การเข้าใจจุดมุ่งหมายในพุทธ
เป็นประการต้นๆ ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น และเป็นหนทางไปสู่การศึกษาเรียนรู้ในศาสนาพุทธ กลุ่มคนที่เปรียบเสมือนบัวในโคลน (และเป็นคนรอบตัวเรา) เราจะมีวิธีที่จะช่วยให้เขาโผล่ขึ้นจากโคลนได้บ้างไหมคะ?
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคําจริง เป็นคําอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เข้าใจถูก เห็นถูกตามความเป็นจริง เกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์ ที่กว่าจะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ต้องบําเพ็ญพระบารมีสะสมคุณความดีประการต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ พระบารมีที่พระองค์ทรงบําเพ็ญมาทั้งหมดก็เพื่อโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสในที่สุด จะเห็นได้ว่าเมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนพุทธบริษัทบ่อยๆ เนืองๆ ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาพระองค์จวนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พระธรรมมีประโยชน์มาก ทําให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสจนกว่า กิเลสจะดับหมดสิ้นไป พระธรรมจึงเป็นประโยชน์สําหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้นซึ่งเป็นผู้มีศรัทธาเห็นประโยชน์ของพระธรรมได้ยินได้ฟังมาแล้วในอดีต ส่วนบุคคลผู้ที่ไม่ได้สะสมบุญมาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม พระธรรมย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าสําหรับเขา ซึ่งจะตรงกับคําที่ว่า “พระธรรม ไม่สาธารณะกับทุกคน” อย่างแท้จริง ประการที่สําคัญที่ควรจะตระหนักอยู่เสมอ คือเราไม่สามารถทําให้คนทุกคนหันมาเป็นผู้สนใจ ศึกษาพระธรรมเหมือนกันหมด หรือ ไม่สามารถทําให้ทุกคนดําเนินชีวิตเป็นไปอย่างที่เราคิดได้ เพราะเป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ เพราะฉะน้ันแล้ว กิจที่ควรทําสําหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็คือจะต้องมีความอดทน มีความเพียร มีความจริงใจที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป ไม่ละเลยโอกาสที่สําคัญในชีวิตที่จะทําให้ตนเองได้เข้าใจถูกเห็นถูกในธรรมตามความเป็นจริงซึ่งเป็นขณะที่ประเสริฐ และหายากเป็นอย่างยิ่ง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
☸️☸️เป็นหัวข้อคำตอบที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา ค่ะ
ผมได้พบเพื่อนเก่าสมัยเรียนประถมที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี พอมาเจอกันก็ทราบว่า เขาได้ไปสำนักปฏิบัติธรรมบ่อย ไป สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ตามที่เขาทำกัน ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งมาคุยเกี่ยวกับเรื่องของลูกว่า ลูกของตัวเองประพฤติไม่ดีเลย เขาก็เลยแนะนำว่า ให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วลูกจะกลับมามีความประพฤติดีขึ้น ผมก็อธิบายด้วยเหตุและผลว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องเวรกรรมมันเป็นเรื่องของใครทำใครก็รับไป ก็สนทนากันอยู่พักหนึ่ง ก็มีความเชื่อที่แตกต่างกัน จนผมเลิกสนทนาด้วย และก็คุยอีกหลายรายที่มีพฤติกรรมการปฏิบัติธรรมทำนองนี้ ก็เข้าใจต่างกันกับ มศพ. ผมจึงหวนไปคิดถึงคำของท่าน อ.สุจินต์ ที่บอกว่าธรรมไม่สาธารณต่อทุกคนจริงๆ จึงเริ่มเข้าใจ และคิดว่า ต้องฟังธรรมบ่อยๆ สนทนาธรรมกับผู้รู้ที่แท้จริงเนืองๆ สติปัญญาก็จะทำหน้าที่ไปเอง เพราะพระธรรมละเอียดลึกซึ้งมากจริงๆ ครับ