ฌาน เป็นไปในกุศลส่วนเดียว
เคยฟังมาแต่ไม่เข้าใจ ว่า ฌาน ไม่ได้เป็นไปในกุศลส่วนเดียว อาจเป็นไปในอกุศลได้ด้วย นั้นเท็จจริงเช่นไร และการเจริญฌาน ให้เป็นสติปัฏฐาน มีลักษณะอย่างไร ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตามความเป็นจริงแล้วได้แสดงไว้ในพระไตรปิฎกว่าฌานนั้นมีทั้งที่เป็นฝ่ายกุศลและอกุศล ฌานที่เป็นฝ่ายอกุศลก็มีองค์ธรรมคือต้องมีวิตกและวิจารเจตสิกเกิดร่วมด้วยอยู่แล้วเพราะวิตกเจตสิกและวิจารเจตสิกเกิดกับจิตเกือบทุกดวง ขณะใดที่เป็นอกุศล วิตกเจตสิกและวิจารเจตสิกก็เกิดร่วมด้วย หากเกิดกับโสมนัสเวทนาก็มีปิติได้แต่เป็นไปในอกุศลมีโลภะ เป็นต้น รวมทั้งเอกัคคตาเจตสิก (สมาธิ) ซึ่งเกิดกับจิตทุกดวงก็เกิดขึ้นร่วมด้วยแม้เป็นฌานที่เป็นอกุศล ดังนั้นขณะใดก็ตามที่จิตจดจ่อ หมกมุ่น เป็นไปในอกุศลธรรม เช่น ในนิวรณ์ ความยินดีพอใจในรูป..เสียง เป็นต้น ก็เป็นอกุศลฌาน แต่อกุศลฌานไม่สามารถทำฤทธิ์ได้อย่างกุศลฌานครับ
ในทางตรงกันข้ามฌานที่เป็นฝ่ายกุศลก็มี วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตาเจตสิกซึ่งก็แล้วแต่ระดับของฌาน แต่จะเป็นไปในฝ่ายกุศลคือสงบระงับความยินดีพอใจ สงบจากนิวรณ์นั่นเองครับ พระพุทธเจ้าจึงไม่สรรเสริญฌานทั้งหมดและไม่ติเตียนฌานทั้งหมดเพราะฌานที่เป็นในกุศลและอกุศลก็มีครับ ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
ฌานที่ทรงสรรเสริญและไม่สรรเสริญ [โคปกโมคลัลลานสูตร]
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึงอย่างยิ่ง แม้แต่ในเรื่องของ ฌาน, ถ้ามีการอบรมเจริญเพียงสมถภาวนา ไม่สามารถดับกิเลสได้ เพียงสามารถข่มกิเลสไว้ด้วยความสงบแห่งจิตเท่านั้น และผลของสมถภาวนา คือ การเกิดในพรหมโลก ยังไม่พ้นจากทุกข์ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป แต่ถ้ามีการอบรมเจริญวิปัสสนาภาวนา คือ การอบรมเจริญปัญญา รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ย่อมสามารถถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสตามลำดับขั้น ทำให้พ้นจากทุกข์ได้ในที่สุด แม้จะไม่ได้มีการอบรมเจริญฌานก็ตาม ที่กล่าวถึงโลกุตตรฌานจึงมุุ่งหมายถึงเฉพาะผู้ที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมโดยที่มีการอบรมเจริญฌานด้วย เมื่อโลกุตตรจิตขั้นใด เกิดขึ้นพร้อมกับองค์ของฌานขั้นใด โดยมีฌานขั้นนั้นเป็นบาท ก็เป็นมัคคจิตและผลจิตที่เป็นโลกุตตรฌานขั้นนั้นๆ
แต่ถ้ากล่าวถึงอกุศลฌานแล้ว ย่อมไม่พ้นไปจากอกุศลทุกประการที่เกิดขึ้นเป็นไป ขณะที่อกุศลเกิดขึ้นเป็นไป ก็เผากุศล ทำให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้ เพราะองค์ธรรมที่เป็นองค์ฌาน ได้ แก่ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ซึ่งเจตสิกเหล่านี้เกิดกับอกุศลจิต ก็ได้ เมื่อเกิดกับอกุศลจิต ก็เป็นอกุศล เป็นอกุศลฌาน เผาธรรมที่ตรงกันข้ามกัน คือ ไม่ทำให้กุศลธรรม เกิดขึ้นเป็นไป ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...