พระธรรมส่องแสงที่ จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อวัน ที่ ๒๕-๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และวิทยากรของมูลนิธิฯ อาจารย์สงบ เชื้อทอง อาจารย์ธิดารัตน์ หอมจันทร์ อาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ ได้รับเชิญจาก ร.ต.โสภณ และ คุณจริยา จ่ายพัฒน์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะหมายเลข 2708 และ 2709 ร่วมสนทนาธรรม ณ โรงแรมไดมอนต์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลาสามวัน ด้วยความศรัทธาของท่านทั้งสอง ที่มีต่อพระธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ถ่ายทอดตรงตามเป็นจริงจากท่าน อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากรของมูลนิธิ จึงทำให้เกิดการสนทนาธรรมขึ้นที่ จ. สุราษฏร์ธานี
เป็นครั้งแรกที่มีการจัดสนทนาธรรมขึ้นที่ จ.สุราษฏร์ธานี และเพราะความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ชาวสุราษฎร์ธานีที่เป็นสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ และ ชาวภาคใต้ และ ทั่วทุกๆ สารทิศ แม้จาก กทม.และที่ต่างๆ ก็ร่วมใจกันจัดสนทนาธรรม ซึ่งมีคนใหม่ๆ ที่ให้ความสนใจพระธรรมมากมาย และ เนื้อหาสาระการสนทนาธรรมก็ดีอย่างยิ่ง ที่แสดงถึงสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ และ วิกฤตพระพุทธศาสนาที่กำลังเกิดในปัจจุบัน ข้าพเจ้าจึงขอถ่ายทอด ถอดเทปในถ้อยคำอรรถะอันไพเราะออกมาเป็นตัวอักษร เพื่อให้สหายธรรมที่มีเหตุปัจจัยพร้อมได้มีโอกาส ศึกษาอบรมปัญญา พร้อมภาพที่สื่อถึงความมีศรัทธาแต่ละท่านในการสนทนาธรรมทั้งสามวันนี้ พร้อมวีดีโอยูทูป ยี่สิบนาที ให้ได้มีโอกาสฟัง (ตอนท้ายของกระทู้) และ ในโอกาสวันต่อไปก็จะตัดต่อลงยูทูปและเฟสบุ๊คแบบฉบับเต็มให้มีโอกาสอบรมปัญญาด้วยกันครับ นับจากนี้ขอนำธรรมมาดังนี้
ร.ต.โสภณ และ คุณจริยา จ่ายพัฒน์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะหมายเลข 2708 และ 2709
ท่านอาจารย์ คำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เข้าใจชีวิตและสิ่งที่มีที่เคยยึดถือว่าเป็นเราเป็นสัตว์บุคคลเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นที่ต้องการยินดีติดข้องตั้งแต่เกิดจนตาย แสวงหาด้วยความยากลำบากเพื่อให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการมาเป็นของเรา แต่เป็นของเราจริงๆ หรือเปล่า
เวลานี้บ้านอยู่ไหน ถ้าไม่คิดจะมีไหม ตายไปเลยจากโลกนี้ไหนบ้านเรา ยังไมได้คิด ถึงคิดแล้วแต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่บ้าน แต่เป็นห้องใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างละเอียดจริงๆ ทำไมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงบำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะรู้ความจริงอย่างนี้
เพราะความจริงอย่างนี้มี สุขก็มี ทุกข์ก็มี ทุกสิ่งทุกอย่างเนี่ยค่ะ ไม่ยั่งยืนเลย เพียงชั่วคราวแสนสั้น ขณะเห็นไม่มีได้ยิน ขณะที่ได้ยินไม่ได้คิด แต่ละหนึ่งขณะมีชั่วคราวและหมดไป
ความติดข้อง ไม่รู้สภาพธรรม ก็ทำให้เกิดความทุจริตต่างๆ กิเลสต่างๆ มากมาย อย่างที่ทุกคนกำลังรู้ว่าโลกกำลังเป็นอย่างนี้
แต่ไม่ใช่เป็นเฉพาะวันนี้ค่ะ เป็นมานานแล้ว แต่ไม่มีใครจะรู้ทั่วถึงเหมือนยุคนี้สมัยนี้ที่รู้ข่าวคราวอย่างรวดเร็ว แต่ให้ทราบว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเราจริงๆ เพราะแม้ว่าร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ของเราจริงหรือเปล่ า ถ้าจริงตอนตายมีเราไหม เป็นของเราหรือเปล่า
นึกถึงสิ่งที่เข้าไปอยู่ในโลงศพ ก่อนที่จะเข้าไปอยู่ในนั้น เหมือนอย่างนี้เลย แต่เข้าไปอยู่ในนั้น นับวันนับเดือน ดูใหม่สิ เลือดหนอง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่น่ารังเกียจนะคะ เป็นของใคร
ตราบใดที่ยังไม่ถึงเวลาเป็นอย่างนั้น ก็ยังยึดถือว่ายั่งยืน เป็นเรา แต่ว่าทุกคนหนีไม่พ้นนะคะ เพราะเป็นความจริง เพราะไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราบังคับบัญชาไม่ได้เลย ตั้งเกิดจนตาย เลือกเกิดก็ไม่ได้ เลือกตายก็ไม่ได้
เลือกเห็นก็ไม่ได้ เลือกให้เป็นสุขก็ไม่ได้ เลือกอะไรไม่ได้เลยทั้งสิ้นค่ะ ถ้าเราเข้าใจอย่างนี้คะ ก็จะเข้าใจว่าชีวิตที่เกิดมาสิ่งที่ประเสริฐที่สุด สิ่งที่มีค่าที่สุดคืออะไร (เข้าใจพระธรรม) อยู่ไปวันๆ สุขทุกข์ไปวันๆ แล้วก็จากโลกนี้ แล้วก็มีอีก เพราะว่าเราไม่ต้องการเกิดมาเลยในชาตินี้
แต่มีเหตุปัจจัยให้เกิดก็ต้องเกิด และไม่มีวันที่สิ้นสุดเลย ยังเป็นเรา ยังเป็นของเราต่อไปทุกๆ ชาติ ต่อเมื่อไหร่รู้ว่า แสงสว่างเป็นของเราหรือเปล่า พระอาทิตย์เป็นของเราหรือเปล่า
ชาวพุทธ คือ ผู้ที่เลื่อมใสและเคารพสักการะและมีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แต่ชาวพุทธมีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งหรือเปล่าและมีที่พึ่งยังไงบอกหน่อยสิคะ ไปกราบไหว้ขอให้หายป่วยไข้อย่างนั้นหรือ นั่นคือผู้ที่ไม่ใช่ชาวพุทธ
ด้วยเหตุนี้คะ ยุคนี้สมัยนี้เป็นสมัยที่ชาวพุทธไม่รู้จักพระพุทธศาสนา ชาวพุทธรู้จักแต่เวียนเทียนใช่ไหมคะ วันสำคัญ และไหนพึ่งพระพุทธเจ้า แล้วไหนคำของพระองค์ที่ทรงแสดงตลอด 45 พรรษา เพราะฉะนั้นจึงมีการศึกษาธรรม
ทุกวิชาที่แม้แต่วิชาที่ง่ายที่สุดนะคะ ยังต้องศึกษา จะทอดไข่ต้องศึกษาไหมคะ ต้องทำยังไง จะตุ๋น จะเจียวจะทำอะไรต่างๆ จะตัดเสื้อ จะเย็บผ้า ปลูกต้นไม้หรือทำอะไร ก็ต้องศึกษาทั้งหมด เพราะเหตุว่าถ้าไม่รู้ก็ทำไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธต้องศึกษาธรรมเพื่อที่ชาวพุทธจะได้เป็นชาวพุทธ
ไม่ใช่ชาวพุทธที่ไม่รู้อะไร แต่ก็กล่าวว่าเป็นชาวพุทธ เพราะฉะนั้นต้องศึกษาธรรม ทุกคำเป็นที่พึ่ง เพื่อเข้าใจธรรม
ตั้งแต่เกิดจนตายรู้อะไรไหม ดังนั้นพึ่งพระพุทธเจ้า คือ เข้าใจคำที่พระพุทธองค์ตรัส จึงจะเป็นชาวพุทธ
คุณจริยา กล่าวขอบคุณและปิดการสนทนาธรรมครั้งนี้
และนับเป็นเวลาที่มีค่าอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาเผยแพร่พระธรรมที่ จ.สุราษฏร์ธานี ธรรมเป็นไปตามเหตุปัจัจย มีผู้ที่สนใจพระธรรมใหม่ๆ หลายคนจากการสนทนาครั้งนี้ ทั้งมาจากมาประชุมสัมมนาที่ห้องประชุมอื่นๆ ก็มีโอกาสมาฟังและเข้าใจสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ ทั้งมาจากการประชาสัมพันธ์ของชาวสุราษฎร์ธานี และ ทั้งหลายทั้งปวง มาจากบุญเก่าที่ประกอบด้วยปัญญาที่สะสมมาแล้ว นำมาซึ่งความปลื้มปิติที่แต่ละท่านได้มีโอกาสเข้าใจพระธรรมอันเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของ ร.ต.โสภณ และ คุณจริยา จ่ายพัฒน์ และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน
รวดเร็วดีมากครับ ภาพชัดเจนสวยงามและความการสนทนาก็ดีมากๆ ครับ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะครับ
ได้ท่านป้าท่านนี้ เราชาวพุทธอาจจะได้พระในฝันดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านได้สั่งสอนเรามานะครับ พระไทยเป็นแสนๆ องค์คงต้องสึกและเหลือไม่กี่ร้อยองค์แน่นอนเพราะที่รู้ที่เห็นมีแต่พระที่ทำไม่ได้เลย พระชั่วๆ มีเยอะมากไปนอนกับสาว ดื่มเหล้าเมายา มีธุรกิจส่วนตัว รับเงินส่งต่อให้คนที่รัก มีเงินเก็บ บางพระมีเป็นล้านๆ บาทและคงมีอีกมากที่เราไม่รู้ มีเรื่องอีกแยะมากทุกคนในไทยคงรู้กันหมดแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้ท่านมาเราเห็นแสงสว่างรำไรในอนาคตกำจัดพระชั่วๆ ให้หมดในไทยแลนเลยครับ ผมมีโอกาสจะบินมาหาท่านครับ
ขอบพระคุณที่เป็นตัวแทนต่อสู้กับพวกพระชั่วนะครับอย่าย่อท้อเด็ดขาดนะครับคนไทยชาวพุทธอีกหลายล้านคนมีความหวังแล้วดีใจมากที่พบท่านป้าครับ
กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่ง ขออนุโมทนากับทีมรายงานค่ะ
ด้วยความเคารพและนอบน้อมในพระรัตนตรัย ขอกราบเท้าบูชาพระคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ ท่านวิทยากรคณะเจ้าหน้าที่บ้านธัมมะทุกท่าน และกราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของ ร.ต.โสภณ และ คุณจริยา จ่ายพัฒน์ ที่ทำให้ชาวสุราษฏร์ได้รับมีโอกาสฟังธรรมะและได้สนทนาธรรมอันเป็นมงคลนี้ เพื่อความเข้าใจในธรรมดียิ่งขึ้นไปค่ะ