ความเข้าใจ
ถ้าเข้าใจในธรรมะเป็นอย่างดี แต่ปฏิบัติตามได้ไม่มากนัก และตรงกันข้ามไม่กล้าแสดงความสำนึกผิดในเวลาที่พลาดพลั้ง
และเป็นบุคคลที่มองสิ่งต่างๆ ไม่ทะลุหรือเข้าใจอะไรได้ยาก และเข้าใจผิด ในเวลาที่ผู้อื่นพยายามจะสื่อสารบางอย่างในแง่บวก แต่คนเหล่านั้นกลับคิดไปในแง่ลบ
ถ้าเป็นผู้ที่มีจิตใจเปิดกว้างจะช่วยให้ศึกษาหรือเข้าใจธรรมะที่เป็นของจริงได้ง่าย และธรรมะจะช่วยเพิ่มพูนให้มีสติปัญญามากขึ้นไปด้วยไช่ไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แต่ละคนก็แต่ละหนึ่งตามการสะสมมาที่ไม่เหมือนกันเลย และธรรมทั้งหลายก็เป็นอนัตตา ไม่สามารถบังคับบัญชาให้ตนเองและผู้อื่นเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ได้ เพราะฉะนั้น งานที่สำคัญที่สุด คือ การขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญ และ ศึกษาพระธรรม เข้าใจพระธรรมตามกำลังปัญญาของตนเอง ส่วนผู้อื่นก็ตามการสะสมของแต่ละคน เพราะ พระธรรมไม่สาธารณะเลย ครับ
ไม่พึงพิจารณาคนอื่นพึงพิจารณาตนเอง [เรื่องปาฏิกาชีวก]
[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 62
"บุคคลไม่ควรทำคำแสยงขนของคนเหล่าอื่นไว้ในใจ, ไม่ควรแลดูกิจที่ทำแล้วและยังมิได้ทำของคนเหล่าอื่น, พึงพิจารณากิจที่ทำแล้วและยังมิได้ทำของตนเท่านั้น."
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แต่ละคน เป็นแต่ละหนึ่ง ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็มีแต่ธรรมเท่านั้น ไม่มีสัตว์ บุคคลตัวตนเลย ตราบใดที่ยังมีกิเลส ก็เป็นธรรมดาที่จะมีความประพฤติเป็นไปตามอำนาจของกิเลส ซึ่งก็เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ว่าใครทั้งสิ้น แต่ละคนจึงมีความประพฤติเป็นไปตามการสะสม ไม่เหมือนกันเลย ควรอย่างยิ่งที่จะมีความมั่นคงในความเป็นจริงของการสะสมของแต่ละคน
สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งในชีวิตไม่ใช่อกุศลธรรม ไม่ใช่มัวแต่ไปคิดว่าทำไมคนอื่นคนมองเราอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมคนอื่นทำไม่ดีกับเรา เป็นต้น ก็มั่นคงในเหตุในผล ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย แล้วเพิ่มพูนคุณความดีในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เมื่อเข้าใจธรรม ก็ทำให้เข้าใจตนเองและเข้าใจคนอื่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคนอื่นเขาจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างไร ใจเรา สามารถเป็นกุศลได้ไหม มีเมตตา กับเขาได้ไหม นี้แหละคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...