คำจริงเปลี่ยนไม่ได้
คำจริงเปลี่ยนไม่ได้ "ธรรมะคือสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ เป็นอนัตตา มีแล้วตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีใครทำให้เกิดขึ้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เกิดขึ้นชั่วขณะที่ปรากฏแล้วดับไป ไม่มีอะไรเหลือเลย" เมื่อฟังแล้วเข้าใจ ค่อยๆ ละความติดข้อง ได้ประโยชน์จากพระธรรม สะสมความเข้าใจจนแทงตลอดความจริงเมื่อถึงเวลา เหตุต้องสมควรแก่ผล
สิ่งที่สะสมในจิต ไม่สูญหายไปไหน
ทุกคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงย้ำเตือนให้เห็นโทษของอกุศล ขัดเกลากิเลส เจริญกุศล ด้วยความเข้าใจในความเป็นธรรมะ
"ผู้มีปัญญาน้อย จะเข้าใจพระไตรปิฎกได้ยาก" พระไตรปิฎกไม่สามารถเป็นที่พึ่งของผู้มีปัญญาน้อย มีปัญญาแค่ไหน ก็รู้ได้แค่นั้น
ได้ยิน "ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง" แล้วเข้าใจไหม? ฟัง แต่ละคำแล้วเข้าใจจริงๆ หรือเปล่า? ฟังเพื่อ เข้าใจ ขึ้นๆ ไม่คิดเอง เข้าใจตามที่ได้ฟัง เพื่อ มั่นคงขึ้น ว่าเป็นธรรมะแต่ละหนึ่ง ไม่ใช่เรา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อ ผู้ฟัง จะได้ค่อยๆ เข้าใจ ขึ้น ตามการ สะสม ปัญญามา ตาม กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา ที่ได้สะสมมา ได้ยินได้ฟังสะสมเป็นอุปนิสัย เป็นที่พึ่งต่อไปในภายหน้า
สุตมญปัญญา ปัญญาสำเร็จจากการฟัง เพราะฉะนั้น ขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลย
สนทนาปฏิบัติธรรม มศพ. อา. ๒๘ ม.ค. ๖๑
กราบบูชาคุณและอนุโมทนาในคุณความดีของท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ