ประมาทขณะไม่เห็นโทษของความไม่รู้

 
nattawan
วันที่  26 มิ.ย. 2561
หมายเลข  29853
อ่าน  1,242

-กิเลสเป็นธรรมะเครื่องเศร้าหมอง จิตเศร้าหมองเพราะกิเลสที่เกิดร่วมด้วย จิตเพียงแต่รู้แจ้งอารมณ์ จิตไม่ใช่กิเลส

-ความไม่รู้ในสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้น่ากลัวมาก ไม่รู้ในคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่รู้ในทุกข์ สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้เกิดดับก็ไม่รู้ ไม่รู้เหตุให้เกิดทุกข์ สภาพธรรมที่ดับทุกข์ก็ไม่รู้ แล้วจะรู้หนทางให้หมดทุกข์ได้อย่างไร

-ประมาทขณะที่ธรรมะมีอยู่ก็ไม่รู้และไม่สนใจที่จะรู้ ไม่รู้ว่าเกิดเพราะเหตุปัจจัย ประมาทด้วยความไม่รู้ ตราบใดที่ยังไม่เห็นโทษของความไม่รู้ก็ประมาทแล้ว พระสัทธรรมก็เสื่อมไปจากจิตใจเพราะไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไร คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสื่อมเพราะไม่รู้แล้วจะไปรักษาอะไรได้ ประมาทขณะไม่เห็นโทษของความไม่รู้

-เริ่มต้นไม่มีความประมาทเมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เริ่มฟังพระธรรม ศึกษาคำจริงของพระองค์ที่ละเอียดลึกซึ้ง อย่างยิ่ง

-ขณะที่ไม่รู้นั้นไม่สงบและติดข้อง คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้สงบจากความไม่รู้ สิ่งที่ปรากฏปรากฏด้วยดีกับปัญญา เกิดแล้วดับ ไม่มีเรา ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยงเลย ฟังแล้วเข้าใจ ความเข้าใจค่อยๆ เพิ่มขึ้น ทั้งหมดไม่ใช่เราเป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ฟังไว้ๆ เข้าใจไว้ๆ สะสมไว้ๆ จนกว่าปัญญาค่อยๆ เพิ่มขึ้น ไม่ทอดทิ้ง ไม่ประมาท จนเข้าใจขึ้นอย่างมั่นคง จนธรรมที่ปรากฏปรากฏด้วยดีกับปัญญา เพราะเข้าใจถูกต้องว่าเป็นเพียงธรรมะที่ปรากฏ ไม่ใช่เรา ความเข้าใจค่อยๆ ละความไม่รู้ ละความเป็นเราและมั่นคงในความเป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 27 มิ.ย. 2561

.....ความเข้าใจค่อยๆ ละความไม่รู้ ละความเป็นเราและมั่นคงในความเป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 27 มิ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สิริพรรณ
วันที่ 4 มิ.ย. 2563

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงความจริง ก็หลงอยู่ในความไม่รู้...ไม่รู้ ว่าสิ่งที่ยึดติดมากมาย อยากได้แสวงหา ทั้งหมด เป็นเพียงสภาพธรรมไม่ใช่สัตว์บุคคล ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวเขา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นเพียงการเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม ที่เกิดตามเหตุปัจจัย และเหตุปัจจัยก็เป็นเพียงสภาพธรรม เพราะการเกิดดับอย่างเร็วมาก จึงไม่รู้ความจริง ทำให้หลงยึดติดว่ามีเรา มีเขา เป็นต้นเหตุของการทำ กรรมมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอกุศลกรรมและต้องรับผลต่อไป ที่ทำให้เกิดความทุกข์อีกมากมาย ทั้งทุกข์ใน อบายภูมิ และทุกข์ของความไม่เที่ยงในทุกภพภูมิ ตามเหตุปัจจัยที่ได้ทำไว้

การฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น จึงจะละคลายความไม่รู้ได้ และเห็นโทษของความไม่รู้ว่า เป็นต้นเหตุของอกุศลกรรมทั้งปวง

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์เป็นอย่างสูงที่ได้ถ่ายทอดพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจความจริง เห็นโทษของความไม่รู้ เห็นโทษของอกุศลทั้งปวง

ยินดีในโอกาสของทุกท่านที่ได้ศึกษาพระธรรมด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 8 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ