉานในธรรมอย่างยิ่ง
ขออนุโมทนาบุญกับท่านด้วยครับ
กราบขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงครับ ได้รับผลตามที่ท่านอาจารย์หมายไว้และอนุโมทนาบุญนี้ให้ท่านเจริญในธรรมด้วย ครับ
ขอกราบขอบพระคุณครับ
ได้ฟังปัจจัย ๒๔ ของท่านอาจารย์ ทำให้เข้าใจถูกแล้วครับ กราบอนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณอาจารย์สุจินต์มากๆ ค่ะ เปิดให้สามีได้ฟังด้วยเขาน้ำตาไหลเลยค่ะ บอกไม่เคยได้ยินมาก่อนเพิ่งเห็นอาจารย์ครั้งแรก พอได้ฟังเกิดความเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์และวิทยากรพูด บอกอาจารย์สุดยอดค่ะ ขอให้กุศลที่อาจารย์บรรยายธรรม พูดให้ผู้ฟังค่อยๆ ไตร่ตรองทีละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมือนดึงสติให้คิดพิจารณายิ่งฟังยิ่งเข้าใจเป็นประโยชน์ค่ะ กุศลนี้ส่งให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรงทั้งกำลังกายใจ ขอบคุณวิทยากรทุกท่านด้วยค่ะ
ตอนเด็กๆ แม่เปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ช่วงหัวค่ำทุกวันได้ยินเสียงอาจารย์พูดธรรมะ ด้วยเสียงที่มีเอกลักษณ์ (ดิฉันเกิด 2502) ก็เพียงแต่ได้ยินเสียงแต่ไม่เข้าใจเนื้อหาที่พูดเพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง น่าเสียดายโอกาสตอนนั้นจริงๆ ค่ะ
ขอกราบเท้าอาจารย์ที่ทำให้ดิฉันมีบุญได้มีโอกาสฟังอาจารย์อยู่ทุกวันนี้ค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างสูง และกราบยินดีในความดีของทุกๆ ท่าน ค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพอย่างสูง ขอให้ท่านอาจารย์และญาติธรรมทุกท่าน มีสุขภาพแข็งแรง กราบอนุโมทนาทุกด้วยค่ะ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ ขอให้ท่านอาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง กราบอนุโมทนากุศลที่ท่านอาจารย์ได้ให้ปัญญาครับ
อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ บรรยายธรรมลึกซึ้งมากและเป็นที่น่าอัศจรรย์ครับ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
เกิดมาไม่ได้เข้าใจในพระธรรม ในความจริงที่มี เพียงการได้สัมผัสกับศาสนพิธีอยู่เนืองๆ แต่ก็ไม่รู้อะไร ล่วงเลยมาเกือบ ๕๐ ปีจึงได้เริ่มมีความเข้าใจในสิ่งที่มีจริงจากท่านอาจารย์และคณาจารย์บ้านธรรมะ กระนั้นกว่าจะเข้าใจก็ยากยิ่งต้องใช้เวลาฟังทบทวนบ่อยๆ ยิ่งฟังก็ยิ่งเข้าใจ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ