น้ำปานะ
สงสัยเรื่องน้ำปานะค่ะ ถ้าห้ามทำให้สุกด้วยไฟแล้วน้ำรากบัวจะต้องทำยังไงคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
น้ำปานะ คือน้ำผลไม้พนะสัมมสสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ มี ๘ ชนิด และน้ำอื่นๆ ตามสมควร เมื่อคั้นเอาเฉพาะน้ำ กรองไม่ให้มีกาก พระภิกษุรับประเคนแล้วฉันได้ตลอดวันและคืนหนึ่ง ประเด็นในคำถามขอให้พิจารณาจากข้อความจากอรรถกถา นะครับ
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๕๒
พระพุทธานุญาตน้ำอัฏฐบาน (น้ำปานะ ๘ ชนิด)
ดูกร ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำปานะ ๘ ชนิด คือ น้ำปานะทำด้วยผลมะม่วง ๑ น้ำปานะทำด้วยผลหว้า ๑ น้ำปานะทำด้วยผลกล้วยมีเมล็ด ๑ น้ำปานะทำด้วยผลกล้วยไม่มีเมล็ด ๑ น้ำปานะทำด้วยผลมะซาง ๑ น้ำปานะทำด้วยผลจันทน์หรือองุ่น ๑ น้ำปานะทำด้วยเง่าบัว ๑ น้ำปานะทำด้วยผลมะปรางหรือลิ้นจี่ ๑. ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด เว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำใบไม้ทุกชนิด เว้นน้ำผักดอง. ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำดอกไม้ทุกชนิด เว้นน้ำดอกมะซาง. ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำอ้อยสด.
คำอธิบายจากอรรถกถา
สาลุกปานะนั้น ได้แก่ น้ำปานะที่เขาคั้นเง่าอุบลแดงและอุบลเขียวเป็นต้นทำ ผารุสกปานะ นั้น ได้แก่ น้ำปานะที่ทำด้วยผลมะปราง อย่างอัมพปานะ (น้ำมะม่วง) อัฏฐบาน เหล่านี้ เย็นก็ดี สุกด้วยแสงอาทิตย์ก็ดี ย่อมควร สุกด้วยไฟไม่ควร
หากประสงค์จะถวายในเวลาเช้าชั่วเที่ยง ก็สามารถทำให้สุกด้วยไฟ (ต้ม) ถวายได้ พระภิกษุท่านสามารถประประเคนฉะนได้ในเวลาเช้าถึงเที่ยงเท่านั้น แต่จะถวายเป็นน้ำปานะหลังเที่ยง ไม่ได้ ครับ ถ้าจะเป็นน้ำปานะ ก็ต้องตามพระวินัย เท่านั้น ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...