สังสารวัฏฏ์ คือ รูปธรรมและนามธรรม หรือเฉพาะนามธรรมครับ
ในการบรรยายของท่านอาจารย์ ที่ยอดเขาหยุนไหล ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อ 19 ธ.ค.60 มีข้อความตอนหนึ่งว่า รูปธรรมไม่ใช่สังสารวัฏฏ์ ขอความกรุณาท่านวิทยากรช่วยขยายความเพิ่มเติมให้ด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังสารวัฏฏ์ คือ การเกิดดับสืบต่อของสภาพธรรม เป็นไปอย่างไม่ขาดสาย มุ่งหมายถึงสภาพธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย และเพราะยังมีจิต และเจตสิกเกิดขึ้นเป็นไป ก็เป็นเหตุให้มีรูปธรรมเกิดขึ้นเป็นไปด้วย อันเนื่องมาจากสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม นั่นเอง อย่างเช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นต้น เป็นรูปที่เกิดจากกรรม แต่ถ้าเป็นรูปธรรมภายนอก เช่น ที่หมายเรียกกันว่า เป็นต้นไม้ ก้อนหิน เป็นต้น ไม่ได้เนื่องกับกรรม ไม่ได้เป็นสิ่งที่มีชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากกรรม ไม่มีนามธรรมเกิดขึ้นเป็นไปด้วย ก็ไม่ใช่สังสารวัฏฏ์ เพียงแต่เป็นรูปเกิดตามสมุฏฐานของตนๆ แล้วก็ดับไปเท่านั้นเอง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบคุณอาจารย์คำปั่นครับ
ผมขออนุญาตสนทนาต่อเนื่อง รูปมีสมุฏฐาน 4 คือ กรรม จิต อุตุ และอาหาร ดังนั้น รูปที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับกรรมซึ่งไม่ใช่สังสารวัฏฏ์ คือรูปที่มีสมุฏฐานใดบ้างครับ
เรียน ความคิดเห็นที่ ๒ ครับ
ถ้าเป็นรูปของสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากกรรม นั้น มีรูปที่เกิดจากสมุฏฐานได้ทั้ง ๔ สมุฏฐานเลย คือ กรรม จิต อุตุ และ อาหาร ตามควรแก่รูปประเภทนั้นๆ แต่ถ้าเป็นรูปที่ไม่เกี่ยวเนื่องด้วยกรรม เป็นรูปธรรมภายนอก ไม่เนื่องด้วยสังสารวัฏฏ์ คือ รูปที่เกิดจากอุตุเป็นสมุฏฐาน ครับ
พื้นฐานความเข้าใจ ก็คือ เพราะยังมีจิต เจตสิก เกิดขึ้นเป็นไป สังสารวัฏฏ์ยังเป็นไปอย่างไม่จบสิ้น เหตุปัจจัยหลักก็คือเพราะยังมีอวิชชา เป็นปัจจัยนั่นเอง ถ้าดับอวิชชาได้หมดสิ้น ถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อปรินิพพานแล้วไม่มีการเกิดอีก ไม่มีจิต เจตสิก และ รูป (อันเนื่องมาจากจิต เจตสิก) เกิดขึ้นเป็นไปอีกเลย ครับ
ขอเชิญคลิกฟังการสนทนาในประเด็นดังกล่าวนี้ได้ที่นี่ ครับ
สังสารวัฏฏ์ เป็นนามธรรม คือ จิต และ เจตสิก
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...