แสงพระธรรมแม้ก่อนจิตสุดท้าย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะวิทยากรของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา พร้อมทั้งสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ได้รับเชิญจาก คุณสัมพันธ์ และ คุณนวรัตน์ พงษ์พรรณากูล เจ้าของกนกรัตน์ รีสอร์ท เพื่อไปสนทนาธรรม ณ กนกรัตน์ รีสอร์ท อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คุณสัมพันธ์ และ คุณนวรัตน์ พงษ์พรรณากูล เจ้าของกนกรัตน์ รีสอร์ทและจัดการสนทนาธรรม
มีสหายธรรมมากมายที่มาร่วมสนทนาธรรมอบรมปัญญาอันเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตและเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดเมื่อจากโลกนี้ไป ซึ่งข้าพเจ้าขอนำอรรถะอันไพเราะของพระธรรม แสดงโดย ท่านอ.สุจินต์ถอดเป็นตัวอักษาดังนี้ ครับ
ท่านอาจารย์ คุณสัมพันธ์ชอบทำกับข้าวไหมคะ
คุณสัมพันธ์ ไม่ครับ
ท่านอาจารย์ เห็นไหมคะ แต่ละคนก็แต่ละหนึ่งก็จะหลากหลายกันมาก บังคับอยากจะเป็นคนดี อยากจะให้ทำดีทุกอย่างแต่เป็นเราถูกไหม
เพราะฉะนั้นก็ไม่มีทางที่จะดี ไม่มีทางรู้ว่าไม่ใช่เรา แค่ดีก็ยึดถือว่าเป็นเราและดีนั้นก็หมดไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่ความเห็นที่ถูกต้องนะคะ เพราะฉะนั้นในบรรดาสิ่งที่เป็นกุศลและสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ปัญญาประเสริฐที่สุด คือ รู้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงและจะค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ
คุณอรวรรณ กราบเรียนท่าน อ.สุจินต์ที่เคารพ ขอสนทนากับท่านอาจารย์เรื่องปกติ ปกติเป็นอกุศลก็รู้ว่าปกติก็เป็นอกุศล ปกติเป็นกุศลก็รู้ว่าเป็นกุศล
ท่านอาจารย์ เดี๋ยวก่อนนะคะ อกุศลเกิดขึ้นแล้วรู้ว่าเป็นอกุศล กับ กุศลเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่าเป็นกุศล อะไรดี
คุณอรวรรณ อกุศลเกิดแล้วรู้ว่าเป็นอกุศลดีกว่า เพราะว่ารู้ความจริง
ท่านอาจารย์ เพราะบังคับบัญชาได้ไหม
คุณอรวรรณ ไม่ได้ค่ะ
ท่านอาจารย์ แล้วใครล่ะไม่มีอกุศลเกิด เพราะฉะนั้นอกุศลเกิดแล้วไม่รู้ กุศลเกิดแล้วก็ไม่รู้ แต่ว่ากุศลเกิดแล้วไม่รู้ กับ อกุศลกำลังเกิดแล้วรู้ต่างกันแล้วใช่ไหมคะ
คุณอรวรรณ คือประเด็นการสนทนาคือ ศึกษาธรรมเพื่อรู้และขัดเกลากิเลส แล้วจะขัดแย้งกับปกติเป็นกุศล อกุศลอย่างไรคะ
ท่านอาจารย์ แล้วอะไรขัด
คุณอรวรรณ ปัญญา
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นต้องขณะนั้นที่รู้จึงขัดเกลากิเลส เพราะฉะนั้นดีเท่าไหร่แต่ไม่รู้ ขัดเกลากิเลสหรือเปล่า (ไม่) เพราะฉะนั้นกิเลสละไม่ได้เลยถ้าเป็นตัวตน
คุณอรวรรณ ก็เหมือนกับว่าฟังธรรมมาตั้ง 10 ปี แต่กิเลสก็ยังหนามากๆ ก็..
ท่านอาจารย์ ใครไม่มีกิเลสหนา
คุณอรวรรณ ต้องเป็นพระอริยบุคคล
ท่านอาจารย์ แต่คนที่รู้และไม่รู้ต่างกันใช่ไหม
คุณอรวรรณ เพราะฉะนั้นแนวทางของท่านอาจารย์คือรู้
ท่านอาจารย์ แนวทางของใคร แนวทางของความจริงค่ะ
คุณอรวรรณ เพราะฉะนั้นแนวทางของความจริง คือ สำคัญที่รู้ รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่ตัวเรา ไม่ว่าอะไรจะเกิด
ท่านอาจารย์ ถูกต้อง ค่ะ ถ้าปัญญาไม่เกิด ดับกิเลสไม่ได้
คุณอรวรรณ ดังนั้นโดยมากก็มีตัวเราจะไปขัดเกลากิเลส อกุศลอันนี้ไม่ดีนะ ต้องขัดเกลาด้วยศีล ศีลมาก่อนเลย ครบไหม 5 ข้อ 8 ข้อ
ท่านอาจารย์ ก่อนการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คนก็มีศีล แต่มีปัญญาเข้าใจความจริงไหม
คุณอรวรรณ แต่ดูเหมือนจะยากมาก เพราะชีวิตประจำวัน บันเทิงเริงรมย์กับอกุศล
ท่านอาจารย์ แล้วกิเลสที่สะสมมาที่จะบันเทิงเริงรมย์นั้นอยู่ไหน
คุณอรวรรณ ก็สะสมมา
ท่านอาจารย์ แล้วเมื่อไหร่จะหมด
คุณอรวรรณ ก็ต้องเข้าใจความจริง
ท่านอาจารย์ ก็ต้องมีความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะหมดได้ ถ้าไม่ปรากฏให้เข้าใจถูกต้องว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
คุณอรวรรณ ท่านอาจารย์ คะ สะสมที่จะร้องเพลง เล่นดนตรี
ท่านอาจารย์ เป็นไปตามการสสะสมที่เป้นธรรมไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ที่ถูกต้องคือ ให้เข้าใจถูกต้องว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
ถึงมีคำว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา การฟังธรรมเพื่อประจักษ์แจ้งธรรมทั้งหลายไม่เว้นเลย กำลังรับประทานอาหารอร่อย จะไม่ให้อร่อยเหรอคะ เห็นสิ่งที่สวยๆ งามๆ ได้ยินเสียงที่เพราะๆ จะไม่ให้เป็นอย่างนั้นเหรอ ห้ามได้ไหม (ไม่ได้) แต่รู้ได้ไหม (รู้ได้ค่ะ)
ความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม แต่ละขณะไม่เคยเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นและดับไป บังคับไม่ได้เลย คุณรัชนีวรรณ บุญชู (คุณเจี๊ยบ) เจ้าของบัฟฟาโรรีสอร์ทที่ได้เคยจัดการสนทนาธรรม ก็ได้มีโอกาสมา สนทนาธรรมที่กนกรัตน์รีสอร์ทครั้งนี้ด้วย คุณป้ารัชนีวรรณ ข้าพเจ้าเคารพรักในกุศลศรัทธาของคุณป้า ที่เจริญกุศลทุกๆ ประการ โดยไม่หวังผลตอบแทน มีน้ำใจอย่างยิ่ง มีโอกาสไปอินเดียกับข้าพเจ้าครั้งแรก เมื่อปี 2555 และครอบครัวบูญชู ก็เดินทางไปสนทนาธรรม ณ ต่างประเทศหลายๆ ครั้ง อันเป็นเหตุให้เจริญกุศล อบรมปัญญา นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เข้าใจ สนใจพระธรรมในหนทางที่ถูกต้อง ของ คุณรัชนีวรรณ บุญชู ข้าพเจ้าขอถอดถ้อยคำของความเข้าใจของคุณรัชนีวรรณที่สนทนาที่กนกรัตน์รีสอร์ท ดังนี้
คุณรัชนีวรรณ บุญชู กราบเรียนท่านอาจารย์และวิทยากรทุกท่าน ค่ะ หนูก็ไม่มีอะไรหรอก หนูเรียนมา หนูศึกษามาเนี่ย ก็คือ ตอนนั้นขันธ์ 5 ไม่รู้จัก แต่ตอนนี้เริ่มแล้ว เริ่มเข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้ก็มาก็ค่อยๆ เข้าใจ
และแล้ว..แม้แสงสุดท้ายของชีวิตจะหมดสิ้นไปในเวลาต่อมา แต่แสงพระธรรมของพระธรรม ที่ส่องสว่างกำจัดความมืด คือ กิเลสและอวิชชา ก็ยังส่องแสงสะสมต่อไปในภพหน้า อันเป็นการสะสมที่ประเสริฐ และเป็นการจากไปที่ประเสริฐในขณะที่มีการเข้าใจพระธรรม สนทนาธรรม
กระผมขอกราบด้วยความเคารพในคุณความดีของคุณป้ารัชนีวรรณ บุญชู ด้วยใจจริง และขออุทิศส่วนกุศลที่กระผมได้ทำแล้วในการเขียน ฟังพระธรรมครั้งนี้ อุทิศกุศลให้คุณป้ารัชนีวรรณ บุญชู ผู้เจริญกุศล อบรมปัญญาตามความเป็นจริง แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต ครับ นี่คือตัวอย่างของ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ที่ทำดีและศึกษาพระธรรม คุณ รัชนีวรรณ บุญชู หมายเลขสมาชิก 1150
แสงพระธรรม ไม่เคยห่างไปจากใจผู้สะสมปัญญา เพราะเป็นแสงแห่งปัญญาที่นำพาดับกิเลสได้ แม้จะเกิดไปในภพไหนอย่างไรก็ตาม
วีดีโอการสนทนาธรรมของคุณรัชนีวรรณ บุญชู ครั้งสุดท้ายในภพนี้ที่กนกรัตน์รีสอร์ท 2 ก.ค. 61
วีดีโอยูทูปสนทนาธรรมที่กนกรัตน์รีสอร์ท 2 ก.ค.61 เรื่อง แนวทางการพ้นทุกข์และละกิเลสที่ถูกต้อง
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลศรัทธา ของคุณสัมพันธ์และคุณนวรัตน์ พงษ์พรรณากูล
และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของคุณรัชณีวรรณ พระธรรมเป็นแสงสว่างนำทางสู่สุขติภูมิ สาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณรัชนีวรรณ แสงแห่งพระธรรมได้นำทางสู่สุคติภูมิค่ะ
